

‘รวยหนัด’ พัดสานของร้านดาษดื่น สงขลา ที่ต่อยอดภูมิปัญญาไทยด้วยภาษาใต้
Art & Culture / Art & Design
27 Oct 2025 - 5 mins read
Art & Culture / Art & Design
SHARE
27 Oct 2025 - 5 mins read
‘ประเทศไทย’ เป็น ‘เมืองร้อน’ ซึ่งร้อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ความจริงข้อนี้ยืนยันได้จากบันทึก Histoire du Royaume de Siam เขียนโดยฟรังซัวส์ อังรี ตุรแปง (François-Henri Turpin) นักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ซึ่งได้บรรยายถึงฤดูกาลในสมัยกรุงศรีอยุธยาราวปี พ.ศ. 2300 ไว้อย่างน่าสนใจว่า
“...หน้าแล้งเป็นฤดูร้อน เดือนที่สาม ที่สี่ และที่ห้า เป็นหน้าร้อนน้อยของเขา อีกเจ็ดเดือนที่เหลือ เขาถือเป็นหน้าร้อนใหญ่…ตัวเขาหงุดหงิดเพราะอากาศร้อน...”
เมื่อมองประเทศไทยในวันวานผ่านสายตาของชาวต่างชาติ จะเห็นว่า ‘ฤดูร้อน’ ของเรานั้นยาวนานถึง 10 เดือนเต็ม และดูเหมือนว่าบรรพบุรุษคนไทยในตอนนั้นก็ดูไม่ค่อยชอบใจกับหน้าร้อนเท่าไหร่ แต่คงเป็นเพราะความเก่งในการปรับตัว ประกอบกับภูมิปัญญาของคนไทยสมัยอยุธยาที่ต้องการหาหนทางคลายร้อน จึงคิดประดิษฐ์สิ่งของโดยใช้ประโยชน์จากวัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่าย รวมกับฝีมือด้านหัตถกรรมพื้นบ้าน กลายเป็นจุดกำเนิดของ ‘พัดสาน’
ถึงแม้ว่าคนไทยจะรู้จักและคุ้นเคยกับพัดสานเป็นอย่างดี แต่ภาพจำของพัดสานผ่านสายตาคนไทยสมัยนี้ อาจมองเห็นเป็นของใช้ประจำตัวคนเฒ่าคนแก่มากกว่า คือเหมาะให้ผู้หลักผู้ใหญ่เอาไว้ใช้พัดคลายร้อน หรือใช้พัดเตาฟืนยามจุดไฟเท่านั้น
หนึ่งในคนที่มุ่งมั่นเปลี่ยนภาพจำให้พัดสานดูไม่น่าเบื่ออีกต่อไป คือ เอ๋ - ปกรณ์ รุจิระวิไล นักออกแบบแห่ง a.e.y.space พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะในย่านเมืองเก่าสงขลา ผู้ผลักดันและทำงานศิลปะสร้างสรรค์ในจังหวัดสงขลามายาวนานกว่า 10 ปี ได้ตัดสินใจก่อตั้ง ‘ดาษดื่น’ ร่วมกับนักออกแบบรุ่นใหม่ในเมืองสงขลาอีก 2 คน คือ แอม - พิสุทธิ์พักตร์ สุขวิสิทธิ์ และ มะปราง - สีตวรรณ สิงหเศรษฐ เพื่อให้เป็นร้านขายของฝากและของที่ระลึกในจังหวัดสงขลาที่รวบรวมผลงานของศิลปินท้องถิ่นเอาไว้ ด้วยความตั้งใจจะยกระดับงานฝีมือไทยให้มีมูลค่าและเสน่ห์ร่วมสมัย โดยใส่มนตร์เสน่ห์ของปักษ์ใต้ให้ของที่ดูธรรมดากลายเป็นไอเท็มแปลกตาและน่าสนใจ
เอ๋ - ปกรณ์ รุจิระวิไล
ขอบคุณภาพจาก Aey Pakorn Rujiravilai
บริเวณหน้าร้านดาษดื่น และสินค้าภายในร้าน
ขอบคุณภาพจาก Aey Pakorn Rujiravilai
แต่ผลงานชิ้นโบแดงของร้านดาษดื่น ต้องยกให้กับ ‘พ้ดสานรวยหนัด’ ที่โกอินเตอร์ไกลถึงกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังจาก ครูลูกกอล์ฟ (คณาธิป สุนทรรักษ์) ได้ซื้อไปใช้ตอนกลับมาเยี่ยมบ้านที่สงขลา ก่อนจะมอบเป็นของที่ระลึกให้กับ ลิซ่า BLACKPINK จนพัดสานรวยหนัดกลายเป็นไอเท็มสุดฮอตที่ร้อนแรงยิ่งกว่าอากาศประเทศไทย เพราะมียอดสั่งซื้อเข้ามาอย่างล้นหลามในชั่วข้ามคืน
เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้คนไทยมองหาโอกาสต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ไทย LIVE TO LIFE จึงอยากชวนทุกคนมาชวนสำรวจต้นทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยในท้องถิ่นของตัวเอง ผ่านเรื่องราวเบื้องหลังก่อนที่พัดสานภาษาใต้ของร้านดาษดื่นจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้
แรงบันดาลใจจากปักษ์ใต้บ้านเรา
จุดเริ่มต้นของไอเดียพัดสานภาษาใต้ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2566 จากความประทับใจของคุณเอ๋ที่ได้เห็นป้ายผ้าประชาสัมพันธ์งานบุญของวัดเลียบ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ในย่านเมืองเก่าสงขลา
“วัดเลียบเป็นวัดที่ใช้คำภาษาใต้สื่อสารกับญาติโยมที่มาทำบุญ เจ้าอาวาสท่านจับพู่กันเขียนป้ายด้วยตัวเอง เน้นใช้คำสั้น กระชับ เข้าใจง่าย ได้ใจความ ผมเห็นแล้วเลยได้ไอเดียต่อยอดว่า ตัวเราเองก็คุ้นเคยกับภาษาใต้มาตลอด ถ้านำไปใส่ในงานศิลปะหรือของใช้สักชิ้น น่าจะออกมาสนุกและแฝงอารมณ์ขันแบบไทย ๆ”
ขอบคุณภาพจาก Aey Pakorn Rujiravilai
“ผมคิดต่อไปว่า ในเมื่อภาคใต้เป็นภาคเดียวในประเทศไทยที่มีเพียง 2 ฤดู ถ้าไม่ร้อนจัดก็ฝนตกหนัก ถึงจะมีฝนตกตลอดปีก็จริง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังร้อนอยู่ ผมถามตัวเองว่า ร้อนแล้วนึกถึงอะไร ? คำตอบแรกที่นึกออก คือ พัดสานของเรานี่แหละที่ใช้ได้ทั้งพัดคลายร้อนและบังแดด”
“ผมตั้งใจหยิบยกของใช้ที่ดูธรรมดา ดูดาษดื่น มาต่อยอดใส่ความคิดสร้างสรรค์ให้ของชิ้นนั้นพิเศษขึ้น พิเศษในความหมายที่ว่า สะท้อนความเป็นไทย ความเป็นท้องถิ่นใต้ และจังหวัดสงขลาได้ แล้วความน่าสนใจของพัดสานอยู่ตรงหน้าพัด เพราะมีที่ว่างเหลืออยู่ เหมาะให้ใส่คำภาษาใต้ ถ้าใครได้เห็นแล้วต้องรู้ทันทีว่ามาจากปักษ์ใต้บ้านเรา”
ทุกคำที่เลือกมาสานลายอยู่บนหน้าพัด จึงผ่านการคิดและทบทวนมาอย่างถี่ถ้วน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 3 คำ รวมเป็นพัดสานไม้ไผ่ ซีรีส์ ‘หนัด’
“คำแรกที่เลือกใช้ คือ ‘เย็นหนัด’ แปลว่า เย็นมาก เพราะต้องการสื่อความหมายตรงไปตรงมาว่าพัดแล้วเย็น ส่วน ‘รวยหนัด’ แปลว่า รวยมาก ทำขึ้นมาต้อนรับเทศกาลตรุษจีนปีที่แล้ว เป็นช่วงเวลาที่คนสงขลาจะกลับบ้านมาหาครอบครัว ผมเลือกใช้สีแดงเป็นสีหลัก เพราะเป็นสีมงคลและเข้ากับเทศกาลด้วย ใช้แล้วเหมือนพัดเอาความรวยความเฮงเข้าตัว”
ขอบคุณภาพจาก Aey Pakorn Rujiravilai
“คำใหม่ล่าสุดของปีนี้ คือ ‘บายใจหนัด’ แปลว่า สบายใจมาก มาจาก ‘มาใต้บายใจให้ถึงหวัน’ ซึ่งเป็นธีมของเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ปีนี้ ผมมักจะเลือกใช้คำให้เข้ากับเทศกาลและช่วงเวลาสำคัญ ในอนาคตจะมีคำใหม่ ๆ เพิ่มมาอีก เพราะผมวางแผนจะทำพัดสานภาษาใต้ต้อนรับวันวาเลนไทน์ กับเทศกาลสงกรานต์ อยากให้รอติดตามกันว่าจะเป็นอะไรหนัด”
ขอบคุณภาพจาก Aey Pakorn Rujiravilai
หัตถกรรม + คำใต้ = พัดสานแบบไทย ๆ
ขั้นตอนที่ท้าทายที่สุดของการสร้างสรรค์พัดสานภาษาใต้ของร้านดาษดื่น คือการเสาะหาชุมชนหัตถกรรมท้องถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญและประณีต เพราะต้องสานลายพัดเป็นตัวอักษรภาษาไทย ซึ่งมีความละเอียดและความยากมากกว่าลายพัดปกติ
“ด้วยสภาพอากาศของจังหวัดสงขลาที่มีฝนตกชุก ทำให้วัสดุหลักที่ใช้ทำพัดสานอย่าง ตอกไม้ไผ่ ซึ่งก็คือไม้ไผ่ที่ผ่าเป็นเส้นบาง ๆ ขึ้นราง่าย ส่งผลให้สงขลาไม่มีชุมชนหัตถกรรมที่เน้นทำพัดสานอย่างเดียวเหมือนหลาย ๆ จังหวัดในภาคกลาง แต่ความตั้งใจของผมที่อยากทำพัดสานคำภาษาใต้ก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เพราะต้องการนำเสนอความเป็นไทยคู่ความเป็นใต้”
ขอบคุณภาพจาก Aey Pakorn Rujiravilai
“ตอนคุยรายละเอียดกับคุณยายคุณป้าที่ทำพัดสานเป็นอาชีพ เขาบอกเลยว่าไม่ง่าย ถ้าเป็นลายธรรมดาที่สานสลับไปมา เขาสามารถสานออกมาเป็นลายให้ได้เลย แต่พอเป็นตัวอักษรที่มีทั้งหัวเข้าหัวออก มีสระบนสระล่าง เขาต้องใช้เวลาขึ้นลายใหม่ ลองผิดลองถูกอยู่ระยะหนึ่ง อย่างคำว่า ‘เย็น’ ชาวบ้านเคยสานตัวสะกดผิด จาก น เป็น ด ได้ความหมายเพี้ยนไปจากเดิม กลายเป็นความสนุกความขำขันของคนทำงาน”
คุณเอ๋และทีมดาษดื่นยังออกแบบพัดสานภาษาใต้ให้มีฟังก์ชันเพิ่มเติมที่พัดทั่วไปไม่มี ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ทุกคนใช้งานพัดได้สะดวกสบายมากขึ้น แต่ยังทำให้ดูเป็นไอเท็มไลฟ์สไตล์ที่น่าหยิบมาใช้บ่อย ๆ
“ผมออกแบบด้านจับให้มีสายห้อย เอาไว้ใช้คล้องแขนได้ ใส่ป้ายแบรนด์ดาษดื่น เพิ่มมูลค่า มีซองซิปสำหรับใส่สินค้าให้ดูพรีเมียมมากขึ้น แล้วตั้งราคาขาย 150 บาท ผมมองว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ทุกคนสามารถซื้อใช้ได้ ถึงกับมีแฟน ๆ ของลิซ่ามาบอกว่า เป็นของไม่กี่อย่างที่เขาซื้อตามได้ เพราะผมไม่อยากให้ติดภาพว่างานดีไซน์ต้องขายแพงและจับต้องได้ยาก รายได้ส่วนใหญ่ก็เป็นการสนับสนุนกลุ่มหัตถกรรมชาวบ้านโดยตรงด้วย”
ขอบคุณภาพจาก Aey Pakorn Rujiravilai
ความงามในรายละเอียดของลายสานบนพัด
ถ้าไม่ใช่คนที่ทำงานหัตถกรรมไทย ย่อมไม่รู้เลยว่าลายจักสานทุกลายที่ดูสวยงามเป็นระเบียบ ต่างก็มีชื่อเรียกเฉพาะที่บ่งบอกถึงลักษณะการสาน สำหรับลายที่เป็นที่นิยมใช้สร้างพัดสาน แบ่งออกได้เป็น 3 ลาย ดังต่อไปนี้
1. ลายขัด หรือ ลายหนึ่ง เป็นลายพื้นฐานที่สานขึ้นลายได้ง่ายที่สุด ลักษณะการสาน คือ ยก 1 ข่ม 1 หมายความว่า สานตอกไม้ไผ่ทับสลับกันให้เกิดเป็นช่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสไปเรื่อย ๆ จนได้แผ่นสานตอกไม้ไผ่ที่แน่นและแข็งแรง
ลายหนึ่ง
2. ลายสอง หรือ ลายสองทแยง ถือเป็นลายพื้นฐานเช่นเดียวกันกับลายขัด แต่จุดที่ต่างคือลักษณะการสาน เพราะเพิ่มเป็นยก 2 ข่ม 2 หมายความว่า สานตอกไม้ไผ่ให้ทับสลับกันทีละ 2 เส้นไปเรื่อย ๆ ทำให้เกิดลายเฉียงหรือลายทแยงที่ซับซ้อนและสวยงามมากกว่าลายหนึ่ง
ลายสอง
3. ลายประดิษฐ์ หรือ ลายอิสระ เป็นลายพิเศษที่ผู้สานสร้างสรรค์และพัฒนาลายขึ้นมาใหม่เพื่อความสวยงาม โดยต่อยอดความรู้จากลายพื้นฐาน รายละเอียดของลายประดิษฐ์จึงขึ้นอยู่กับฝีมือ ความชำนาญ และเทคนิคของผู้สานแต่ละคน สำหรับพัดสานภาษาใต้ของร้านดาษดื่น ก็จัดอยู่ในกลุ่มลายประดิษฐ์นี้ด้วย ซึ่งสะท้อนทั้งความคิดสร้างสรรค์และเอกลักษณ์ของท้องถิ่นใต้
ลายประดิษฐ์
‘พัดสานรวยหนัด’ ความเป็นไทยที่น่าภูมิใจ
ลวดลายประดิษฐ์ที่ปรากฏให้เห็นบนพัดสาน ช่วยยกระดับงานหัตถกรรมไทยให้คลายร้อน และกลายเป็นงานหัตถศิลป์ไทย เพราะสื่อแสดงให้เห็นความงามในรายละเอียด และสะท้อนถึงรากฐานภูมิปัญญาไทยที่มีมาแต่โบราณ เหมือนที่คุณเอ๋เชื่อว่า ถ้าใครได้เห็นพัดสานภาษาใต้แล้ว ย่อมรู้ทันทีว่า นี่แหละ ! ความเป็นใต้และความไทยที่น่าภูมิใจ
“ผมอยากนำเสนอความเป็นไทยและความเป็นปักษ์ใต้บ้านเราออกไปสู่สาธารณชน ออกไปสู่สายตาชาวโลก ผมเลยดีใจมาก ๆ ที่มีคนมากมายสนใจพัดสานรวยหนัด ทุกครั้งที่ผมเห็นอารมณ์ขัน และรอยยิ้มของคนที่ซื้อไปใช้ ผมยิ่งอยากใช้ความรู้ด้านการออกแบบมาพัฒนาหัตถกรรมจักสานพื้นบ้านของไทยให้มีมูลค่าและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นไปอีก”
ขอบคุณภาพจาก Aey Pakorn Rujiravilai
ผลตอบรับที่ดีและความสำเร็จ คือ กำลังใจและพลังสำคัญที่เติมเชื้อไฟให้คนทำงานอย่างคุณเอ๋ มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานเพื่อยกระดับท้องถิ่นและส่งเสริมความเป็นไทยต่อไปในอนาคต
“เพราะความเป็นคนท้องถิ่น มีข้อดีตรงที่เรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย บางคนอาจจะมองว่าไม่เห็นมีอะไรพิเศษ ผมอยากให้ลองหามุมมองใหม่ ๆ กลับหันไปดูวัฒนธรรมที่บ้านตัวเองว่ามีอะไรที่หยิบยกขึ้นมาบอกเล่า มาพัฒนาได้บ้าง ผมเจอว่าทุกคนจะเจอเรื่องราวดี ๆ ให้นำมาต่อยอดได้ตามความถนัดของตัวเองได้”
“ผมเชื่อว่าต้องมีนักออกแบบรุ่นใหม่อีกหลายคนที่มองเห็นคุณค่าของหัตถกรรมหรือศิลปะท้องถิ่น แล้วอยากใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองมายกระดับสิ่งเหล่านี้ให้ไปไกลมากกว่านั้น เมื่อถึงวันที่ทำสำเร็จออกมาเป็นผลงานจริง ๆ เชื่อเถอะว่า เราจะรู้สึกภูมิใจและมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำมาก ๆ ผมขอเป็นกำลังใจให้”
ดาษดื่น (DASDNN)
ที่อยู่ : 259 ถนนนครใน ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา 90000
เปิดบริการ : วันศุกร์-วันจันทร์ เวลา 12.00 - 20.00 น.
Facebook : ดาษดื่น
Instagram : dasdnn_
อ้างอิง
- กรมศิลปกร. (2559). ประวัติศาสตร์แห่งพระราชอาณาจักรสยาม และประวัติศาสตร์ไทย สมัยกรุงศรีอยุธยา ฉบับตุรแปง. กรุงเทพฯ : กรมศิลปกร.
- พิทักษ์ น้อยวังคลัง. (2533). ลายสายไม้ไผ่. วารสารสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ, 22(2), 1-51
