เสน่ห์การบินว่าว จากว่าวดั้งเดิมสู่ว่าวรูปแบบใหม่

คนไทยจะรู้จัก “ว่าว” ว่ามาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นและเป็นกีฬาฤดูร้อนของไทยที่ควรรักษาไว้ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานได้รู้จัก เพราะว่าวดั้งเดิม 1 ตัวที่เห็นไม่ใช่เป็นแค่ของเล่น แต่เป็นชิ้นงานออกแบบที่เข้าใจธรรมชาติ โดยเฉพาะทิศทางลมในท้องถิ่นนั้น ๆ และยังเป็นงานศิลปะจากการตกแต่งด้วยสีสันหรือลวดลายวิจิตรบรรจง เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ว่าวได้ถูกพัฒนาให้เข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้นด้วยการออกแบบให้ใช้งานง่าย เล่นสนุก และไม่ว่าใครก็เล่นได้

ไทยทั่น ไคท์ ทีม ไทยแลนด์ (Thaitan Kite Team Thailand) 

เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่รักกีฬาว่าวเป็นชีวิตจิตใจ รวมถึงอยากสานต่อศิลปะการทำ “ว่าวไทย” ไล่เรียงมาถึงว่าวยุคใหม่ อย่างสปอร์ต ไคท์ (Sport Kites) หรือ ว่าวบังคับผาดแผลง ไปจนถึงการจัดแสดง “ว่าวถุงลมแฟนซี” (Inflatable Kites) ขนาดใหญ่จากนานาประเทศ

พีท-วรกิตติ์ นวสกุลเกียรติ หนึ่งในสมาชิกไทยทั่น ไคท์ ทีมไทยแลนด์ จะพาเราไปรู้จักกับเรื่องว่าวตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบัน พร้อมแนะนำให้เรารู้จักกับสมาชิกในทีมที่จะมาสร้างกระแสให้ว่าวกลับมาฮิต เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนชอบกิจกรรมเอาต์ดอร์

สำหรับความสนใจเล่นว่าวของคุณพีทเอง เริ่มมาตั้งแต่วัยเด็กที่ผู้คนนิยมไปสนามหลวงเพื่อเล่นว่าวในช่วงหน้าร้อน ทำให้คุ้นเคยกับว่าวภาคกลาง ได้แก่ ว่าวจุฬา ว่าวงู และว่าวปักเป้า ซึ่งเมื่อกลับมาสนใจเล่นอีกครั้ง ก็พบว่าว่าวยังมีความหลากหลายตามดีไซน์และสภาพอากาศของภาคนั้น ๆ รวมถึงในปัจจุบันยังมีว่าวอีกหลายประเภทที่สนุก ตื่นเต้น จนอยากให้ทุกคนได้ลอง และมองเห็นเสน่ห์ของว่าวเหมือนกัน

“ผู้หลงรักกีฬาว่าวสู่ครูสอนทำว่าว"

เชื่อว่าคนในวงการเล่นว่าวบ้านเราต้องรู้จัก อาจารย์ไพโรจน์ ขวัญสงค์ ชาวอ่างทอง ผู้เป็นหนึ่งในสมาชิกไททั่น วัยเลขหก  โดยอาจารย์เป็นผู้เชี่ยวชาญการบิน Dual Line Stunt Kite และเป็นผู้ตัดเย็บว่าวอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย จากประสบการณ์กว่า 40 ปี อาจารย์ได้ทำว่าวมาแล้วนับไม่ถ้วน ตั้งแต่ว่าวยุคแรกเริ่มที่ต้องขึ้นโครงไม้ไผ่ ติดกระดาษ หรือ ว่าวสายช้างต้นทรงเครื่อง ที่เปรียบได้กับงานอนุรักษ์ในยุคสมัยนี้ กล่าวได้ว่าอาจารย์สามารถทำว่าวได้ครบทุกชนิดอย่างแท้จริง เพราะสามารถออกแบบและตัดเย็บว่าวสมัยใหม่ได้หลายรูปแบบ ไปจนถึงว่าวแฟนซี หรือว่าวถุงลม (Inflatable Kite) ขนาดใหญ่ยักษ์ที่สร้างสีสันให้กับหลากหลายเทศกาล

“สมัยเด็ก ๆ เราเรียนรู้การเล่นว่าวจากผู้ใหญ่และคนทำว่าวแถวบ้านตอนนั้น จนได้เริ่มลงมือทำเอง ทดลองเล่นเองจนเข้าใจการออกแบบ เราลองทำและเล่นว่าวหลากหลายขึ้นอีก ตั้งแต่การออกแบบ ทำแพตเทิร์น ตัดเย็บ ปัจจุบันทุกคนที่ชอบเล่นและอยากทำว่าวทำได้หมดเพราะมีช่องทางให้เรียนรู้เยอะมาก แค่มียูทูบก็ทำได้” อาจารย์ไพโรจน์บอกด้วยว่ายินดีทุกครั้งที่มีคนมาขอความรู้เรื่องการทำว่าว โดยเฉพาะว่าวดั้งเดิม ซึ่งเป็นรูปแบบศิลปะที่ไม่อยากให้สูญหายไปตามกาลเวลา

“ยุคสมัยเปลี่ยนไป คนเล่นว่าวเองก็ไม่หยุดอยู่กับที่”

เราจึงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งการออกแบบ และการได้เล่นสนุกกับว่าวหลายวิธี เช่น  ในยุคแรก ๆ จากจุฬาและปักเป้าที่เป็น “ว่าวสายป่านเดียว” (Single Line Kites) ที่เรานำว่าวขึ้นไปตรง ๆ เพื่อให้ติดลมบนก็สามารถสนุกกันได้แล้ว  จนพัฒนามาเป็นว่าวสปอร์ต ไคท์ “ว่าว 2 สายป่าน” (Dual Line Kites) ที่สามารถบังคับซ้ายขวาเพิ่มความสนุกได้มากขึ้น หากชอบความผาดโผนก็มี “ว่าว 4 สายป่าน” (Quad Line Kites) ที่หมุนได้ หยุดกลางอากาศได้ บังคับทิศทางได้เอง ส่วนใครชอบความท้าทาย สร้างสรรค์ ทำงานเป็นทีม ต้อง “ว่าวถุงลมแฟนซี” (Inflatable Kites) ซึ่งมีวิธีการเล่นที่ถูกปรับเปลี่ยนให้สนุกขึ้น แตกต่างกันในหลายประเทศ ดังจะเห็นได้จากเทศกาลว่าวนานาชาติที่ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

“ทำไมคนชอบเล่นว่าวถึงหลงรักว่าว”

เหล่าสมาชิกไทยทั่น ไคท์ ทีม ไทยแลนด์ ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าเพราะเป็นทั้งกีฬาที่ท้าทายความสามารถ ฝึกสมาธิ ฝึกประสาทสัมผัส ทั้งยังได้ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ พูดคุยกับคนคอเดียวกัน และมากกว่านั้นคือสร้างรอยยิ้ม สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวได้อย่างดี รวมทั้งสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว เมื่อนำไปจัดแสดงตามภาคต่าง ๆ เป็นประจำ

ภูผา-ปริญญา พุ่มไสว สมาชิกวัย 17 ปี ที่เริ่มรู้จักว่าวมาตั้งแต่ 7 ขวบ เริ่มจากคุณพ่อคุณแม่เคยพาไปเทศกาลว่าวนานาชาติ จนทำให้เริ่มรู้ตัวว่าชอบว่าวแฟนซี มีความฝันว่าจะได้เล่นว่าวจริงจัง จนพี่ ๆ ไทยทั่น ไคท์ ทีมไทยแลนด์ เห็นเขาเล่นอยู่ที่พระราม 2 เลยชวนมาเล่นด้วยกัน จนกลายเป็นนักว่าวถุงลมแฟนซี “พอมาเล่นกับพี่ ๆ ก็ทำให้เรามีประสบการณ์มากขึ้น ได้ลองทำว่าวเอง อาจารย์ไพโรจน์ก็จะสอนทำว่าวหลายตัว เป็นกลุ่มที่มีหลายวัยมาก ๆ ครับ เป็นเพื่อนกันได้แบบไม่จำกัดอายุ เพราะชอบอะไรเหมือนกัน ช่วยสอนและดูแลกัน”

“จากงานอดิเรกสู่การส่งต่อความภูมิใจ”

ต้องบอกว่าไทยทั่น ไคท์ ทีมไทยแลนด์ เขาเล่นกันจนได้เรื่อง เพราะ หมู-บุญชอบ พิมพ์สอน สมาชิกทีม วัยเลขหก บอกกับเราว่าตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ พวกเขาได้เดินทางไปจัดแสดงงานว่าวในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย และไปไกลกว่า 10 ประเทศทั่วโลก ทั้งยุโรปและเอเชีย ซึ่งการเดินทางไปก็เหมือนส่งต่อวัฒนธรรมการเล่นว่าวที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย พร้อมทั้งได้เรียนรู้วัฒนธรรมการเล่นว่าวของนานาประเทศ รวมถึงความเคลื่อนไหวของวงการว่าวทั่วโลกที่ต้องจับตามอง

ใครอยากลองเริ่มเล่นว่าวเพื่อผ่อนคลายหรือมองหาสิ่งที่ท้าทายทำในวันหยุด อาจเริ่มเล่นในพื้นที่ที่มีลมใกล้ ๆ เช่น ชายทะเล สวนสาธารณะใกล้บ้าน หรือติดตาม Thaitan Kite Team Thailand อีกกลุ่มคนตัวจริงที่หลงรักการเล่นว่าว ซึ่งพวกเขาจะไปทำกิจกรรมเกี่ยวกับว่าวในหลากหลายสถานที่ให้ทุกคน ทุกวัยในครอบครัวได้ร่วมชม และได้ลองทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกัน พร้อมกับมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้ซักถาม และแนะนำ อาจจะทำให้คุณหลงเสน่ห์ว่าวโดยไม่รู้ตัว

ขอบคุณภาพจาก Thaitan Kite Team Thailand