

ชวน ‘แชมป์-แซมมี่’ คู่รักนักเดินป่ามาเล่าเรื่องทริปสุดทรหดที่ยิ่งลำบากก็ยิ่งอยากไป
Better Life / People
31 Oct 2025 - 8 mins read
Better Life / People
SHARE
31 Oct 2025 - 8 mins read
คลิปไวรัลสาวซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แฟนหนุ่มตะลุยเที่ยวแบบลำบาก เกือบทำให้หลายคนจำไม่ได้ว่าเธอคนนั้นคือ แซมมี่ เคาว์เวล นางเอกคนดัง ส่วนคนขับมองดี ๆ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น แชมป์ - ชนาธิป โพธิ์ทองคำ พระเอกที่เราคุ้นหน้า คุ้นตากันดี
พักหลังมานี้ทั้งสองคนได้ฉายาจากชาวเน็ตว่าเป็น ‘คู่รักนักเดินป่า’ เพราะพากันออกเดินทางเข้าป่าสุดทรหด มีทั้งขึ้นเขา ลงห้วย ลุยโคลน และยิ่งนานวัน ทริปก็ยิ่งอัปเลเวลความลำบาก จนทำให้ทั้งสองสลัดคราบพระเอกนางเอกไปหมดสิ้น
ใครจะคิดว่าคนที่เคยเห็นในจอทีวีจะมานั่งกินหมูกระทะในมุมมืด ๆ บนดอย ใครจะคิดว่าพวกเขาจะต้องซุกตัวยืนหลบหนาวอยู่ในพุ่มไม้ อยู่บ้านก็ดีอยู่แล้ว แต่พอหายเหนื่อย ทั้งคู่ก็ยังไม่เข็ด ชวนกันเข้าป่าอีกจนได้
LIVE TO LIFE ชวนแซมมี่และแชมป์มาเล่าเรื่องทริปสุดทรหด เพื่อพาเราออกเดินทางไปหาความหมายของการเดินทาง และหาคำตอบว่า ‘ทำไมยิ่งลำบาก ก็ยิ่งอยากจะไป’
ทริปที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ชวนกันไปที่ไหน
แซมมี่ : “เป็นทริปประจำปีที่มีแค่กลุ่มเพื่อน เราจอยกับการได้อยู่ด้วยกันในบ้าน ทำอาหารกิน รอบนี้ไปเวียนนา สโลวีเนีย โครเอเชีย บูดาเปสต์ ฮังการี คิดว่าจะไปเทรคกิ้งที่สโลวีเนียด้วย อยากลองไปที่ที่คนยังไม่นิยมมาก”
ยังคงคอนเซ็ปต์ความลำบากไหม
แซมมี่ : “รอบนี้ไม่น่าลำบากเพราะมีคนอื่นด้วย แชมป์ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงในการเลือกที่อยู่หรือประเทศ คนอื่นเขาไม่ได้ชอบความลำบากเหมือนแชมป์ทุกคน” (หัวเราะ)
แชมป์ : “ผมว่าผมก็ไม่เคยพาแซมไปลำบากสักครั้งเลยนะ” (หัวเราะ)
สไตล์การท่องเที่ยวของทั้งสองคนเป็นอย่างไร แต่ละคนชอบเที่ยวแบบไหน
แชมป์ : “ผมเป็นคนชิล ๆ กินง่าย อยู่ง่าย เดินทางง่าย ผมเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะได้ เรือ รถทัวร์ รถตู้ รถไฟ วินมอเตอร์ไซค์ ผมนั่งได้หมด ส่วนเรื่องการกิน ผมไม่ได้พิถีพิถันมาก กินอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เครื่องในหรือของเผ็ด เสี่ยงท้องเสีย ส่วนที่พักจะเป็นอะไรก็ได้ มีแอร์หรือไม่มีก็ได้ ขอแค่สะอาดและปลอดภัยก็พอ ที่ที่ผมไปส่วนใหญ่จะไม่ติดแกลม ไม่หรูหรา ได้หลีกหนีความวุ่นวาย อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่ที่ติดแกลมเราก็ไปได้เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าเราไม่ได้มีความสุขเท่ากับที่ที่เรียบง่าย คอนเซ็ปต์ของผมแค่ต้องการความเรียบง่ายและความสงบ”
แต่เห็นจากแต่ละที่ที่ไป กว่าจะพบกับความเรียบง่าย เดินทางค่อนข้างลำบาก
แชมป์ : “มันก็เป็นประสบการณ์หนึ่ง เราต้องกลืนมันลงไป ผมมองว่าอายุตอนนี้ เรายังเลือกได้ว่าอยากเที่ยวสบายหรือลำบาก แต่พอเราแก่ตัวไป ร่างกายไม่เหมือนเดิม เราเลือกไม่ได้แล้ว สมมุติวันหนึ่งอยากไปเดินขึ้นเอเวอเรสต์ แต่เราอายุ 50 แล้ว เราก็ไปไม่ได้ แต่ตอนนี้ยังไปได้ เราก็เลือกอะไรที่ร่างกายเราไหว”
แล้วแซมมี่ชอบเที่ยวแบบไหน
แซมมี่ : “ถ้าเลือกได้ อย่างแรกคือเราไม่ค่อยชอบเดินทางด้วยรถสาธารณะ เราชอบความเป็นไพรเวท สมัยก่อนขึ้นรถเมล์ได้ แต่พอโตขึ้น เรามี Option ให้เลือกได้ว่าจะนั่งรถสาธารณะหรือจะขับรถไปเอง เราซื้อรถมา เราก็ต้องใช้ ส่วนที่พัก ไม่ได้ติดแกลม แต่ถ้าห้องน้ำต้องแยกโซนเปียก โซนแห้งได้ก็จะดี ต้องไม่เป็นไม้ และต้องไม่น่ากลัว เพราะเรากลัวผี แชมป์เป็นคนอะไรก็ได้มากเกินไป บางทีเราไม่ชอบการเข้าห้องน้ำแล้วห้องน้ำมันเปียกไปหมด จะเรียกว่าดัดจริตนิดหนึ่งก็ได้ค่ะ” (หัวเราะ)
แชมป์ : “ไม่นิดอะ… หยอก ๆ”
แซมมี่ : “แต่เรื่องกิน กินง่าย ไม่ค่อยเรื่องมากเท่าไหร่ ถ้ากินไม่ได้ก็แค่ไม่กิน”
แชมป์ : “ความเหมือนข้อหนึ่งของเราสองคนคือเป็นคนกินอะไรก็ได้ ส่วนแซมต่อให้มีอะไรให้กินก็จะไม่ค่อยกิน”
แซมมี่ : “แชมป์เป็นคนกินแบบเอาให้อิ่ม แต่เราไม่ใช่คนที่กินแค่ให้อิ่ม บางทีเราอยากเสพสิ่งที่เรากิน อย่างกาแฟ เราก็อยากเลือกเมล็ด แต่แชมป์กินอะไรก็อร่อย”
ต่างกันหลายอย่างแล้วเที่ยวด้วยกันเป็นอย่างไร
แชมป์ : “ตีกันสิครับ”
แซมมี่ : “ก็อดทน คำเดียวเลย”
ทะเลาะกันเรื่องอะไรบ่อย ๆ
แชมป์ : “ทุกเรื่อง”
แซมมี่ : “ทุกอย่างเป็นประเด็นได้หมดสำหรับคู่เรา (หัวเราะ) เช่น กระเป๋าเราหนักก็เป็นประเด็น เดินทางชันก็เป็นประเด็น เดินไม่รอ เดินนำไปก่อนก็เป็นประเด็น”
แชมป์ : “กลางคืนเขาตื่น เรียกผมแล้วไม่ตื่น ก็เป็นประเด็น แต่ก็สนุกดีนะ หลัก ๆ ปัญหาเวลาเดินป่าก็คือแซมชอบฝืนแบกกระเป๋าหนักเกินไปแล้วก็เจ็บขา ผมก็แค่ย้ายของในกระเป๋าเขามาใส่ในกระเป๋าผมให้กระเป๋าเขาเบาลงแล้วเดินกันต่อ”
ยังจำทริปแรกที่ไปเที่ยวด้วยกันได้ไหม
แซมมี่ : “ไปเชียงใหม่”
แชมป์ : “ดอยผ้าห่มปกและฮาดู่บิ ผมมีประสบการณ์ด้านเดินป่ามาบ้าง ทริปนั้นเราเตรียมเองทุกอย่าง และด้วยความที่เป็นทริปแรก ก็ไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง ของเลยไม่พร้อม”
แซมมี่ : “ฮาดู่บิเป็นหมู่บ้านที่เขาให้เรากางเต็นท์ได้ เรามีแค่เต็นท์ แต่เราไม่มีอย่างอื่นเลย เก้าอี้ โต๊ะ จาน ช้อน เราไม่มีเลย เราเห็นเพื่อนบ้านมีทุกอย่าง เขามีไฟตกแต่งหน้าเต็นท์เขานั่งดื่มด่ำดูดาวแบบสบาย ๆ ส่วนบ้านเรา กินข้าวทีต้องเอาถุงขยะสีดำมาปูรองนั่ง สงสารตัวเอง หลังจากนั้นเราก็ขึ้นดอยผ้าห่มปก เราไม่รู้ว่าอากาศมันจะหนาวขนาดนี้”
แชมป์ : “เป็นดอยที่สูงอันดับสองของประเทศไทย”
แซมมี่ : “เราต้องตื่นตอนตีสามครึ่งและจ้างไกด์ท้องถิ่นพาเดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น มันหนาวมากจนไม่รู้สึกเอนจอยกับอะไร เราได้แต่นั่งเอาตัวเข้าไปหลบลมอยู่ในพงหญ้า มันไม่สนุกเลย มือซีด มือชาไปหมด เราคิดในใจว่ามันสวยเหรอวะ ! พระอาทิตย์ก็ไม่เห็น ฟ้าก็ปิด ต้องยืนรอจนกว่าฟ้าจะเปิด ชุดก็ไม่พร้อม หน้าก็ไม่ได้แต่ง รูปที่ออกมาอุบาทว์มาก นี่คือประสบการณ์การเปิดโลกเดินป่าครั้งแรก”
แชมป์ : “สิ่งที่ทำให้เขาแฮปปี้ได้สิ่งเดียวคือรองเท้า เพราะเพิ่งซื้อรองเท้ามาใหม่ เขาเดินได้โดยไม่ลื่นเลย ซึ่งผมลื่นล้มกลิ้งหลายรอบมาก เขาก็ขิงผมตลอดทาง”
ครั้งแรกขนาดนี้ แล้วทำไมยังมีครั้งต่อไป
แซมมี่ : “เพราะหลังจากกลับมาเราอยากช้อปปิง อยากเอฟของ มันเป็นไอเท็มที่เราต้องมี พอซื้อแล้วก็ต้องหาทริปไป”
แชมป์ : “มันเหมือนเป็นเลเวล เดินไปสักพักมันเริ่มใช้สิ่งเดิมไม่ได้อยากได้อะไรที่เล็กลง น้ำหนักเบาลง เช่น เก้าอี้ตัวแรกอาจจะเป็นเก้าอี้นั่งธรรมดา ไม่มีที่พิง ตัวต่อมาอาจเป็นตัวมีที่พิงและเบาลง ต้องอัปเกรดไปเรื่อย ๆ”
แซมมี่ : “ซึ่งของเดินป่าราคาไม่ถูกเลย รวม ๆ น่าจะเป็นแสนแล้ว”
ใครเป็นคนเลือกว่าทริปต่อไปจะไปที่ไหน
แชมป์ : “ทริปหลัง ๆ ผมไม่ได้ตัดสินใจแล้ว อย่างที่แซมบอกคือผมเป็นคนอะไรก็ได้ เลือกได้เลย พอเขาเอฟของมา เขาก็จะถามว่าไปไหนดีวะเธอ เราก็บอกว่าแล้วแต่เธอเลย”
แซมมี่ : “แรก ๆ เราก็ไม่รู้ว่าเราควรหาข้อมูลเรื่องระยะทางอย่างไร เราดูแค่รูปว่าที่ไหนสวย เราก็ไปที่นั่น แต่รู้สึกว่าจะพลาดทุกที่เลยอะ (หัวเราะ) อย่างที่สันหนอกวัว กาญจนบุรี เราเดินไป 8 กิโลฯ กลับ 8 กิโลฯ โอโห จะตาย ทรมานมาก แล้วร้อนมาก เหมือนเดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึง”
ทริปไหนที่รู้สึกว่าลำบากแบบจำไม่ลืม
แซมมี่ : “หลายทริปอยู่นะ”
แชมป์ : “เชียงดาวไง”
แซมมี่ : “ไปเชียงดาวมาปีที่แล้ว ตอนนั้นเพิ่งกลับจากยุโรปได้วันเดียว เราก็ขับรถขึ้นเหนือเลย ตอนนั้นเดือนธันวาคม ไม่มีใครคิดหรอกว่าฝนจะตก เพราะอากาศจะต้องดี ฟ้าเปิด แต่มันเป็นความซวยของเราสองคน เพราะวันที่เราเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ฝนตกตั้งแต่นั่งอยู่บนรถกระบะขึ้นไปที่จุดเดิน ก่อนไปหาข้อมูลแล้ว เขาบอกว่าดอยหลวงเชียงดาวเดินง่าย แค่เดินไกล ไม่ยาก แต่พอฝนตก คดีพลิกเลย เดินยากขึ้นหลายเท่าตัว”
แชมป์ : “มันเป็นดินสไลด์และเป็นหน้าดินที่ไม่มีก้อนหินเลย”
แซมมี่ : “ถ้าลื่นก็คือบายเลย พอฝนตกมันก็เดินยากมาก ไป-กลับเส้นทางเดียวกัน เราก็ต้องสวนกับคนที่เดินมา ทั้งกระเป๋า ของที่เราแบก ลูกหาบ ไม่มีอะไรให้เราจับหรือเกาะเลย แชมป์ก็สไลด์ไปหลายรอบเหมือนกัน”
แชมป์ : “บนดอยหลวงเชียงดาวจะมีลานกางเต็นท์ให้เราเอาของไปวาง แล้วขึ้นไปบนยอดต่อ ทุกคนในซีซั่นนั้นได้ขึ้นยอดกันหมดเลย ยกเว้นวันที่เราไป วันนั้นไม่มีใครได้ขึ้นยอดเลย เพราะฟ้าปิด ฝนตก และลื่น เจ้าหน้าที่เลยไม่อนุญาตเพราะมันอันตราย น่าจะเป็นทริปที่เฟลที่สุดตั้งแต่เคยเดินป่ามา”
แซมมี่ : “ระหว่างเดินนี่เขวี้ยงไม้เทรคกิ้งทิ้งแล้ว จะร้องไห้แล้วอะ มันทั้งโมโห ทั้งโกรธ แต่ไม่รู้โกรธอะไร แค่รู้สึกว่าทำไมเราต้องเอาตัวเองมาอยู่จุดนี้ ทำไมต้องมาอดทนกับอะไรแบบนี้ !”
แชมป์ : “ผมก็ทำได้แค่ทำหน้านิ่ง ๆ แล้วยืนรอให้เขาเก็บของแล้วไปต่อ”
แซมมี่ : “เธอเก็บไม้เทรคกิ้งให้ฉัน เราก็ก้มหน้าเดินต่อ พอไปถึงลานกางเต็นท์ มันก็ไม่ได้กว้าง คนก็ไปจองที่กัน เราจะไปแทรกเขาไม่ได้ก็เลยได้นอนตรงทางเดินที่คนเดินผ่านหัวเราไป-มา ฟ้ามืดเป็นสีเทาหมด กลางวันยังไม่สว่างเลย เราขึ้นไปกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปข้างบน แล้วกลับลงมาแค่นั้น แต่พอเราลงมาถึงแล้ว เย็นวันนั้นฟ้าเปิด…”
แชมป์ : “เราคือคนบาป“
แซมมี่ : “เป็นทริปที่เฟลมาก เชื่อว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ไปที่นี่ทุกคนจะบอกว่าสวยและเดินง่าย แต่ไม่ใช่สำหรับเราเลย”
แชมป์ : “อีกที่น่าจะเป็นฮ่องกง แซมให้ผมเลือก ผมก็เสิร์ชหาจุดเดินป่าฮ่องกงสวย ๆ ถึงเวลาเดินจริงมันชันตลอดทาง ตั้งแต่เดินป่ามา ผมไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลย แต่ครั้งนี้มันไม่ถึงสักที เป็นเนินเขาซ้อนเนินเขาไปเรื่อย ๆ”
แซมมี่ : “ที่นี่คือจุดชมวิวที่สูงที่สุดในฮ่องกง ชื่อว่า ลันเตาพีค (Lantau Peak) รูทคือเดินไปลงที่ปลายทาง หนองปิงพระใหญ่ (Ngong Ping) เราเห็นว่าจะถึงยอดแล้ว แต่พอใกล้ถึงก็คือเดินลง เดินขึ้นอีกอยู่แบบนั้น แล้วเรากลับไม่ได้ ต้องเดินไปให้สุดจนกว่าจะเจอพระใหญ่ โอโห…”
แชมป์ : เป็นครั้งแรกที่ผมคิดว่าเมื่อไหร่จะถึง ทำไมมันไกลจัง”
แซมมี่ : “ปกติแชมป์เป็นคนเดินไม่เหนื่อยเพราะออกกำลังกาย แต่ขนาดแชมป์ยังเหนื่อย เราคือไม่เหลือ”
ทรหดขนาดนี้แล้วความสุขของการไปเที่ยวคืออะไร
แชมป์ : “มันคือความเรียบง่าย”
แซมมี่ : “ไม่ง่ายเลย…”
แชมป์ : “ถ้าถามว่าความสุขในการไปเที่ยวป่าของผมคืออะไร ยอมรับตรงนี้เลยว่าไม่มี เพราะยังหาไม่เจอ ผมแค่รู้สึกว่ามันคือที่ของเรา เคยเป็นไหม รู้สึกว่าเราอยู่ที่นี่แต่มันไม่ใช่ที่ของเรา แต่เมื่อไหร่ที่เราเข้าไปในป่า เข้าไปในธรรมชาติ เรากลับรู้สึกคุ้นเคย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้อยู่กับมันบ่อยด้วยซ้ำ เหมือนเป็นเซฟโซน”
“สำหรับผมความสุขไม่ได้เกิดที่ปลายทางอย่างเดียว มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เราเริ่มขับรถออกจากบ้าน ผ่านผู้คน ผ่านถนนต่าง ๆ ได้เจอชาวบ้านก่อนเดินขึ้น ได้คุยกับลูกหาบ ได้คุยกับผู้ใหญ่บ้าน พวกนี้มันคือความสุขหมดเลย ต่อให้ปลายทางมันไม่สวยอย่างที่คิดผมก็มองว่ามันคือความสุข”
แล้วความสุขของแซมมี่ในการไปเดินป่าคืออะไร
แซมมี่ : “ไม่มี (หัวเราะ) ความสุขของเราคือแฟน ๆ ที่รอติดตามความลำบากของเรา เขาดูชอบที่เราได้ใช้ชีวิตลำบาก เราก็เลยลำบากให้เขาดูหน่อย เวลาเข้าเซเว่น เข้าห้าง คนจะทักว่า ‘อุ๊ย ดีใจจังเลยได้เข้าห้างแล้ว’ หรือ ‘ไม่ไปเดินป่าเหรอคะ’ ‘ป่าต่อไปไปที่ไหนคะ’ มันก็เป็นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้เรารู้ว่าไปเที่ยวต่อก็ได้วะ เรามีความสุขเฉพาะเวลาที่เราได้มีรูปลงไอจีกับตอนซื้อของ แค่นั้นเลย แต่ระหว่างทาง จริง ๆ ไม่มีความสุข มันทรมาน”
แชมป์ : “แต่มีครั้งหนึ่งไงที่เธอรู้สึกว่าได้พิชิต”
แซมมี่ : “ใช่ อาจจะเป็นการชาเลนจ์ของตัวเอง การเที่ยวแบบนี้ก็เป็นอะไรใหม่ ๆ เรายังมีกำลัง มีแรงไปได้ ก็ลองไป จริง ๆ มันก็ไม่ได้สนุก ระหว่างทางไม่ได้ราบรื่น มีทั้งโมโห มีทั้งจะร้องไห้ บางทีก็คิดนะว่า เราเหนื่อยมาเพื่ออะไรวะ ก็เหมือนกันทุกที่ แต่บางที่พอมันไปถึงมันก็คุ้ม”
มีที่ไหนบ้างที่ไปแล้วสวยจนรู้สึกว่าคุ้มค่าแก่การลำบาก
แซมมี่ : “ล่าสุดที่ลำปาง ชื่อดอยจิกจ้องฆ้องคำ เราเป็นคนเลือกเองเหมือนเดิม ถ้าไปลำปางคนอาจนึกถึงดอยขุนตาน แต่เราอยากเปิดที่ใหม่ ๆ ให้ใครที่ติดตามเราได้ไปกัน ระยะทางประมาณ 5.5 กิโลฯ เดินชันขึ้นอย่างเดียว เราเดินขึ้นไปกันเอง ไม่มีลูกหาบ ไม่มีไกด์นำ ข้างบนเป็นเหมือนสถานปฏิบัติธรรมและมีพระธาตุอยู่ เราก็นอนกันรอบ ๆ พระธาตุ รู้สึกว่าเป็นที่ที่คุ้มมากกับการที่เดินขึ้นไป 5 ชั่วโมง เพราะมันว้าว มันสูงจนเราเห็นภูเขาซ้อนกันอยู่ข้างล่าง เห็นหมอกที่อยู่ต่ำกว่าเราแซมด้วยภูเขาสีเขียว ทุกอย่างมันเป็นใจ ตอนเย็นก็สวย ตอนเช้าตื่นมาก็สวย ไม่ได้มีหลายที่ที่เราย้อนกลับไปดูรูปแล้วรู้สึกว่าที่นี่สวย ที่นี่คือลำบากแต่คุ้มเลยประทับใจมาก”
แชมป์ : “อีกที่หนึ่งคือยอดดอยผ้าห่มปก ที่แรกที่เราไป วันนั้นผมจำได้ว่าเราเดินขึ้นไปแบบง่วง ๆ เหนื่อย ๆ แต่พอขึ้นไปถึงฟ้าปิด ไม่เห็นอะไรเลย มีแต่หมอก มีคนบอกเราว่า รออีกประมาณครึ่งชั่วโมง พระอาทิตย์จะขึ้น แล้วมันจะสวยมาก เราก็คิดว่าต้องทนอีกครึ่งชั่วโมงเลยเหรอ แต่เราก็รอ เพราะคิดว่าพยายามขึ้นมาถึงที่นี่แล้ว อีกแค่ครึ่งชั่วโมงทำไมเราจะรอไม่ได้ สุดท้ายฟ้าก็เปิดจริง ๆ แล้วเราก็ได้เห็นแสงแรกของวัน ซึ่งมันสวยมาก แสงของพระอาทิตย์กระทบกับหมอกรอบ ๆ มันเหมือนกับท้องฟ้ากำลังระเบิด วันนั้นทะเลหมอกหนามากจนเป็นก้อนสีขาวรอบตัวเราเลย ที่นี่เลยเป็นอีกจุดที่ผมประทับใจมาก”
แซมมี่ : “อีกอย่างที่ประทับใจที่นี่คือหมูกระทะ เรากินแบบไม่มีไฟฟ้า ต้องกินแบบใส่ไฟคาดหัวส่องเข้าไป พอเป็นหมูกระทะร้อน ๆ กินตอนอากาศหนาว ๆ มันอร่อยมาก !”
แชมป์ : “วันนั้นฝนตก เราไม่ได้นั่งกินในเต็นท์นะ เราต้องยกหมูกระทะเข้ามาในสำนักงาน นั่งแอบมุม ๆ ที่ลมไม่พัด แล้วนั่งกินกันสองคนมืด ๆ และมีเจ้าหน้าที่คอยเดินมาถามว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ โอเคไหมครับ อร่อยไหมครับ อยู่กันได้ไหมครับ ทุกที่ที่เราไป เราประทับใจเจ้าหน้าที่หมดเลย เขาดูแลพวกเราดีมาก และไม่ใช่แค่พวกเรา เขาดูแลทุกคนดีหมด”
แซมมี่ : “สิ่งที่ประทับใจมาโดยตลอดตั้งแต่เดินป่าแรก ๆ คือผู้คน ลูกหาบ ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ เราเจอแต่คนน่ารักทั้งนั้นเลย ไม่ใช่ว่าเพราะเราเป็นดารา เขาจะดูแลเราดี แต่เราเห็นถึงความตั้งใจทำงานในหน้าที่ของเขา เขาดูแล ใส่ใจนักท่องเที่ยวทุกคนได้อย่างดีทุกที่ที่เราไป”
อยากให้เล่าถึงทริปที่ทำให้เห็นถึงความประทับใจที่มีต่อผู้คน
แชมป์ : “ถ้ำเสาหิน กาญจนบุรี มันคือการเดินป่าเข้าไปในถ้ำเพื่อไปเจอเสาหินที่สูงที่สุดในประเทศไทย ทางมันแบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะแรกคือเดินป่า จากนั้นเป็นการปีนหน้าผาหิน แล้วก็เป็นลำคลองงูที่ทุกคนจะต้องใส่หมวกกันน็อคและชูชีพ จากนั้นเราจะไปเจอปากถ้ำ ข้างในมีแอ่งน้ำใหญ่ ๆ ซึ่งน้ำในถ้ำเชี่ยวมาก จะมีคาราบิเนอร์อยู่หนึ่งเส้นเอาไปเกี่ยวชูชีพไว้กับเชือก เราต้องค่อย ๆ สาวเชือกไปทีละคนในน้ำที่เย็นและเชี่ยวมาก”
แซมมี่ : “ถ้าหลุดไป ทุกอย่างจะไวมาก เจ้าหน้าที่คนเดียวไม่พอ ต้องมีมัคคุเทศก์อีก 2 คน ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้คนเยอะขนาดนี้ แต่พอเราไปดูหน้างานจริง ต้องมีคนอยู่หัว กลาง ท้าย ดูแลให้เราว่ายน้ำผ่านไป เขาทำงานแบบน่านับถือมาก”
แชมป์ : “เขาทำงานแบบถวายชีวิตเลย ความปลอดภัยของลูกทัวร์ต้องมาก่อน บางจุดมันเสี่ยงมาก ไม่จำเป็นต้องเซฟเราก็ได้ เพราะถ้าตัวเขาตกน้ำไปมันจะอันตรายมาก กระแสน้ำในถ้ำมันไม่ได้ไหลไปทางเดียว มันวนไป วนมา มีโอกาสถูกน้ำดูดเสียชีวิตได้ แต่เขายังเดินไปตรงนั้นที่มันอันตรายมากเพื่อเซฟพวกเรา”
มีความกลัวที่เกิดขึ้นในใจไหมเวลาไปเดินป่า
แซมมี่ : “ไม่มีนะ มากที่สุดคือกลัวผี เรื่องท่องเที่ยวเรากลัวชั่วขณะมากกว่า แต่พอมันผ่านไปแล้วเราก็ลืมมันไป แค่ต้องมีสติแค่นั้นเลย แต่นอกนั้นไม่ค่อยกลัวอะไร”
แชมป์ : “ตัวผมไม่มีเลย”
มีสถานที่ไหนที่อีกฝ่ายไม่คิดจะไปแต่เราอยากพาไป
แซมมี่ : “ฉันรู้ว่าเธอจะตอบว่าเนปาล”
แชมป์ : “มันมีเส้นทางที่เนปาลชื่อว่า Everest Three Passes Trek เดินรอบเขาเอเวอร์เรสต์ผ่านสามเทือกเขาใหญ่ ๆ ซึ่งจะเหนื่อยมากและค่อนข้างอันตราย แต่ก็สวยมากเช่นกัน เพื่อนบอกว่าภูเขาที่เห็นในประเทศไทยมันเทียบไม่ได้เลยกับการที่เราได้เดินอยู่ในระดับความสูง 8,000 เมตร มันใหญ่โต อลังการมาก ภาพที่เห็นในอินเทอร์เน็ตก็เทียบไม่ได้กับการได้เห็นด้วยตาเนื้อ ผมเลยอยากอัปเลเวลตัวเองด้วยการไปเดินที่นี่ ผมพยายามชวนแซมตลอด ตั้งแต่เนปาลยังไม่มีสงครามกลางเมือง จนตอนนี้ไปไม่ได้แล้ว เหตุผลที่แซมไม่ไป ไม่ใช่เพราะกลัวการเดินป่านะ แต่เพราะกลัวสนามบินที่เนปาล จะมีสนามบินที่ชื่อว่าลุคลาที่รันเวย์มันสั้นมาก ถ้าเครื่องเทคออฟไม่ทันก็จะลงไปในเหวเลย”
แซมมี่ : “ ใครจะไปอะ ดูดิ” (หัวเราะ)
แชมป์ : “แล้วเขาชอบนั่งดูคลิปใน TikTok พวกคลิปเครื่องบินลงในรันเวย์แล้วเครื่องดริฟต์ หมุน หรือเครื่องบินตก เขาชอบดูแล้วบอกว่า ฉันไม่ไปหรอก”
แซมมี่ : “เราก็ดูเป็นข้อมูล”
แซมมี่อยากพาแชมป์ไปเที่ยวที่ไหน
แชมป์ : “นั่งเฟิร์สคลาสแน่นอน”
แซมมี่ : “ใช่ค่ะ นั่งเครื่องบินเฟิร์สคลาส ไปไหนก็ได้ ให้เลือกประเทศเลย”
แชมป์ : “ไปเนปาลไหมล่ะ”
แซมมี่ : “เนปาลไม่มีเฟิร์สคลาส ! อย่างที่บอกเราชอบเดินทางแบบซื้อความสะดวกสบายให้ตัวเอง แม้ว่าไปถึงแล้วจะลำบาก แต่ระหว่างทางเราอยากรีแลกซ์ แต่แชมป์เป็นคนที่อะไรก็ได้มากเกินไป เลยทำให้เราดูเยอะขึ้นจากปกติที่เราก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น”
แชมป์ : “เยอะ พูดเลยว่าเยอะ”
ถ้าสมมุติได้ไปเที่ยวคนเดียว มีเรื่องไหนที่คิดถึงอีกฝ่าย
แชมป์ : “กูได้นั่งเฟิร์สคลาสแล้ว กูได้นั่งลีมูซีนแล้ว กูไม่ต้องมาเดินป่าแล้ว แบบนี้ใช่ปะ”
แซมมี่ : “ใช่ (หัวเราะ) ก็คงเหงาเพราะเราค่อนข้าง Introvert แต่แชมป์เป็นคน Extrovert จะมีความเจ๊าะแจ๊ะ วุ่นวายรอบตัวเราตลอดเวลา หลัก ๆ ก็แค่เหงา ส่วนเรื่องดูแล เทคแคร์ใส่ใจ มันเป็นปกติ ซึ่งเราก็ดูแลตัวเองได้ สิ่งที่หายไปคงเป็นความพูดมากของเขา มันอาจจะเงียบสงบลง แต่เราอาจจะไม่ชินแล้ว”
สำหรับแชมป์ คิดถึงอะไรในตัวแซมมี่
แซมมี่ : “เสียงด่า เสียงบ่น”
แชมป์ : “ผมว่าคงเป็นเสียงบ่นแหละครับ คือไม่มีใครให้เราดูแลไง ถ้าเราไปคนเดียวหรือไปกับแก๊งชายฉกรรจ์ แต่ละคนมันดูแลตัวเองได้ ไม่มีใครมางอแงใส่เรา ไม่มีใครให้เราคอยถามว่าปวดขาไหม เดินไหวไหม แบ่งของมาเป้ฉันไหม ถ้าไม่มีแซมให้คอยดูแล มันก็คงเป็นการเดินชิล ๆ เรื่อย ๆ เป็นกราฟแบบราบเรียบ แต่พอมีแซมมันจะขึ้นลงเหมือนโรลเลอร์โคสเตอร์ ก็สนุกไปอีกแบบ”
แซมมี่ : “แต่ถ้าเลือกได้ก็จะ…”
แชมป์ : “เป็นทางเรียบดีกว่า”
อยากรู้ว่าการเดินทางทำให้ทั้งสองคนเติบโตอย่างไร
แซมมี่ : “สำหรับมี่นะ มี่ว่าเราเป็นคนที่ง่ายขึ้น…หรือเปล่าวะ”
แชมป์ : “ไม่ใช่เพราะการเดินทางหรอก เพราะฉันต่างหาก”
แซมมี่ : “จากที่เป็นคนนอนยาก ก็หลับง่ายขึ้น เริ่มมีความอะไรก็ได้บ้าง แต่ก็ไม่ขนาดนั้น (หัวเราะ) แต่รู้สึกว่ากินง่าย อยู่ง่ายขึ้น บางทีมันไม่มีชอยส์ให้เราเลือก เราก็ต้องตัด Option ความเยอะของเราออก”
แชมป์ : “ฉันว่าเธอเรียบง่ายขึ้น ปรับตัวเข้ากับอะไรได้ง่ายขึ้น เมื่อก่อนถ้ามีอะไรไม่ได้ดั่งใจนิดหนึ่งก็จะมาละ มาก่อนที่จะพยายามปรับตัว แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมรู้สึกได้คือเขาพยายามกดสิ่งนั้นไว้ และพยายามปรับตัวเข้าหาสิ่งแวดล้อมก่อน ได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน แต่ส่วนใหญ่ก็จะ…”
แซมมี่ : “ไม่ได้ (หัวเราะ) แต่นั่นแหละ ความเยอะของเราลดลง กินง่าย อยู่ง่ายขึ้น”
แชมป์ : “ของผมพอเดินทางมากขึ้น ผมเข้าใจคนมากขึ้น เราเห็นทั้งคนที่เขามีเยอะมาก ๆ และคนที่เขาลำบากมาก ๆ เราได้เจอคนทำงานบนเรือประมง เราได้เจอคนที่เป็นเจ้าของรีสอร์ตใหญ่โต ยิ่งไปต่างประเทศก็ยิ่งได้เจอวัฒนธรรมที่หลากหลายขึ้น เราได้เรียนรู้เบื้องหลังของคนเหล่านั้นว่าเขาเจออะไรในชีวิตมาบ้าง ทำให้เราเข้าใจเขามากขึ้น และปรับใช้กับชีวิตของเราได้ และรู้ว่าจะต้องดีลกับคนแต่ละแบบอย่างไร ทำให้เราปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้น และทำให้เราใช้ชีวิตแบบมีความสุขง่ายขึ้น”
แซมมี่ : “พอเราได้ลองพูดคุยกับคนเหล่านี้ มันจะมีหลายมุมมองจากหลาย ๆ คน จากหลายอาชีพ ทำให้เราเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างในมุมที่แตกต่างออกไป ทำให้เราได้เปิดโลกทางความคิดของเราได้มากขึ้นเหมือนกัน”
“เมื่อก่อนก็คงเหมือนทุกคนที่ชอบไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะรู้สึกว่ามันว้าวกว่า แต่พอได้เริ่มเดินทางในไทยมากขึ้น เที่ยวในไทยมันก็ดี และมันยังมีที่ใหม่ ๆ ที่เรายังไม่เคยรู้ และคนก็ยังไม่ค่อยรู้ให้เราได้ลองไป เชื่อว่ามีอีกเยอะ”
ติดตามแซมมี่และแชมป์ได้ที่
Instagram : sammycowelll, champ_chanatip
TikTok : sammycowell, champ_chanatip
