เหนื่อยนักก็พักใจ ชวนทำสมาธิ ฝึกจิตหลังเลิกงานที่ ‘อวโลกิตะ’ มุมสงบใจกลางสาทร

15 May 2023 - 5 mins read

Art & Culture / Living Culture

Share

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้ชีวิตทุกวันนี้แฝงด้วยความเครียดที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเกาะกินจิตใจ ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว

 

หลายคนเลือกที่จะปลดปล่อยความเครียดจากเรื่องเรียน เรื่องงาน อารมณ์หงุดหงิดจากการจราจร และสารพันปัญหาร้อยแปดที่เจอระหว่างวัน ไปกับการหากิจกรรมที่ชื่นชอบทำในช่วงเย็นก่อนกลับบ้าน เพื่อเป็นการผ่อนคลายกายและใจ

 

ตัวเลือกอย่างการหาของอร่อย ๆ ทาน ดูหนัง ช้อปปิ้ง ออกกำลังกาย ฯลฯ จึงเป็นคำตอบอันดับแรก ๆ ที่คนส่วนใหญ่นึกถึง

 

แต่เชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายคนที่อยากจัดการปัญหาหรือความเครียดต่าง ๆ ที่วนเวียนอยู่ในหัว ด้วยการนั่งเฉย ๆ โดยไม่ต้องทำกิจกรรมอะไรเลย ขอแค่ได้อยู่ในพื้นที่เงียบสงบไม่มีสิ่งใดรบกวนเพื่อพักใจตัวเอง เท่านั้นก็พอ

 

ฟังดูเหมือนง่าย แต่เอาเข้าจริง พื้นที่เงียบสงบแบบนั้นกลับหาได้ยากเต็มที ต่อให้เป็นในห้องนอนของตัวเองก็ตาม เพราะสมาร์ทโฟนในมือเต็มไปด้วยสิ่งเร้าที่ยั่วให้อยากเลื่อนนิ้วไล่สายตาบนหน้าจอแบบไม่พัก

‘อวโลกิตะ’ จึงเสนอตัวเป็นพื้นที่สุดสงบใจกลางเมืองใหญ่ในรูปแบบของห้องสำหรับนั่งภาวนาที่เปิดประตูต้อนรับผู้คนเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็น ให้ใครก็ตามที่สนใจการฝึกสมาธิดูจิตดูใจได้เป็นเจ้าของโมงยามสุดสงบในแต่ละวัน

 

พิกัดของห้องภาวนาอวโลกิตะตั้งอยู่บนถนนที่ขึ้นชื่อว่ารถติดเป็นอันดับต้น ๆ ของกรุงเทพฯ อย่างถนนสาทร โดยหลบอยู่บนชั้น 9 ของอาคารตั้งฮัวปักในซอยสาทร 10 ซึ่งจะว่าไป ขั้นตอนการเดินทางไปให้ถึงห้องภาวนาแห่งนี้ก็ถือเป็นการค่อย ๆ ปรับจูนกระบวนการหันหลังให้ความวุ่นวายจอแจของโลกภายนอกเพื่อเข้าสู่ความสงบทีละน้อย

เริ่มต้นจากการพาตัวเองไปให้ถึงอาคารตั้งฮัวปักที่อยู่สุดซอย แล้วกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้น 7 จากนั้นเดินขึ้นบันไดไปอีกสองชั้น จึงจะพบกับบานประตูประดับสัญลักษณ์ดอกบัวของอวโลกิตะ ที่เพียงแค่ผลักประตูเบา ๆ กลิ่นธูปและกำยานก็หอมอวลต้อนรับอาคันตุกะผู้มาเยือน

 

ภายในห้องขนาดกำลังดีมีเบาะที่นั่งวางเรียงรายไว้พร้อมสรรพ เบื้องหน้ามีพระรูปของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ตั้งอยู่บนโต๊ะบูชาอย่างเรียบง่าย ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อพื้นที่ภาวนาแห่งนี้ โดยพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ถือเป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับการเคารพนับถือแพร่หลายในพุทธศาสนาในฐานะตัวแทนแห่งความกรุณาอย่างแท้จริง

พื้นที่ภาวนาอวโลกิตะจึงมีนิยามที่ครอบคลุมความหมายของที่นี่ได้ครบครันว่า ‘พื้นที่ภาวนาเพื่อบ่มเพาะสันติภาพและความกรุณาในใจ’ ซึ่งเป็นแก่นสำคัญของศาสนาพุทธแบบวัชรญาณที่มูลนิธิวัชรปัญญา โดยวิจักขณ์ พานิช ตั้งใจทำพื้นที่เรียนรู้ด้านธรรมะและภาวนาให้เกิดขึ้นในประเทศไทยมาโดยตลอด จนเกิดพื้นที่ภาวนาแห่งนี้ขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยเปิดให้บริการฟรีและเปิดรับผู้คนจากทุกศาสนา 

 

ในทุก ๆ วัน กระบวนการนั่งภาวนาจะเริ่มตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป โดยผู้ดูแลพื้นที่เองก็จะนั่งภาวนาด้วยเช่นกัน ดังนั้น เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ผู้มาใหม่เพียงแค่ค่อย ๆ วางสัมภาระติดตัวอย่างเบามือ แล้วเลือกที่นั่งบนเบาะที่ถูกใจ ลงนั่งขัดสมาธิหรือท่าใดก็ได้ที่รู้สึกสบายตัว จะหลับตาหรือไม่ก็ได้ แล้วเริ่มต้นจดจ่ออยู่กับลมหายใจและความคิดของตนได้ทันที

 

สำหรับคนที่ไม่เคยนั่งสมาธิ นั่งภาวนา หรือเจริญสติมาก่อน อาจไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร สามารถปฏิบัติตามแนวทางเบื้องต้นก่อน เช่น การกำหนดลมหายใจ การอยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ตามความคิด และผ่อนคลาย ส่วนอาการฟุ้งซ่าน นั่งแล้วเกร็ง หรือสัปหงกสามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ ขอเพียงยอมรับในทุกสภาวะที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องไปควบคุมหรือตัดสิน เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นการแสดงความรักที่แต่ละคนมีต่อตัวเองแล้ว

 

ทั้งนี้ การนั่งภาวนาถือเป็นการเจริญสติ ซึ่งหมายถึง การจดจ่อกับอะไรบางอย่าง เช่น ลมหายใจ หรือการเคลื่อนไหว ดังนั้น ในทุก ๆ ชั่วโมง หลังจากนั่งภาวนาจดจ่อกับลมหายใจนาน 45 นาที ผู้ดูแลจะตีขันเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้เปลี่ยนอิริยาบถไปสู่การเดินภาวนาอีก 15 นาที เพื่อเป็นการสลับไปจดจ่อกับการเคลื่อนไหว ซึ่งระหว่างนี้ใครจะไม่เดินภาวนาก็ได้ อาจจะพักเบรกไปเข้าห้องน้ำหรือจิบน้ำก็สามารถทำได้ตามอัธยาศัย แล้วค่อยกลับมานั่งภาวนาต่อ

การนั่งภาวนาที่อวโลกิตะสามารถมาตอนกี่โมงก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นพร้อมคนอื่น สามารถเดินเข้าออกได้ตลอด จะกลับก่อนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่จนจบ 4 ชั่วโมง ส่วนใครที่นั่งภาวนาจนถึง 2 ทุ่มครึ่ง จะได้ร่วมกิจกรรมปิดท้ายวันอย่างการออกไปยืนอิ่มเอมกับบรรยากาศยามค่ำคืนบนระเบียงดาดฟ้า สัมผัสลม ฟังเสียงเมืองที่ไม่เคยหลับใหล พลางตกตะกอนความรู้สึกที่ได้รับหลังเสร็จสิ้นการนั่งภาวนาในวันนั้น ๆ ที่อาจมอบคำตอบ ความผ่อนคลาย หรือความรู้สึกพิเศษบางประการเป็นรางวัลให้การเลือกที่จะมาพักใจ ณ อวโลกิตะแห่งนี้

 

อวโลกิตะ (Avalokita)

เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 17.00 – 21.00 น. 

ที่ตั้ง : อาคารตั้งฮั่วปัก ชั้น 9 ซอยสาทร 10 (ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 7 แล้วเดินขึ้นบันไดต่ออีก 2 ชั้น)

วิธีเดินทาง : BTS ช่องนนทรี หรือ เซ็นต์หลุยส์ เดิน 50 เมตรจากสถานี

แผนที่ : https://goo.gl/maps/X22X9nC6H8zupbxW7

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/avalokitalotus

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...