Grom อาร์ตทอยรีไซเคิลฝีมือคนไทย ที่เปลี่ยนขยะในทะเลเป็นของเล่นบอกเล่าความยั่งยืน

26 Jun 2025 - 4 mins read

Art & Culture / Art & Design

Share

รู้หรือไม่ ? ‘ของเล่น’ เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้ปริมาณพลาสติกมากที่สุดในโลก

 

สิ่งที่น่าเป็นห่วงท่ามกลางความนิยม ‘อาร์ตทอย’ ที่กำลังเป็นกระแสไปทั่วโลก ก็คือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต เพราะพลาสติกที่ใช้ผลิตอาร์ตทอยและของเล่นส่วนใหญ่ มีส่วนผสมจากสารเคมีและพลาสติกหลายชนิด ทำให้รีไซเคิลต่อได้ยากหรือรีไซเคิลไม่ได้เลย จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ปลายทางของอาร์ตทอยและของเล่นเหล่านี้ หากไม่ถูกนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ก็จะกลายเป็นขยะพลาสติกที่ตกค้างอยู่ในธรรมชาติไปอีกนาน

 

โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ชายฝั่งและทะเลทั่วโลกในปัจจุบัน ต่างกำลังประสบปัญหานี้ในระดับที่น่าเป็นห่วง แม้แต่ประเทศไทยเอง ก็ติดอันดับประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก ซึ่งมีปริมาณขยะมากถึง 22.8 ล้านกิโลกรัม และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี

 

จะดีกว่าไหม ? ถ้าอุตสาหกรรมของเล่นและอาร์ตทอยเปลี่ยนมาใช้ประโยชน์จากขยะพลาสติกรีไซเคิลที่ตกค้างอยู่ในธรรมชาติแทนได้

 

หนึ่งในคนที่ไม่เพียงมองเห็นปัญหานี้ แต่ยังมุ่งมั่นหาทางแก้ไขอย่างจริงจัง คือ จินต์ สถาพรสถิตย์สุข นักสะสมอาร์ตทอยและ Character Designer ที่ใช้ชีวิตใกล้ชิดหาดบางสัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มานานหลายปี จนเกิดเป็นความคิดริเริ่มเก็บรวบรวมขยะพลาสติกที่พบในทะเลและชายฝั่งมารีไซเคิลเป็นอาร์ตทอยในชื่อ ‘Grom’ ด้วยความตั้งใจใช้อาร์ตทอยนี้สะท้อนปัญหาสิ่งแวดล้อมและบอกเล่าความยั่งยืนถึงคนไทยทุกคน

 

ล่าสุด Grom ยังได้รับ รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม หรือ Design Excellence Award (DEmark) ในกลุ่ม Illustration & Character Design ประจำปีนี้ จากสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองผลงานที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ สร้างความแตกต่าง และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า

ภาพ : จินต์ สถาพรสถิตย์สุข

 

LIVE TO LIFE จึงอยากส่งต่อเรื่องราวเบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เปลี่ยนขยะพลาสติกสู่อาร์ตทอยผ่านบทสัมภาษณ์นี้ ด้วยความหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลาย ๆ คนเลือกใช้ความชอบและความถนัดของตัวเอง เพื่อช่วยกันเยียวยาธรรมชาติให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง

 

อะไรทำให้คุณหันมาสนใจปัญหาขยะที่ตกค้างอยู่บนชายหาดและในทะเล

“แต่ก่อนคิดว่าปัญหาขยะเป็นเรื่องไกลตัว ผมคิดแบบนั้นมาตลอด เพราะผมเกิดและโตที่กรุงเทพฯ ใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองที่มีพร้อมทุกอย่าง มีขยะในมือใช่ไหม ? ก็แค่ทิ้งให้ลงถัง จนกระทั่งผมเริ่มทำแบรนด์ ThaiVetro เป็นแบรนด์ออกแบบเครื่องประดับจากแก้ว แล้วเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่กรุงเทพฯ ทำให้โรงงานเสียหาย ผมจึงตัดสินใจย้ายมาลงหลักปักฐานที่เขาหลัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาแทน เพราะเป็นบ้านของภรรยา”

ภาพ : ThaiVetro

 

“แบรนด์ก็โตขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่ามีคนญี่ปุ่นให้ความสนใจเยอะ จนผมมีโอกาสขยายธุรกิจไปที่ญี่ปุ่น ที่นั่นให้ประสบการณ์ใหม่เยอะมาก โดยเฉพาะระบบการแยกขยะ บ้านเมืองเขาบังคับว่าต้องแยกขยะก่อนทิ้ง แบ่งละเอียดเป็น 19 ประเภท ทำให้ผมเห็นว่า ขยะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่เคยคิด ถ้ามีระบบดี ทุกคนก็ทำตามได้สะดวก ตัดภาพกลับมาที่ไทย ทุกอย่างดูเป็นเรื่องยากทันที เพราะประเทศเรายังไม่มีระบบจัดการขยะที่ดีพอ”

 

“ตอนแรกผมตั้งใจไปเปิดโรงงานที่ญี่ปุ่น แต่ต้องปรับแผนใหม่เพราะโควิด-19 ระบาดหนัก เปลี่ยนมาเปิดคาเฟ่ Garang ขายไอศกรีม เครื่องดื่ม เครื่องประดับ และของที่ระลึกริมหาดบางสักแทน พอได้อยู่ใกล้ชิดกับทะเลมาก ๆ ผมเริ่มสังเกตเห็นว่าที่นี่มีขยะเยอะมาก แล้วพวกปูเสฉวนที่เคยมีเต็มชายหาด ก็ลดลงเรื่อย ๆ ทำให้ผมกลับมาคิดว่า นอกจากเก็บขยะทิ้งแล้ว ยังทำอะไรได้อีกบ้างเพื่อแก้ปัญหาเรื่องขยะในพื้นที่

ภาพ : Garang

 

“ผมจึงออกแบบ Character ชื่อว่า ‘น้องปังหา (PangHa)’ แล้วทำเป็นประติมากรรมสูง 3 เมตร ตั้งไว้ข้างร้าน เพราะต้องการให้คนที่มาคาเฟ่เห็นว่า ตอนนี้มีปัญหาขยะในทะเล และบอกสิ่งที่ทุกคนทำได้ทันทีเพื่อช่วยกันหยุดยั้งปัญหานี้ คือ แยกขยะและทิ้งขยะให้ลงถัง ขยะจะได้ไม่ตกค้างอยู่ในชายฝั่งและทะเล แต่เหมือนไม่มีอะไรดีขึ้น”

 

อะไรทำให้คุณไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาขยะไปก่อน จนต่อยอดมาเป็นอาร์ตทอยจากขยะรีไซเคิล

“ผมยอมรับว่าเคยยอมแพ้กับปัญหาขยะในทะเลไปแล้ว เพราะเหนื่อยใจ เก็บเท่าไหร่ก็ไม่หมด มีขยะเกิดขึ้นใหม่ทุกวัน เพราะหาดบางสักทั้งยาวและกว้าง แต่ผมทำได้แค่เดินเก็บขยะในพื้นที่ของตัวเอง จนกระทั่งเดือนกรกฎาคมปีก่อน ขณะที่ผมกำลังเล่นเซิร์ฟบอร์ดโต้คลื่นกับเพื่อน ปรากฏว่ามีขยะพลาสติกลอยมาชนขา ตอนนั้นผมรู้สึกว่า หนักหนาเกินไปแล้ว ถึงขนาดลอยมาชนได้ แสดงว่าในทะเลต้องมีขยะเยอะมาก ๆ ก็เลยคุยกับเพื่อนที่ทำงานในโรงงานผลิตเซิร์ฟบอร์ดว่า เราต้องลงมือทำอะไรกันสักอย่างแล้ว ดีกว่ามาย้อนนึกเสียใจภายหลังว่าเราไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นเลย”

ภาพ : จินต์ สถาพรสถิตย์สุข

 

“ผมเริ่มจากดูกระแสในตลาดว่าอะไรกำลังมา เหมือนเวลาโต้คลื่นต้องโต้ตอนมีคลื่นถึงจะไปได้ไกล เพราะถ้ากระแสคลื่นหมด น้ำกลับมานิ่ง เราต้องออกแรงพายเอง ซึ่งค่อนข้างเหนื่อย ตอนนั้นกระแสอาร์ตทอยกำลังมา ผมเลยตัดสินใจกับเพื่อนว่าจะทำอาร์ตทอยจากขยะพลาสติก”

 

“หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ก็ต้องหาแรงบันดาลใจเพื่อสร้าง Character พอดีหาดบางสักมีแหลมปะการัง ตอนน้ำลงจะเห็นซากปะการังกองมหึมา แล้วคนท้องถิ่นก็จะลงไปแทงหมึกสายที่อาศัยอยู่ตามซอกปะการังเอามากินเอามาขาย แต่คนที่นี่เรียกว่าหมึกโวยวาย กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผมสร้าง Character ชื่อว่า ‘Grom (กรอม)’ เป็นเด็กผู้ชายที่มีผมเป็นหนวดของหมึกโวยวาย คิดว่าน่าจะสร้างความแตกต่างและความโดดเด่นได้”

ภาพ : Grom.arttoy

 

“เมื่อได้ไอเดียตั้งต้นแล้ว ผมจึงตั้ง Reborn Studio ขึ้นมา ตั้งใจให้เป็นสตูดิโอที่ผลิตรีไซเคิลอาร์ตทอยโดยเฉพาะครับ ส่วนทีมทำงานก็ได้เพื่อน ๆ อีกหลายคน ทั้งเอก, ชอร์, ชมพู่, สังอี มาเป็นกำลังหลักช่วยกันทำ เราเริ่มผลิต Grom เป็นผลงานแรก แล้วก็ทำ Character อื่น ๆ ด้วยครับ อย่างเช่น Nong Joong (น้องจุ้ง) ที่ผมต่อยอดมาสคอตของจังหวัดภูเก็ตเป็นรีไซเคิลอาร์ตทอยครับ”

น้องจุ้งกับน้องกรอม
ภาพ : จินต์ สถาพรสถิตย์สุข

 

อยากทราบความหมายของชื่อ Grom และเรื่องราวที่คุณสร้างให้ Character นี้

“Grom ไม่ใช่คำไทย แต่เป็นคำสแลงจากภาษาออสเตรเลียที่ใช้ในวงการเซิร์ฟ ปกติเอาไว้เรียกเด็กอายุไม่เกิน 18 ปีที่เล่นเซิร์ฟเก่ง แต่ก็ใช้เป็นชื่อเรียกโปรแกรมแข่งขันเซิร์ฟรุ่นเยาวชนด้วย”

 

“ส่วนเรื่องราวของ Grom น้องเป็นเด็กจากชนเผ่ามอแกนที่มีวิถีชีวิตใกล้ชิดกับทะเล อาศัยอยู่ที่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ก็ชอบมาเล่นเซิร์ฟที่เขาหลัก เหตุผลส่วนหนึ่งที่ผมออกแบบน้องเป็นนักโต้คลื่น เพราะอยากส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เขาหลักด้วย ช่วยผลักดันแคมเปญ Khaolak Surf Town ให้เขาหลักเป็นจุดท่องเที่ยวในช่วง Low Season เพราะเป็นทะเลฝั่งอันดามันที่มีคลื่นมาก เหมาะสำหรับเล่นเซิร์ฟที่สุด”

 

“จริง ๆ แล้วผมตั้งใจวางเนื้อเรื่องของ Grom ให้มีความคลุมเครือ เพราะประวัติความเป็นมาของ Character นี้ข้องเกี่ยวกับอารยธรรมโบราณหลายหมื่นปีก่อน ในยุคที่ยังเป็นแผ่นดินผืนใหญ่ ไม่มีทะเลลึกอย่างทุกวันนี้ แต่คนยุคนั้นกลับไม่เคารพธรรมชาติ จนธรรมชาติเสียสมดุล ทำให้เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่จนแผ่นดินส่วนหนึ่งต้องจมลงใต้ทะเล”

 

“Grome จึงเป็นเหมือนตัวแทนของธรรมชาติที่มาเตือนทุกคนให้รู้ถึงผลกระทบของขยะพลาสติกที่ตกค้างอยู่ริมชายหาดและในทะเล ผมตั้งใจให้ Grom เป็น Character เพื่อจุดประกายการอนุรักษ์และเตือนใจคนในปัจจุบันว่าอย่าทำผิดซ้ำสอง อย่าทิ้งขยะ แต่เรื่องราวของ Grom ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ให้เล่าอีกเยอะมาก ผมจะค่อย ๆ สื่อสารให้คนหันมาเอาใจใส่ปัญหาขยะในธรรมชาติกันมากขึ้น”

 

กว่าจะเปลี่ยนขยะพลาสติกให้สำเร็จเป็นอาร์ตทอย Grom ต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง

“เริ่มจากการออกแบบท่าทางให้ Grom ก่อน ว่าอยากให้น้องทำท่าอะไรเพื่อสื่อสารอะไร เมื่อได้ภาพร่างต้นแบบ 2 มิติแล้ว ก็นำไปทำเป็นภาพ 3 มิติ เพื่อดูท่าทางและสัดส่วนให้เป็นไปตามภาพต้นแบบ หลังจากปรับจนพอใจ ผมจะสั่งพิมพ์ออกมาเป็นโมเดลตัวอย่าง ขั้นตอนนี้ผมจะตรวจดูอย่างละเอียดว่า สัมผัสของชิ้นงานโอเคไหม มีส่วนไหนเป็นมุมเหลี่ยมคมที่จับแล้วไม่สบายมือหรือเปล่า ที่สำคัญคือต้องตั้งได้ วางแล้วไม่เอียงหรือล้ม ถ้าส่วนไหนมีปัญหาก็ต้องปรับปรุงผลงานอีกรอบจนกว่าจะสมบูรณ์ แล้วค่อยพิมพ์ชิ้นงานจริงด้วยขยะพลาสติกรีไซเคิล ขั้นตอนสุดท้ายคือลงสีด้วยมือ”

ภาพ : Grom.arttoy

 

“แล้วด้วยความที่ผมกับเพื่อนยังเป็นมือใหม่มาก ๆ ลองผิดลองถูกกันเอง อาร์ตทอย Grom ล็อตแรกจึงใช้พลาสติกรีไซเคิลแค่ 30% แต่ผมตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอยากทำให้ Grom ผลิตจากขยะพลาสติกรีไซเคิล 100% พยายามทดลองปรับเปลี่ยนวัสดุและเทคนิคที่ใช้ผลิตอาร์ตทอยมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้เป็นล็อตที่ใช้ขยะพลาสติกรีไซเคิลได้มากถึง 90% เพราะใช้เทคนิคพิมพ์แบบใสด้วยเรซินให้ข้างในกลวง เพื่อจะได้ใส่เศษพลาสติกจากฝาขวดน้ำเข้าไปแทน ช่วยลดขั้นตอนการลงสีไปได้เยอะมาก แล้วยิ่งทำให้เห็นชัดเจนว่าในตัวน้องมีพลาสติกรีไซเคิลอยู่ เกิดเป็นความสวยงามแบบลิมิเต็ด เพราะแต่ละตัวมีสีสันไม่เหมือนกันเลย”

ภาพ : Grom.arttoy

 

อาร์ตทอย Grom 1 ตัว ช่วยลดขยะพลาสติกไปได้มากแค่ไหน

“ขยะพลาสติกที่ Grom ใช้คือฝาขวด เพราะจัดการง่ายและมีขั้นตอนรีไซเคิลไม่ยุ่งยาก จากอาร์ตทอย Grom ทั้งหมด 8 แบบ แต่ละแบบมีขนาดตัวไม่เท่ากัน ทำให้ใช้ปริมาณฝาพลาสติกมารีไซเคิลไม่เท่ากันตามไปด้วย มีทั้งแบบที่ใช้ฝาเยอะประมาณ 120 ฝา และแบบที่ใช้ฝาน้อยประมาณ 60 ฝา แต่โดยเฉลี่ยแล้ว Grom 1 ตัวช่วยลดฝาพลาสติกไปได้ประมาณ 100 ฝา”

 

คุณเก็บหรือรวบรวมฝาพลาสติกด้วยวิธีการใด เพราะอาร์ตทอย Grom 1 ตัวใช้ฝาค่อนข้างเยอะ

“ช่วงแรกผมกับน้อง ๆ พนักงานในคาเฟ่เดินเก็บกันเองตามริมหาดบางสัก ทำไปได้สักพักผมอยากให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือเป็นวงกว้าง เลยติดต่อไปยังร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และคนในพื้นที่ใกล้เคียง คุยกับเขาว่าเรากำลังทำอะไร ถ้าเขาสนใจ ก็เก็บฝาแล้วส่งมาให้เรา”

ภาพ : Grom.arttoy

 

“พอเริ่มมีคนสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมจึงทำแคมเปญ เก็บฝากับกรอม บนเพจ เปิดกว้างในคนทั่วประเทศที่อยากมีส่วนร่วมส่งฝาพลาสติกมารีไซเคิล แลกกับของรางวัลที่ผมส่งกลับไปเป็นการแลกเปลี่ยน เพราะไม่อยากให้เป็นการบริจาคหรือส่งมาฟรี ๆ ปรากฏว่าได้ฝามาเยอะกว่าที่คิดไว้มาก แสนกว่าฝา ตอนนี้ยังเก็บไว้ในโกดัง ค่อย ๆ แบ่งออกมารีไซเคิล เพราะผลิตได้ทีละน้อย”

 

“ในอนาคต ผมจะเริ่มแคมเปญใหม่ 1 ฝามีค่า 1 บาท สำหรับใช้เป็นส่วนลดแลกซื้ออาร์ตทอยได้สูงสุด 500 ฝา ลดได้ 500 บาท เพราะมีคนถามเข้ามาตลอดว่ายังรับฝาอยู่ไหม เขาอยากส่งมาให้ ทำให้เห็นว่าคนไทยตื่นตัวกันมากขึ้น ฝากติดตามแคมเปญนี้ได้ที่เพจครับ”

 

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผลิตได้ทีละน้อย

“อาร์ตทอย 1 ตัวใช้เวลาผลิตประมาณ 14 วัน เพราะทีมงานที่ทำนับจำนวนคนได้ ส่วนใหญ่คือเพื่อนที่มาช่วยกันทำ เราเริ่มงานกันตอน 1 ทุ่ม เพราะทุกคนมีงานประจำ กว่าจะเสร็จบางวันก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว”

ภาพ : จินต์ สถาพรสถิตย์สุข

 

“ช่วงที่มีออร์เดอร์เข้ามามาก ๆ เราทำกันแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะต้องทำมือทุกขั้นตอน โดยเฉพาะขั้นตอนกรอกเศษฝาขวดพลาสติกเข้าไปในชิ้นงาน ซึ่งใช้เวลามาก ต้องคอยดูว่าสีไหนอยู่ตรงส่วนไหน อีกขั้นตอนที่ใช้ทั้งเวลาและฝีมือคือ การลงสีด้วยพู่กัน เราทำงานศิลปะ เร่งรีบไม่ได้ เพราะต้องควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน”

 

“เคยมีความคิดว่าจะส่งให้โรงงานผลิต พอได้ศึกษาวิธีทำอาร์ตทอยในประเทศไทยพบว่ามีข้อจำกัดเรื่องการผลิตค่อนข้างเยอะและใช้ต้นทุนสูงมาก ถ้าต้องการต้นทุนให้ถูกลงต้องไปสั่งผลิตกับประเทศจีน แต่การผลิตกับโรงงานไม่ว่าจะที่ไหนก็ไม่ตอบโจทย์ความตั้งใจแรกของผมที่ต้องการจัดการเอาขยะพลาสติกที่รวบรวมได้ในพื้นที่มาทำอาร์ตทอย สุดท้ายยังยืนยันวิธีการเดิม เราทำกันเองดีกว่า”

 

“มีอีกหลายอย่างที่ผมอยากทำมาก ๆ เช่น ทำกล่องสุ่มอาร์ตทอย Grom 12 แบบ แต่ไม่ได้เริ่มทำสักที เพราะเรามีกันอยู่แค่นี้ กำลังคนไม่พอ หวังว่าในอนาคตเราจะเพิ่มกำลังผลิตได้โดยใช้วิธีที่เป็นมิตรกับโลก อยากให้ทุกคนเข้าถึงอาร์ตทอย Grom ได้มากกว่านี้”

ภาพ : Grom.arttoy

 

ที่ผ่านมาผลตอบรับของอาร์ตทอย Grom เป็นอย่างไรบ้าง ทั้งจากคนไทยเองและคนต่างชาติ

“ทุกครั้งที่มีโอกาสไปออกบูธในงานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่างญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจีน ได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาดครับ มีคนพรีออเดอร์เยอะมาก ๆ แต่เรายังยืนยันว่าจะทำอาร์ตทอยตามยอดสั่งจองเท่านั้น ไม่ได้ทำสต๊อกเอาไว้ก่อน เพราะไม่ได้ทำเพื่อยอดขาย เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนมาตลอดว่า ทำเพื่อหาหนทางลดขยะที่ตกค้างบนหาดกับในทะเล”

 

อาร์ตทอย Grom 1 ตัว ราคาเท่าไหร่

“ด้วยข้อจำกัดด้านแรงงานกับขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้เวลาและฝีมือ ผมตั้งราคาขายไว้ที่ 1,588 บาท ราคานี้สำหรับนักสะสมอาร์ตทอยจะมองว่าไม่แพง เพราะเป็นงานฝีมือคนไทย แต่ถ้าเป็นคนทั่วไป อาจจะมองว่าแพง เพราะเปรียบเทียบกับราคาอาร์ตทอยส่วนใหญ่ในท้องตลาดอยู่ในช่วงราคา 350-650 ทำให้ Grom มีราคาสูงกว่า 3 เท่า”

 

“ราคาที่ค่อนข้างสูง กลายเป็นข้อจำกัดที่ทำให้คนเข้าถึงได้น้อย เกิดเป็นโจทย์ใหม่ให้ผมคิดต่อไปว่า จะทำยังไงให้ราคาถูกลง เพราะผมเองก็อยากให้คนทั่วไปเข้าถึง Grom ได้ด้วย พร้อมกับระบายจำนวนขยะพลาสติกในโกดังให้รีไซเคิลขยะได้เยอะ ๆ”

ภาพ : Grom.arttoy

 

คุณค่าของศิลปะอยู่ตรงที่มีพลังสร้างการเปลี่ยนแปลง ในฐานะศิลปินที่สร้างสรรค์ Grom คุณเชื่อมั่นว่าในพลังของ Character นี้อย่างไร

“อาร์ตทอยทั่วไปดึงคนเข้าไปอยู่ในโลกจินตนาการของ Character นั้น ๆ แต่อาร์ตทอย Grom ทำสิ่งที่ต่างออกไป Grom จะพาทุกคนกลับมาอยู่กับความเป็นจริง เพราะตัวของ Grom เป็นศิลปะที่เกิดจากขยะ การรู้จัก Grom จึงเท่ากับว่าได้รับรู้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ ดังนั้น ยิ่งมีคนรู้จัก Grom มากเท่าไหร่ ยิ่งช่วยสื่อสารประเด็นขยะในธรรมชาติไปถึงผู้คนได้มากเท่านั้น ผมเชื่อว่าทุกคนจะหันมาสนใจและใส่ใจขยะรอบตัวมากขึ้นตามไปด้วย”

ภาพ : Grom.arttoy

 

อยากบอกอะไรถึงคนเห็นอาร์ตทอย Grom เป็นแรงบันดาลใจให้ใช้ความชอบหรือความถนัดของตัวเอง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม

“ถ้าคิดอะไรได้แล้ว อยากให้เริ่มลงมือทำเลย เพราะถ้ารอให้พร้อมก่อน อาจไม่ได้ทำเลยก็ได้ เพราะเรากำลังทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อม เชื่อผมเถอะว่าไม่มีคำว่าพร้อม 100% ตั้งแต่แรก ต้องค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ต่อเนื่องและยั่งยืน เริ่มเปลี่ยนตั้งแต่ระดับพฤติกรรมของคนในพื้นที่ไปจนถึงระดับระบบหรือนโยบายในภาคการเมือง หากติดขัดอะไรก็มาแลกเปลี่ยนกันได้ครับ ผมยินดีมาก ๆ เพราะอยากให้ทุกคนที่มองเห็นปัญหา มีส่วนร่วมทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้น มาช่วยกันส่งเสียงเยอะ ๆ”

 

ทำความรู้จัก Grom และสั่งจองอาร์ตทอยได้ที่

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...