

บอกรัก ‘แม่สอด’ และชุมชน ผ่านเครื่องหอมแบรนด์ AMPHAN ที่นำถ้ำสีฟ้ามาเป็นแรงบันดาลใจในดีไซน์
Art & Culture / Art & Design
10 Feb 2025 - 5 mins read
Art & Culture / Art & Design
SHARE
10 Feb 2025 - 5 mins read
ถ้าของดีในชุมชนของคุณ คือ เมล็ดปาล์มเหลือทิ้งจากโรงสี เปลือกแมคคาเดเมีย และมะกรูด คุณคิดว่าจะสร้างมูลค่าจากวัตถุดิบเหล่านั้นอย่างไร
สำหรับ สันติ เครืออยู่ เขานำความชอบและความถนัดทางด้านศิลปะมาเป็นเครื่องมือในการแปลงวัสดุที่อาจจะดูไร้ค่าในสายตาคนอื่น มาผ่านขั้นตอนทางความคิดและกระบวนการออกแบบ จนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ธูปหอมใบไม้ ถ่านดูดกลิ่นลายก้อนหิน และก้อนหินหอมอโรมาลายถ้ำสีฟ้า ดีไซน์ Minimal สวยแปลกตาที่คว้ารางวัลระดับเอเชียมาครอง
AMPHAN (อัมพัน) คือชื่อแบรนด์เครื่องหอมดังกล่าว ซึ่งตั้งชื่อตาม คุณแม่อัมพัน เครืออยู่ ผู้จุดประกายผลิตภัณฑ์ต้นแบบอย่างธูปหอมไล่ยุง ซึ่งเดิมคุณแม่อัมพันและคนในชุมชนแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ผลิตใช้และขายเองภายในชุมชน จนกระทั่งลูกชายทั้งสองคนอยากเบนเข็มจากงานประจำในเมืองใหญ่ แล้วกลับมาอยู่ใกล้ชิดดูแลคุณแม่ ไปพร้อม ๆ กับการพัฒนาธูปหอมไล่ยุงให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ ‘กลิ่น’ ที่หลากหลายบนพื้นฐานของดีไซน์ที่ต้องสวยงาม ใช้งานได้จริง และบอกเล่าถึงเรื่องราวของชุมชนไปในตัว เพื่อสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนชุมชนด้วยผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
สันติ เครืออยู่
ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ AMPHAN (อัมพัน)
ธูปหอมใบไม้
“ผมมีความรู้ด้านการออกแบบอยู่แล้ว ดังนั้น สิ่งที่ทำในช่วงแรกที่เริ่มทำแบรนด์อัมพัน คือ การค้นหาข้อมูลการผลิตจากภูมิปัญญาดั้งเดิมของท้องถิ่น เริ่มด้วยการไปเยี่ยมเยียนโรงงานขายส่งโกบั๊วในละแวกบ้าน เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวยางของพืชชนิดนี้ที่ใช้เป็นส่วนผสมหลักในการทำให้ธูปเกาะติดกัน ผมเลยเกิดความคิดในการนำโกบั๊วมาผสานกับผงสมุนไพรอื่น ๆ จะได้ขึ้นรูปได้หลากหลายกว่าธูปในท้องตลาดที่แม้จะมีหลายสี หลายกลิ่น แต่กลับมีรูปทรงเป็นแท่งเหมือนกันไปหมด ดังนั้น เราต้องหาช่องว่างทางการตลาดจึงออกแบบธูปให้มีความแตกต่างด้วยการเริ่มต้นทำธูปรูปใบไม้”
“ผมใช้เวลาลองผิดลองถูกในการทำธูปใบไม้อยู่ประมาณสองปี ซึ่งตอนนั้นคุณแม่ก็ยังทำธูปสมุนไพรไล่ยุงขายในชุมชน ส่วนผมทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ จนเมื่อมีออเดอร์เยอะขึ้น จึงตัดสินใจกลับมาดูแลเรื่องการผลิตเต็มตัว และคิดว่าการกลับมาอยู่ที่บ้านน่าจะดีที่สุด”
“ส่วนพี่ชาย (อดิสรณ์ เครืออยู่) ซึ่งเดิมทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตในโรงงานผลิตลูกฟุตบอลที่ชลบุรีก็รู้สึกอิ่มตัวในการทำงาน และอยากจะกลับบ้าน เลยชวนมาช่วยกันทำ เพราะผมเองก็ทำคนเดียวไม่ไหว พี่ชายเลยกลับมาทำด้วยกันหลังจากที่ผมเริ่มก่อตั้งแบรนด์อัมพันได้ 5-6 ปี โดยเขารับผิดชอบด้านควบคุมการผลิต ส่วนคุณมน (พัชนัญณัฐฏ์ ฉิมมารักษณ์) ซึ่งเคยเป็นล่ามที่โรงงานเดียวกับพี่ชายก็มาช่วยด้านการตลาด ส่วนตัวผมเองดูแลเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นหลัก”
(จากซ้ายไปขวา) อดิสรณ์ เครืออยู่, สันติ เครืออยู่ และพัชนัญณัฐฏ์ ฉิมมารักษณ์
ถ่านดูดกลิ่นลายก้อนหิน
“หลังจากเริ่มทำธูปหอมได้สักระยะก็ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์อโรมา ที่มาพร้อมกับโจทย์ใหม่ ๆ จากลูกค้า เช่น อยากให้ออกแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้เหมือนก้อนหินที่มีลวดลาย และสามารถหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปได้ ผมจึงทดลองนำผงแคลเซียมมาผสมเข้ากับผงสมุนไพร จากนั้นนำมานวดเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นริ้วลาย”
“เมื่อแบรนด์เริ่มทำถ่านดูดกลิ่นเลยคิดว่าแทนที่จะเป็นถ่านสีดำพื้น ๆ น่าจะทำให้ออกมาหน้าตาคล้ายก้อนหิน จะได้นำไปวางตกแต่งบ้านได้ด้วย ผมเลยทดลองเอาผงแคลเซียม ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดูดซับความชื้นจึงช่วยยืดอายุการใช้งานของถ่านให้ดูดกลิ่นได้ยาวนานขึ้น มาผสมกับผงถ่านแล้วปั้นจนเกิดลวดลายคล้ายก้อนหิน ผมจึงส่งเข้าประกวดในโครงการ DEmark Award และได้รับรางวัลในปี 2019 ตามด้วยรางวัล G-Mark Award 2019 ที่ญี่ปุ่น และ Golden Pin Design Award 2020 จากไต้หวัน”
“จุดเริ่มต้นของการทำถ่านดูดกลิ่นเกิดจากการทดลองของพี่ชายที่ศึกษาหาข้อมูลแล้วพบว่า ถ่านดูดกลิ่นที่มีประสิทธิภาพดีจะต้องเป็นถ่าน Activate Carbon หรือถ่านที่ผ่านการเผาที่อุณหภูมิเกิน 1,000 องศาเซลเซียส เราจึงลองเผากระตุ้นถ่านให้อุณหภูมิสูงเกินพันองศา และพบว่าประสิทธิภาพดีขึ้นจริง ๆ หลังจากนั้นจึงไปปรึกษากับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ที่ได้ประสานกับทางจังหวัดลำปาง ซึ่งมีความรู้ความชำนาญในการทำเตาเซรามิค ให้เข้ามาช่วยเหลือและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำเตาเผา โดยเรานำมาประยุกต์กับเตาอิวาเตะที่ชาวญี่ปุ่นใช้เผาถ่าน จนในที่สุดเราก็ได้ถ่านที่มีประสิทธิภาพในการดูดกลิ่นที่ผ่านการตรวจสอบในแล็บที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน และได้ใบรับรองยืนยันคุณภาพ”
“นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการค้นหาวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม แทนที่จะทิ้งไปเปล่า ๆ เช่น เมล็ดปาล์มที่เหลือทิ้งจากกระบวนเผาในโรงสีข้าว หรือเปลือกแมคคาเดเมียที่แกะเอาเม็ดไปขายแล้ว เราก็ไปซื้อเปลือกเหล่านี้แล้วเอามาทำให้เกิดมูลค่า”
“แม้แต่มะกรูดที่นำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เราก็เลือกเฉพาะมะกรูดที่ปลูกในชุมชน ซึ่งแตกต่างจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ทำน้ำมันมะกรูดคราวละมาก ๆ โดยเราใช้ระยะเวลาการผลิตที่สั้น สอยมะกรูดวันนี้ พรุ่งนี้ปอกแล้วปั่น กลั่นเป็นน้ำมันทันที ทำให้แม้จะผลิตได้จำนวนน้อย แต่คุณภาพของน้ำมันที่ได้ทั้งสดและใหม่ ดังนั้น น้ำมันหอมระเหยมะกรูดของเราจึงไม่ได้มีขายตลอดทั้งปี และเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพ เราจะรับซื้อเฉพาะมะกรูดในชุมชนหรือในจังหวัดใกล้เคียงเท่านั้น”
หินหอมอโรมาลายถ้ำสีฟ้า
“ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์ของเราจะพูดถึงเรื่องของชุมชนและท้องถิ่นเป็นหลัก ดังนั้น การที่เราอยู่ในอำเภอแม่สอด ซึ่งแวดล้อมด้วยภูเขาและธรรมชาติ ผมจึงหยิบจับเอาสิ่งที่อยู่รอบตัวในท้องถิ่นมาเป็นแรงบันดาลใจหรือแนวทางในการออกแบบสินค้า ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ภูเขา อากาศ ศิลปะวัฒนธรรม ชนเผ่า ฯลฯ ที่สามารถนำมาประยุกต์เป็นลวดลายในชิ้นงานได้”
“ริ้วลายสวยงามแปลกตาภายในถ้ำสีฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่สำคัญในการออกแบบ ดังนั้น เมื่อแบรนด์อัมพันมีโอกาสได้ร่วมงานกับทางไทยประกันชีวิตที่ให้โจทย์มาว่า อยากให้แบรนด์ออกแบบก้อนหอมอโรมาที่บอกเล่าถึงสถานที่น่าสนใจในจังหวัดตาก ถ้ำสีฟ้าซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่จึงเป็นคำตอบที่ลงตัว เพราะถือเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดตากไปในตัว โดยผมออกแบบไว้ 2 ชุด ชุดแรกปั้นเป็นก้อนกลมแล้วมีริ้วรายสีขาวบนพื้นสีฟ้า และชุดที่สองออกแบบให้มีหน้าตาคล้ายภูเขา"
“สำหรับวัสดุที่เราเลือกใช้ในการทำผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ คือ กระดาษเหลือใช้จากโรงพิมพ์นำมาผสมสี เพราะเราตั้งใจสื่อสารเรื่องการนำทรัพยากรเหลือทิ้งมาใช้ให้เกิดประโยชน์หรือสร้างมูลค่า ผมเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ชุดนี้จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองอยู่ให้สามารถเกิดไอเดียต่อยอดใหม่ ๆ ตามมา”
“หลังจากนี้ ทางแบรนด์ก็ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการนำกระดาษเหลือใช้มาพัฒนาให้เกิดความหลากหลายในผลิตภัณฑ์มากขึ้น รวมถึงการนำวัสดุเหลือใช้อื่น ๆ มาทดลองทำชิ้นงานใหม่ ๆ เช่น ผงอิฐมวลเบาเหลือทิ้ง ที่ในระยะหลังมานี้ บริษัทผลิตสินค้าที่มีวัสดุเหลือทิ้งมักโทรมาปรึกษากับเราว่าสามารถนำวัสดุของเขามาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ได้ไหม โดยใช้เครื่องมือเป็นกระบวนการออกแบบและภูมิปัญญาที่เรามี”
กว่าจะเป็น Aroma Blue Stone Diffuser หินอโรมาถ้ำสีฟ้า
(ไทยประกันชีวิต Local Life, Local Love)
พิเศษ ! สำหรับผู้อ่าน LIVE TO LIFE รับส่วนลดพิเศษ 100 บาท/ชิ้น
เพียงแจ้งโค้ด : TLILOVELOCAL
*โปรโมชันนี้ สำหรับสินค้า Aroma Blue Stone Diffuser เท่านั้น
สนใจคลิก https://m.me/amphan.maesot
แบ่งปันความรักและความรู้สู่ชุมชน
“หลังจากที่ผมและพี่ชายตัดสินใจกลับมาอยู่บ้าน คุณแม่ก็มีความสุขที่ได้อยู่กับลูก ๆ พร้อมหน้าพร้อมตา เราได้เจอหน้าญาติพี่น้องทุกวัน เพราะทำงานที่บ้าน หรือเต็มที่ก็ไปออกงานแค่ปีละครั้ง เพื่อรับออเดอร์แล้วกลับบ้านมาผลิตสินค้า ตกเย็นก็คุยกันถึงเรื่องราวที่ได้เรียนรู้ในแต่ละวัน”
“นอกจากนี้ เรายังกระจายงานไปยังแต่ละครอบครัวในชุมชนโดยดูตามความถนัดที่แตกต่างกันออกไป เช่น บ้านนี้รับพับถุงกระดาษ บ้านอีกหลังรับทำกล่องไม้ อีกบ้านรับเย็บผ้าเพื่อทำถุงใส่ถ่าน และไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ หากมีทักษะความสามารถและความขยัน เราจะแจกจ่ายงานออกไปให้เขาผลิต เพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับเขาและครอบครัว”
“ที่นี่ยังเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านวิชาชีพของเทศบาลตำบลแม่ตาว เปิดโอกาสให้ชุมชนต่าง ๆ เข้ามาเรียนรู้การทำธูปหอม ถ่านดูดกลิ่น ฯลฯ โดยเราจะออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เขาไปชุดนึง เพื่อให้เขานำไปต่อยอดได้เอง และเกิดเป็นเครือข่ายผู้ผลิตร่วมกัน”
“นอกจากนี้ เรายังมี ‘ชนบทเวิร์กชอป’ แหล่งรวมกิจกรรมที่คนแม่สอดนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ มีกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการวาดรูปจากสีธรรมชาติ ทำธูปหอม ทำถ่านดูดกลิ่น ปั้นดินเหนียว อบพิซซ่าจากถ่านเหลือใช้ ฯลฯ เพราะเราเล็งเห็นว่าแม่สอดเจริญขึ้นมาก แต่เป็นความเจริญทางวัตถุ ด้วยความที่เป็นเมืองค้าขายติดชายแดน เราจึงอยากจัดกิจกรรมและทำผลิตภัณฑ์ที่ให้แนวคิดเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยนำธรรมชาติรอบตัวมาเป็นแรงบันดาลใจ”
“จนถึงตอนนี้ เราทุกคนในครอบครัวก็ยังมีแนวคิดเดียวกัน นั่นคือ เราไม่ได้ทำธุรกิจที่ต้องผลิตหรือจำหน่ายให้ได้กำไรเยอะ ๆ เราแค่อยากทำในสิ่งที่รักและสามารถผลิตได้ด้วยกำลังที่เรามีโดยไม่เหนื่อยจนเกินไป เพื่อให้ยังสามารถเลี้ยงชีพและอยู่ในชุมชนได้อย่างยั่งยืน และมีมากพอที่จะเผื่อแผ่ให้แก่เพื่อนบ้านของเรา”
ทำความรู้จักแบรนด์อัมพันเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : AMPHAN