

ทำความรู้จักตัวละครจากหนังดังที่สร้างแรงบันดาลใจผ่าน ‘ความศรัทธา’
Art & Culture / Entertainment
12 Oct 2023 - 6 mins read
Art & Culture / Entertainment
SHARE
12 Oct 2023 - 6 mins read
เมื่อพูดถึงความเชื่อ ความศรัทธา สองสิ่งนี้มักจะถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นให้ถูกพูดถึงในหนังอย่างมีแง่คิด หรือแฝงอะไรเอาไว้สักอย่างภายใต้ตัวละครผู้เชื่อมั่นในบางสิ่งบางอย่าง
ในเดือนที่ว่าด้วยพลังแห่งความเชื่อ LIVE TO LIFE จึงอยากพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับเหล่าตัวละครจากหนังดัง ที่แม้จะไม่เคยดูก็อาจเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามกันมาบ้าง ซึ่งตัวละครเหล่านี้ได้ใช้พลังแห่งความเชื่อ และความศรัทธาของตัวเองเพื่อยึดมั่นจิตใจไว้ไม่ให้สั่นคลอน ซึ่งท้ายที่สุดอาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนในทุกความเชื่อที่ต่างคนต่างเลือกศรัทธา
* บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนังที่ถูกหยิบยกมา
หลวงพ่อคาร์ราส และหลวงพ่อเมอร์ลิน
The Exorcist (1973)
หลวงพ่อเมอร์ลิน (ซ้าย) และ หลวงพ่อคาร์ราส (ขวา)
“ฉันคิดว่าเป้าหมายของมัน
คือการทำให้พวกเรารู้สึกหมดศรัทธา”
หลวงพ่อคาร์ราส (Father Karras) และ หลวงพ่อเมอร์ลิน (Father Merrin) เป็นสองบาทหลวงผู้ถูกเรียกตัวมาเพื่อทำพิธีขับไล่ปีศาจร้ายที่กำลังสิงสู่อยู่ในร่างของ เรแกน (Regan Macneil) เด็กหญิงอายุ 12 ปี โดยพวกเขาต้องใช้พลังจากความศรัทธาอันแรงกล้าที่มีต่อศาสนจักร ซึ่งถูกเผยแผ่และสั่งสอนมาว่า สามารถเอาชนะความชั่วร้ายทุกหมู่เหล่าได้อย่างหมดจด
แต่กลายเป็นว่า ความเชื่อที่พวกเขาถูกพร่ำสอนมากลับไม่อาจทำให้ปีศาจตนนี้สะทกสะท้านได้เลย แทบทุกวิธีการต่างถูกเจ้าปีศาจลบหลู่อย่างไม่เกรงกลัวศาสนา ตั้งแต่การทำให้ร่างกายของเรแกนมีสภาพเน่าเปื่อยคล้ายศพขึ้นเรื่อย ๆ พ่นน้ำเมือกสีเขียวใส่บาทหลวงทั้งสอง กระทั่งดูหมิ่นไม้กางเขนอย่างชวนให้สิ้นศรัทธา
ท้ายที่สุด ถึงแม้ว่าการขับไล่ครั้งนี้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตของบาทหลวงทั้งสอง แต่พวกเขาก็สามารถช่วยเด็กหญิงเอาไว้ได้ อีกทั้งยังทำให้ศรัทธาในศาสนาที่พวกเขายึดถือเชื่อมั่นกลับมาอยู่เหนือความชั่วร้ายได้อีกครั้งหนึ่ง
จากทั้งหมดที่ปรากฏบนจอ ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงห้ามฉายในหลายประเทศแถบตะวันออกกลางที่นับถือศาสนาอิสลาม หรือมีคนเป็นลมคาโรงหนังตอนเข้าฉายที่นิวยอร์กอีกด้วย ถึงอย่างนั้น The Exorcist ก็ได้รับคำชื่นชมมากมาย และเข้าไปสร้างประวัติศาสตร์บนเวทีออสการ์ ในฐานะหนังสยองขวัญเรื่องแรกที่ได้เข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ก่อนที่ต่อมาจะกลายเป็นแม่แบบความขนพองสยองเกล้าให้กับหนังสยองขวัญในทุกวันนี้
หนึ่งในแง่คิดจากหนังเรื่องนี้ แม้จะต่างศาสนากัน แต่มนุษย์มักจะไขว้เขวต่อสิ่งเร้าเหมือนเจ้าปีศาจที่เข้าสิงเด็กหญิงคอยพูดบั่นทอนและจี้จุดอ่อนในจิตใจของคน เพื่อให้คนนั้นยอมแพ้ความตั้งใจ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมนุษย์มีสติ เชื่อมั่น และศรัทธาในสิ่งตั้งใจก็ย่อมสามารถเอาชนะอุปสรรคได้
บาทหลวงคาร์ราส รับบทโดย เจสัน มิลเลอร์ (Jason Miller)
บาทหลวงเมอร์ลิน รับบทโดย แมกซ์ ฟอน ซีโดว (Max von Sydow)
รับชม The Exorcist เวอร์ชั่นฉลองครบรอบ 50 ปี ได้ในโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน เป็นต้นไป
หลวงพ่อโรดริเกซ
Silence (2016)
“ข้าสวดภาวนา กระนั้นข้าก็ยังหลงทาง
หรือข้ากำลังสวดภาวนาให้แก่ความเงียบงัน”
หลวงพ่อโรดริเกซ (Father Rodrigues) คือหนึ่งในสองบาทหลวงชาวโปรตุเกสผู้ออกเดินทางตามหาพระชั้นผู้ใหญ่ ผู้เป็นดั่งอาจารย์ที่หายสาบสูญไปในประเทศญี่ปุ่นในยุคเอโดะ ภายใต้การปกครองของโชกุนโทคุกาวะ เป็นยุคสมัยที่การนับถือศาสนาคริสต์ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และมีบทลงโทษอันแสนทรมาน
การเดินทางของหลวงพ่อโรดริเกซที่พยายามเผยแผ่ศาสนาในดินแดนแห่งนี้ไปพร้อม ๆ กับการตามหาอาจารย์ที่หายสาบสูญไปจึงทั้งยากลำบาก และยังพาให้เขาต้องพบกับบททดสอบต่อความเชื่อและความศรัทธาของตัวเองที่เป็นหนึ่งในหลักใหญ่สำคัญของศาสนาคริสต์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
อีกทั้งยังชวนให้คนดูอย่างเรา ๆ ตั้งคำถามว่า ในสถานการณ์อันแสนจะบั่นทอน กัดกร่อน และสั่นคลอนจิตใจเช่นนี้ รวมไปถึงความเงียบของพระผู้เป็นเจ้าในช่วงเวลาที่ผู้อ้อนวอนได้สวดภาวนาเพื่อหวังได้ยินเสียง ตัวละครจะยังสามารถยึดมั่นสิ่งที่เป็นดั่งเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของตัวเองเอาไว้ได้หรือไม่ ขณะเดียวกัน ในห้วงเวลาที่ความศรัทธานั้นอ่อนแอลง มันทำให้เขาเกิดข้อสงสัยในอุดมการณ์ของตัวเองมากน้อยแค่ไหน
ถึงแม้ว่าหนังจะพาเราไปพบเจอกับข้อถกเถียงมากมาย ที่จะว่าไปแล้วก็ยังคงเป็นประเด็นพูดถึงในทุกช่วงเวลาและทุกยุคสมัยว่า ศาสนาของใครดีกว่ากัน ระหว่างการนับถือ ‘พระผู้เป็นเจ้าอันแสนวิเศษ’ กับ ‘พระพุทธเจ้าผู้เป็นแบบอย่างของมนุษย์’ อย่างไรก็ตามสิ่งที่หลวงพ่อโรดริเกซต้องพบเจอราวกับถูกตอกอยู่บนไม้กางเขนอาจเป็นคำสอนอย่างอ้อม ๆ ให้ผู้คนสามารถแยกแยะได้ระหว่างความเชื่อและความความงมงาย หรือความศรัทธาและความคับแคบที่ไม่เปิดกว้างต่อเพื่อนต่างศาสนาที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันด้วยความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละคน
หลวงพ่อโรดริเกซ รับบทโดย แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ (Andrew Garfield)
รับชม Silence ได้ที่ Google Play Movies, Apple TV
ขุนพันธรักษ์ราชเดช
ขุนพันธ์ 3 (2023)
“ทุกอย่างมีเสื่อมลง
ไม่มีสิ่งใดคงกระพันตลอดไป”
ขุนพันธรักษ์ราชเดช หรือ ขุนพันธ์ เป็นนายตำรวจผู้มีวิชาอาคมติดตัวที่สามารถปราบโจรร้ายได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าโจรอย่าง อัลฮาวียะลู เสือฝ้าย และเสือใบ จนได้รับสมญานามว่า ‘นายพลตำรวจหนังเหนียวผู้จับเสือมือเปล่า’
ในหนังภาคที่ 3 นี้ ขุนพันธ์ผู้ได้ชื่อว่าหนังเหนียว มีวิชาคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า กลับต้องพบเจอกับช่วงเวลาที่ต้องรักตัวกลัวตาย เพราะเหล่าอาคมของขลังเริ่มจะเสื่อมสลายทีละเล็ก ทีละน้อยตามกาลเวลา อีกทั้งเขายังกลายเป็นฝ่ายถูกตามล่าจากเหล่าเสือประจำภาคอย่าง เสือมเหศวร และเสือดำ นอกจากนี้ศรัทธาที่เคยแรงกล้าต่อความถูกต้องกลับสั่นคลอน เมื่อความเชื่อที่ว่าตนทำเพื่อบ้านเมืองถูกบั่นทอนโดยสภาวะการเมืองที่ทำให้เขายากจะตอบได้ว่า ฝ่ายใดถูกและฝ่ายใดผิด ส่งผลให้ความเชื่อและความศรัทธาในขุนพันธ์ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องของวิชาอาคม แต่ยังรวมถึงหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราชของเขาที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือภายใต้ระบบอันบิดเบี้ยว
ขณะเดียวกัน การต่อสู้ของขุนพันธ์ที่เคยหวังพึ่งวิชาอาคมเพื่อให้อยู่รอดเป็นยอดดีมาโดยตลอด กลายเป็นเพียงความงมงายในยามที่ของเสื่อมคลาย และต้องต่อสู้เยี่ยงคนธรรมดาที่เจ็บได้ และตายเป็น ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะพาตัวละครไปทบทวนเกี่ยวกับเรื่องเวรกรรมที่ก่อไว้จากการ ‘จับตาย’ ที่เขาเคยเชื่อว่าถูกต้อง แต่ถ้อยคำสำคัญที่ขุนพันธ์อยากจะพูดกับคนดูที่สุดอาจเป็นการบอกว่า การมีความเชื่อและความศรัทธาในบางสิ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพียงแต่อย่าฝากฝังชีวิตไว้กับมันทั้งหมด จนไม่อาจทำอะไรได้เมื่อความเชื่อและความศรัทธาเหล่านั้นถูกสั่นคลอน
ขุนพันธ์ รับบทโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม
รับชม ขุนพันธ์ 3 ได้ที่ HBO GO
หลวงพ่อโล่ห์
15 ค่ำ เดือน 11 (2002)
“เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด”
หลวงพ่อโล่ห์เป็นพระที่จำวัดอยู่ในฝั่งลาว ในคืนก่อนออกพรรษาจะมีธรรมเนียมถือปฏิบัติประจำปี นั่นคือการนำลูกบั้งไฟพญานาคที่ทำขึ้นเองไปวางไว้ตามจุดบริเวณใต้แม่น้ำโขง เพื่อให้ผู้คนแห่กันมาดูปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของพวกเขา ซึ่งหลวงพ่อเชื่อว่า มันจะทำให้ความศรัทธาของผู้คนที่มีต่อศาสนาพุทธไม่เสื่อมคลาย และผู้คนจะมีความสุข ถึงแม้ว่าจะถูกกล่าวหาโดยลูกศิษย์ว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ไม่ต่างอะไรจากการหลอกลวงก็ตาม
และจากคำกล่าวหานั้นเอง ในปี พ.ศ. 2545 ชาวหนองคายบางส่วนต่างเรียกร้องให้ห้ามฉายหนังเรื่องนี้ เนื่องจากมีการบิดเบือนความเชื่อแต่โบราณที่ว่า ปรากฏการณ์นี้เกิดจากพญานาคเป็นผู้จุดบั้งไฟเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า ไม่เพียงเท่านั้น หนังยังกระตุ้นเหล่านักวิจัยให้เกิดการค้นหาคำตอบด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ แม้สุดท้ายจะถูกระบุว่าเป็น ‘ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ’ ไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม สำหรับหลวงพ่อโล่ห์ การกระทำของเขาอาจจะมีความผิดฐานลวงโลกก็จริง แต่มันก็เป็นกระทำอย่างบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้โลกของเขาและของใครอีกหลายคนที่มีความศรัทธาและความเชื่อในศาสนาเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงจิตใจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างปกติสุข
หลวงพ่อโล่ห์ รับบทโดย นพดล ดวงพร
รับชม 15 ค่ำ เดือน 11 ได้ที่ Netflix
พีเค (PK)
PK (2014)
“แล้วต้องเชื่อพระเจ้าองค์ไหน”
เมื่อมีมนุษย์ต่างดาวตนหนึ่งเดินทางมาเพื่อทำการศึกษาค้นคว้าดาวโลก แต่กลับต้องเจอเรื่องชุลมุนวุ่นวายจากการที่สร้อยคอ ซึ่งมีสถานะเป็นอุปกรณ์ที่คอยบอกยานอวกาศให้รู้ถึงตำแหน่งของตัวเขาดันถูกขโมยไป และจากการเดินทางออกตามหาสร้อยนี้เองที่ทำให้เขาได้บางสิ่งมา 2 อย่าง 1. ระหว่างทางเขาได้รับการตั้งชื่อว่า พีเค (PK) ที่หากออกเสียงในภาษาฮินดีจะกลายเป็นคำว่า ‘ขี้เมา’ 2. คำตอบต่อคำถามของเขาที่ว่า ‘จะตามหาสร้อยเจอได้อย่างไร’ คือ ‘ให้ไปถามหาเอากับพระเจ้า’
ต้องออกตัวก่อนว่าประเด็นของหนังเรื่องนี้ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นปฏิเสธการมีอยู่ของพระเจ้า และไม่ได้มีท่าทีลบหลู่แต่อย่างใด กลับกัน พีเคเลือกที่จะตั้งคำถามว่า ‘แล้วเราควรเชื่อพระเจ้าองค์ไหน’ ในเมื่อทุกศาสนามีพระเจ้าสูงสุดเป็นของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่พระเจ้าสูงสุด หรือผู้ที่สร้างพวกเราขึ้นมาควรจะมีแค่องค์เดียว ขณะเดียวกันพระเจ้าของศาสนาอื่นควรถูกอธิบายอย่างไร
เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่พีเคต้องการจะสื่อจึงว่าด้วยความหลากหลายในการเลือกนับถือ ความเชื่อของแต่ละบุคคลที่เปรียบเสมือนหนทางในการเข้าถึงพระเจ้าที่ไม่ตายตัว และความศรัทธาในพระเจ้าที่ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานอยู่บนข้อกำหนดของศาสนา แต่สามารถยึดโยงอยู่กับสิ่งใดก็ได้ที่เป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของแต่ละคน
พีเค รับบทโดย อาเมียร์ ข่าน (Aamir Khan)
ดูหนังเรื่อง PK ได้ที่ Netflix