

นั่งผิดชีวิตเปลี่ยน ! ปรับท่านั่งและเลือกเก้าอี้ Ergonomic Design กับนักการยศาสตร์ที่ร้าน Gaoii
Art & Culture / Art & Design
26 May 2025 - 5 mins read
Art & Culture / Art & Design
SHARE
26 May 2025 - 5 mins read
ใน 1 วัน คุณนั่งทำงานนานแค่ไหน ?
ข้อมูลสถิติที่น่าสนใจจาก Harvard Medical School ยืนยันว่า แต่ละวันคนเราใช้เวลาไปกับการนั่งมากถึง 10.4 ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้เอง การนั่งจึงเป็นอิริยาบถสำคัญที่คนทำงานควรใส่ใจอย่างจริงจัง เพราะการนั่งถูกท่าและถูกที่ย่อมส่งผลดีในทุก ๆ ด้าน ทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต
แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าก็คือ คนทำงานส่วนมากยังไม่รู้ว่า ควรนั่งด้วยท่าทางแบบไหนถึงจะเหมาะสม ? แล้วท่ามกลางตัวเลือกเก้าอี้มากมาย มีเก้าอี้ตัวไหนบ้างเหมาะกับการนั่งทำงานที่สุด ?
LIVE TO LIFE จึงตั้งใจชวนผู้อ่านทำความรู้จักเก้าอี้ Ergonomic Design ที่ออกแบบอย่างถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ ผ่านการพูดคุยกับ สยาม ธนาภรณ์ Certified Office Ergonomist เจ้าของ Gaoii Store ร้านที่รวบรวมเก้าอี้สำหรับนั่งทำงานโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ทุกคำตอบเกี่ยวกับการนั่งและการเลือกเก้าอี้ที่เป็นประโยชน์กับคนที่ต้องนั่งทำงานนาน ๆ
ความหมายของ Ergonomics หรือ การยศาสตร์ แท้จริงแล้วหมายถึงอะไร
“คำว่า Ergonomics หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า การยศาสตร์ คือศาสตร์แห่งการทำงาน เป็นหลักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาหาความสัมพันธ์ของคนทำงาน การทำงาน และสภาพแวดล้อมขณะทำงาน แล้วนำความรู้ที่ได้มาใช้ออกแบบอุปกรณ์ทำงาน จัดระเบียบท่าทาง และปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับสรีระร่างกายคนทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงหรือผลเสียต่อสุขภาพ ขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีกว่าเดิมครับ”
แล้ว Certified Office Ergonomist หรือ นักการยศาสตร์ที่คุณได้รับการรับรองจากสหรัฐอเมริกา ทำหน้าที่อะไร
“จริง ๆ แล้ว Ergonomist หรือนักการยศาสตร์ในต่างประเทศ จะแบ่งแยกย่อยเป็นอีกหลายสาขา แต่สาขาที่ผมเชี่ยวชาญคือ Office Ergonomics มีหน้าที่ดูเรื่องความปลอดภัยขณะนั่งทำงาน ผมต้องดูองศาการนั่งว่าคนทำงานนั่งถูกท่าไหม สภาพแวดล้อมพื้นที่ทำงานทั้งหมดโดยรอบเป็นอย่างไร เหมาะสมหรือยัง ดูระดับความสูงของเก้าอี้กับโต๊ะ ดูระยะการวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ ดูแล้วปรับทุกอย่างให้พอดีกัน”
ท่านั่งที่ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ เป็นอย่างไร
“คนไทยเรามีความเชื่อผิด ๆ ที่ผู้ใหญ่มักจะสอนเด็กต่อ ๆ กันมาว่า ต้องนั่งตัวตรงนะ คือนั่งให้หลังตั้งตรง 90 องศา แต่ท่านั่งที่ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ ควรนั่งพิงพนักให้หลังเอนประมาณ 110 องศา เพื่อไม่ให้เกิดแรงกดที่มีผลต่อหมอนรองกระดูก”
“คนทำงานควรนั่งเอนหลังเล็กน้อย เพราะถ้ายิ่งนั่งงอตัวยิ่งอันตราย ส่วนข้อเท้าและข้อเข่า ขณะนั่งต้องตั้งฉาก 90 องศา ต้องจัดระเบียบท่านั่งให้อยู่ในองศานี้ตลอดเวลา ที่สำคัญต้องไม่นั่งนานเกิน 1 ชั่วโมง นั่งครบชั่วโมงแล้วให้ลุกยืน เดินยืดเส้นยืดสายบ้าง แล้วค่อยกลับมานั่งในท่าที่ถูกต้องตามเดิม”
แสดงว่าคนที่นั่งผิดท่า ทั้งจากความไม่รู้และความเข้าใจที่ผิดไปจากหลักการยศาสตร์ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ร่างกายบาดเจ็บหรือเป็นออฟฟิศซินโดรมโดยที่ไม่รู้ตัว
“ถูกต้องครับ นั่งผิดท่าชีวิตเปลี่ยนแน่นอน เพราะการบาดเจ็บจากการนั่งทำงาน มักจะเริ่มจากท่านั่งที่ผิดแล้วนั่งท่านั้นซ้ำเป็นเวลานาน ต่อให้เปลี่ยนมาใช้เก้าอี้ตัวใหม่ที่รองรับสรีระร่างกายได้พอดี แต่ถ้ายังขืนนั่งผิดท่า นั่งไขว่ห้าง นั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้ นั่งพับขา นั่งงอตัว กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่านั่งผิดมาตลอด ก็ตอนที่ร่างกายบาดเจ็บเรื้อรังแล้วแสดงอาการออกมาว่าเป็นออฟฟิศซินโดรมนั่นแหละครับ ดังนั้น คนทำงานต้องปรับพฤติกรรมร่วมด้วย”
เมื่อพูดถึงเก้าอี้ ท่ามกลางตัวเลือกเก้าอี้เพื่อสุขภาพมากมายในท้องตลาด คนทำงานจะรู้ได้อย่างไรว่าเก้าอี้ตัวไหนออกแบบมาถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ หรือเป็นเก้าอี้ Ergonomic Design ที่ Certified Office Ergonomist ให้การยอมรับ
“ในสหรัฐอเมริกา มีกฎหมายบังคับใช้ชัดเจนว่า ทั้งเก้าอี้และอุปกรณ์สำนักงานที่ออกแบบถูกต้องและปลอดภัยตามหลักการยศาสตร์จะได้รับเครื่องหมายรับรองว่า Ergonomist Approved แต่กว่าที่เก้าอี้ตัวหนึ่งจะได้รับการรับรอง ก็ต้องผ่านการศึกษาวิจัย ผ่านการพิสูจน์อย่างละเอียดหลายขั้นตอน เพื่อไม่ให้ใครแอบอ้างได้ง่าย ๆ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกายและสวัสดิภาพคนทำงาน ซึ่งในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศทางฝั่งตะวันตกที่องค์ความรู้ Ergonomics พัฒนาไปไกลแล้ว จะยิ่งให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มาก ๆ”
“แต่ประเทศไทย เราต้องยอมรับว่ายังไปไม่ถึงจุดนั้น บางครั้งคำว่า ‘เก้าอี้เพื่อสุขภาพ’ หรือ ‘เก้าอี้ Ergonomic’ ก็มักจะถูกใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะนอกจากจะสร้างความเข้าใจผิด ๆ แล้วยังส่งผลเสียโดยตรงกับร่างกายคนนั่งได้”
“ถ้าสังเกตเก้าอี้ในท้องตลาด จะเห็นเก้าอี้หน้าตาคล้าย ๆ กัน คือปรับขึ้นลงได้ ปรับเอนได้ แบ่งพนักพิงเป็นส่วน ๆ ต่างกันแค่ ชื่อแบรนด์ ซึ่งมีหลากหลายขนาดและอาจจะไม่พอดีกับสรีระของแต่ล่ะบุคคล”
“แต่คนที่ไม่รู้ พอเห็นว่าเก้าอี้ตัวนี้ปรับนั่นปรับนี่ได้ มีการโฆษณาว่าเป็นเก้าอี้ Ergonomic ราคาเท่าไหร่ก็ซื้อ แต่ผมมักจะย้ำกับทุกคนว่า ถ้าเลือกเก้าอี้ผิด 2 ครั้ง ราคาที่เสียไปเท่ากับคุณได้เก้าอี้ Ergonomic อย่างดีจากแบรนด์ระดับโลก 1 ตัว”
“เพราะไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เก้าอี้ตัวเดียวจะเหมาะกับทุกคน ขนาดเสื้อผ้ายังแบ่งไซซ์ เก้าอี้ก็เหมือนกัน อย่าง Herman Miller แบรนด์เก้าอี้ Ergonomic ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ยังทำเก้าอี้ออกมา 3 ขนาด คือขนาดเล็ก ขนาดมาตรฐาน และขนาดใหญ่ เพื่อจะได้รองรับกับส่วนสูงและน้ำหนักตัวที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน ดังนั้น ควรขอคำแนะนำกับนักการยศาสตร์จะดีที่สุด”
แล้วเก้าอี้ Ergonomic Design ที่ได้มาตรฐานถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ ต้องมีหลักการออกแบบอย่างไร
“หลัก ๆ คือ ต้องออกแบบให้มีกลไกที่ปรับเข้ากับสรีระคนนั่งให้ได้มากที่สุด จุดแรกคือ พนักพิงหลัง แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มที่ใช้ผ้าขึงตึง มีจุดเด่นที่ระบายอากาศดีมาก เหมาะกับอากาศร้อนบ้านเรา แต่มีข้อจำกัดตรงขอบเก้าอี้ที่ค่อนข้างแข็ง หากคนนั่งมีสรีระไม่พอดีกับเก้าอี้ สะบักหลังจะชนกับขอบเก้าอี้ทำให้เจ็บ”
“ส่วนอีกกลุ่มใช้โฟม นุ่มกว่า กระจายน้ำหนักได้ดีกว่า เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาที่หลัง แต่ปัญหาคือเป็นเก้าอี้ที่ถูกออกแบบมาใช้ในเมืองหนาว ถ้านั่งนาน ๆ ในพื้นที่อบอ้าวจะยิ่งรู้สึกร้อน เพราะเบาะโฟมนี้ระบายอากาศไม่ได้”
“แต่ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ Ergonomic กลุ่มไหนก็ตาม พนักพิงหลังต้องมีลักษณะเว้าเข้าเพื่อรองรับกระดูกสันหลังส่วนเอวที่เว้าที่สุด เรียกระบบนี้ว่า Lumbar Support”
“จุดที่สอง คือ ที่วางแขน หรือ Armrest ต้องออกแบบให้ปรับเข้ามาชิดข้างลำตัวได้ครบ 6 ทิศทาง ขึ้นลง ซ้ายขวา หน้าหลัง เพราะว่าขณะนั่งทำงานต้องไม่กางแขนมากเกินไป คำถามคือจะรู้ได้อย่างไรว่าตำแหน่งวางแขนของคนคนนั้นถูกต้อง มีวิธีดูง่าย ๆ ให้ยืนขึ้นก่อน ปล่อยมือแนบลำตัว แล้วยกข้อแขนตั้งฉาก จะได้ตำแหน่งวางแขนที่พอดีกับสรีระตัวเอง”
“จุดที่สาม องศาการเอนพนัก ต้องสามารถปรับได้ละเอียดมาก ๆ คือปรับขึ้นลงทีละ 5-10 องศา จุดที่สี่ ความสูงต่ำของเก้าอี้ ต้องปรับได้เป็นหน่วยเซนติเมตร”
“จุดที่ห้า ที่พักคอ หรือ Headrest คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจว่าเก้าอี้ที่ดีต้องมีที่พักคอ แต่เก้าอี้ Ergonomic แทบจะทั้งหมด ไม่มีที่พักคอด้วยซ้ำ แม้แต่เนื้อหาบทเรียนที่ผมต้องเรียนเพื่อสอบให้ได้ใบรับรอง Certified Office Ergonomist ที่สหรัฐอเมริกา ก็ไม่มีส่วนใดเลยที่กล่าวถึง Headrest เพราะหลักของการยศาสตร์มองว่า เก้าอี้ Ergonomic มีไว้นั่งทำงาน ไม่ได้มีไว้นอนพัก จึงไม่จำเป็นต้องมีที่พักคอ ส่วนคนที่นั่งทำงานแล้วเมื่อยคอปวดคอ อาจเป็นเพราะจอคอมพิวเตอร์อยู่สูงหรือต่ำเกินไป ทำให้ต้องเชิดคอหรือก้มคอตลอดเวลา ถ้าเกิดจากสาเหตุนี้ ก็ต้องปรับความสูงใหม่ให้ขอบจออยู่ระดับพอดีกับตา”
“ทั้งหมดนี้คือ จุดสำคัญ ๆ ที่ใช้สังเกตเก้าอี้ Ergonomic ได้ครับ หรือจะเลือกตามแบรนด์เก้าอี้ Ergonomic ก็ได้ เพราะแต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นหรือหน้าตาเฉพาะที่เห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นเก้าอี้ Ergonomic แบรนด์อะไร”
“แต่กฎเหล็กข้อสำคัญของเก้าอี้ Ergonomic ที่ต้องรู้คือ ปรับเองตามใจไม่ได้เด็ดขาด แม้จะเป็นเก้าอี้ที่มีกลไกปรับให้เข้ากับสรีระได้ แต่การปรับเก้าอี้หรืออุปกรณ์ใด ๆ ก็ตามที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง Ergonomist Approved ต้องปรับโดยนักการยศาสตร์เท่านั้น ขนาดตัวผมก็ยังปรับให้ตัวเองไม่ได้ ต้องให้นักการยศาสตร์คนอื่นช่วยปรับให้ เพราะขึ้นอยู่กับรายละเอียดร่างกายของแต่ละคน”
อยากให้แนะนำแบรนด์เก้าอี้ Ergonomic ที่คนทำงานควรรู้จัก และเป็นแบรนด์ที่มีในร้าน Gaoii เผื่อคนที่สนใจจะได้เข้ามาขอคำปรึกษากับคุณสยามได้
“แบรนด์แรกที่อยากแนะนำคือ Herman Miller เพราะมีชื่อเสียงมากที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุด ผมมั่นใจว่าคนที่ศึกษาด้านการยศาสตร์ หรือคนที่สนใจเก้าอี้ Ergonomic ต้องรู้จักแบรนด์นี้กันทุกคน เก้าอี้ Ergonomic รุ่นแรกของแบรนด์คือ Aeron Chair (ราคา 49,000 บาท) ผลิตมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 ทุกวันนี้ยังได้รับความนิยม มั่นใจได้ในคุณภาพ จุดเด่นของ Herman Miller ก็อย่างที่บอกว่าทำเก้าอี้ออกมาหลายขนาด แต่ข้อจำกัดคือ การวางตำแหน่งของ Armrest ค่อนข้างอยู่ไกลตัว”
“แบรนด์นี้ยังเป็นเจ้าของเก้าอี้ Ergonomic ที่แพงที่สุดในโลกด้วย คือ รุ่น Embody (ราคา 70,000 บาท) เพราะผ้าที่คลุมพนักต้องทอด้วยเส้นใยพิเศษที่ผลิตในอิตาลีเท่านั้น ส่วนโครงสร้างพนักเก้าอี้เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Dot Pixel หรือ Pixelated Support แนบสนิทไปตามลายกล้ามเนื้อหลังของคนนั่ง ถึงมีราคาแพงที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นเก้าอี้ที่ดีหรือเหมาะกับทุกคน เพราะเก้าอี้ Ergonomic ที่ดีคือเก้าอี้ที่เข้ากับสรีระคนนั่ง”
“แบรนด์ที่สองที่ควรรู้จักคือ Steelcase เป็นเก้าอี้ที่เหมาะกับสรีระคนเอเชีย เพราะมี Armrest ของแบรนด์นี้เข้าลำตัวได้ใกล้มากกว่าแบรนด์อื่น ๆ จนกลายเป็นทั้งจุดเด่นและจุดขายของ Steelcase แล้วเป็นแบรนด์ที่มักจะผลิตพนักพิงเป็นเบาะโฟม เวลานั่งจะรู้สึกนุ่มสบาย”
“แบรนด์ที่สามคือ ITOKI จากญี่ปุ่น เป็นแบรนด์ที่แก้ Pain Point เรื่องขนาดตัวได้ โดยปกติผู้หญิงเอเชียค่อนข้างหาเก้าอี้ที่เข้ากับสรีระตัวเองได้ยาก แบรนด์ก็เลยทำเบาะนั่งที่ปรับให้หดสั้นได้เยอะ เหมาะกับผู้หญิงที่มีช่วงขาสั้น เพราะถ้าไปนั่งเก้าอี้แบรนด์อื่น เบาะเก้าอี้ที่ยื่นออกมามากเกินไปจะดันขาทำให้นั่งลำบาก”
กว่าจะได้เก้าอี้ Ergonomic ที่เข้ากับสรีระตัวเอง ร้าน Gaoii มีขั้นตอนให้บริการอย่างไร
“แต่ละวันจะมีคิวที่นัดล่วงหน้ามาก่อน เพราะตลอดกระบวนการต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่วัดค่าต่าง ๆ วิเคราะห์ท่านั่งและพฤติกรรมการทำงาน จนถึง Fitting หรือลองนั่งเก้าอี้จริง ๆ”
“ก่อนมาเจอกัน สิ่งที่ผมให้ทุกคนเตรียมมาคือ ภาพถ่ายท่านั่งทำงานด้านข้าง เพราะงานของผมคือปรับท่านั่งให้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ ภาพถ่ายจะฟ้องหมดเลยว่า ตำแหน่งและองศาท่าทางการนั่งถูกหรือผิดยังไง ใช้วิเคราะห์พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ร่างกายบาดเจ็บได้ ผมจะอธิบายว่าปัญหาของเขาอยู่ตรงจุดไหนบ้าง แล้วค่อยบอกท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง”
“หลายคนรีบร้อน เพราะดูรีวิวเก้าอี้ Ergonomic ของอินฟลูเอนเซอร์แล้วอยากใช้ตาม บางคนหาข้อมูลมาก่อน มีแบรนด์ที่อยากได้ในใจแล้ว ราคาเท่าไหร่เขาก็ยอมจ่าย ผมต้องรีบบอกว่าไม่ใช่แบบนั้น ตามหลักแล้วเราไม่ได้เลือกเก้าอี้ แต่เก้าอี้เป็นฝ่ายเลือกคนนั่งต่างหาก หน้าที่ของผมคือปรับเก้าอี้ตัวที่เข้ากับสรีระของคนคนนั้นแล้วให้เขาลองนั่งเปรียบเทียบกัน ผมจะย้ำว่าให้ใช้ความรู้สึกนั่งสบายเป็นตัวตัดสิน เหมือนกับสูทที่ต้องใส่พอดีตัว”
“ผมมองว่าที่นี่ไม่ได้ขายเก้าอี้ เพราะเก้าอี้หาซื้อที่ไหนก็ได้ แต่ที่นี่ให้บริการที่สร้างประสบการณ์ เก้าอี้ทุกตัวผมรับประกัน 12 ปี ดูแลกันยาว ๆ บางคนบอกว่าราคาเก้าอี้ค่อนข้างสูง แต่ถ้าหารเฉลี่ยรายปี ผมคิดว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ๆ เพราะเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพ เพื่อมีชีวิตที่ดีทำงานได้ราบรื่นครับ”
ที่ผ่านมาลูกค้าที่มาใช้บริการร้าน Gaoii เป็นอย่างไรบ้าง
“แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มครับ ลูกค้ากลุ่มแรกมาด้วยความสนใจอยากเปลี่ยนเก้าอี้ เป็นลูกค้าที่คุยสนุกคุยง่าย เพราะไม่ได้มาด้วยปัญหาใด ๆ แต่ลูกค้ากลุ่มนี้บางคนจะมาที่ร้านซ้ำ สมมุติเคยซื้อไปแล้ว ผ่านไปสักสองสามปี บอกผมว่านั่งเบื่อแล้ว อยากซื้อเก้าอี้ตัวใหม่มาเปลี่ยน”
“ผมต้องรีบอธิบายให้เขาเข้าใจว่า เก้าอี้ไม่ใช่สมาร์ตโฟน นั่งแล้วไม่มีปัญหาเท่ากับไม่มีเหตุผลให้ต้องเปลี่ยน เพราะเก้าอี้ Ergonomic ไม่ได้แข่งกันเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่แข่งกันว่าเก้าอี้แบรนด์ใครยืนระยะได้นานกว่ากัน มีอายุการใช้งานนานโดยไม่ต้องเปลี่ยนเลย”
“ลูกค้ากลุ่มสอง เป็นลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้านมากที่สุด คือคนทำงานที่รู้สึกแพนิค เพราะเห็นเพื่อนร่วมงานเป็นออฟฟิศซินโดรม ไปกายภาพบำบัด ไปยืดกล้ามเนื้อ แล้วกลัวว่าตัวเองจะเป็นเหมือนเพื่อนเลยรีบมาเปลี่ยนเก้าอี้ทำงาน ส่วนลูกค้ากลุ่มสาม เป็นลูกค้าที่บาดเจ็บเรื้อรังจนต้องใช้ยาหรือการผ่าตัดรักษา ผมจะบอกเขาตามตรงว่า กรณีนี้เก้าอี้ Ergonomic จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเฝือกอ่อนที่ช่วยประคับประคองอาการบาดเจ็บเท่านั้น ถ้าอยากหายต้องวางแผนการรักษากับหมอ”
อะไรคือสิ่งสำคัญที่คุณสยามอยากฝากไปถึงคนทำงานที่ยังลังเลหรือยังอาจคิดว่าเก้าอี้ Ergonomic เป็นเรื่องที่ห่างไกลตัว
“สุขภาพเป็นเรื่องที่ต่อรองไม่ได้ เพราะการนั่งผิดท่าที่คนคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องใหญ่ อาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นทำให้เกิดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท”
“เมื่อก่อนผมมักจะมีคำพูดติดปาก ถ้าคุณเป็นแพทย์รังสี ทันตแพทย์ กราฟิกดีไซเนอร์ โปรแกรมเมอร์ คุณต้องเลือกใช้เก้าอี้ Ergonomic โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ เพราะอาชีพคุณอยู่ในความเสี่ยงที่ร่างกายจะบาดเจ็บจากท่านั่งผิด ๆ”
“แต่ทุกวันนี้ คนที่ทำงานอะไรก็ตามที่นั่งนานจนเก้าอี้กลายเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของคุณไปแล้ว หมายความว่า ถ้าไม่ได้นั่ง คุณจะทำงานนั้นไม่ได้เลย ให้รีบปรับท่านั่งและสภาพแวดล้อมที่ทำงานตามหลักการยศาสตร์ เพราะการป้องกันไม่ให้เกิดย่อมดีกว่าหาวิธีเยียวยาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว อย่างน้อยที่สุด คนทำงานไม่ควรนั่งนิ่ง ๆ เกิน 2 ชั่วโมง ให้หมั่นลุกขึ้นยืนยืดเส้นยืดสายทุกชั่วโมง ก็พอจะช่วยได้บ้าง หรือมาที่ร้านก็ได้ครับ ให้ผมช่วยปรับท่านั่งและดูว่ามีเก้าอี้ Ergonomic ตัวไหนที่เหมาะสมกับสรีระของคุณ”
Gaoii Store
20/6 Unit E ซอยทองหล่อ 20 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เปิดบริการ : เวลา 10.00 - 19.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
โทร. : 02-192-5717, 086-300-7831
เว็บไซต์ : www.gaoii.co.th
Facebook : Gaoii Store