4 กิจกรรมดีต่อใจ ชะลอวัยสมอง

วัยที่มากขึ้นมักสวนทางกับการทำงานและภาระหน้าที่ที่น้อยลง สมองที่เคยสั่งการคิดแก้ปัญหาต่าง ๆ ก็แทบไม่ถูกท้าทาย ทั้งนี้จากรายงานของกรมสุขภาพจิตพบว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้นปีละ 100,000 ราย ในขณะเดียวกันรายงานผลการศึกษาที่มีต่อที่ประชุมประสาทวิทยาแห่งชาติของอเมริการะบุว่า หากผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุมีงานอดิเรกหรือกิจกรรมยามว่างทำ จะช่วยป้องกันความเสี่ยงในการเกิดความจำเสื่อม ได้ถึงร้อยละ 40 เลยทีเดียว ดังนั้นอย่านิ่งดูดาย ก่อนที่ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะสมองเสื่อม หันมาฝึกฝนเรียนรู้ทักษะใหม่หรือกิจกรรมที่ทั้งสนุกและน่าสนใจ เพื่อช่วยชะลอวัยให้สมองกันดีกว่า

Mandala Art คลายเครียดด้วยสมุดภาพระบายสี

สิ่งที่ถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานของพระลามะในทิเบต ซึ่งฝึกฝนจิตใจด้วยการโรยทรายสีสวยเป็น Mandala งานศิลปะรูปวงกลมอันเกิดจากความเชื่อที่ว่า ทุกสรรพสิ่งถูกรังสรรค์ขึ้นจากวงกลม ไม่มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด กลายมาเป็นศิลปะภาวนาที่แฝงแง่คิดเกี่ยวกับการเข้าใจและยอมรับในสัจธรรมชีวิต จนถูกนำมาใช้บำบัดสภาวะอารมณ์ให้กับคนทุกเพศทุกวัย ทั้งช่วยคลายเครียด สร้างสมาธิ และทำให้จิตใจสดชื่นขึ้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งนี้ศิลปะภาวนา หรือ Mandala นั้นไม่จำกัดรูปแบบ สามารถรังสรรค์ได้ตามจินตนาการ แต่ต้องสอดรับสมดุลอยู่ภายใต้วงกลมเดียวกัน จึงเป็นการฝึกสมาธิและฝึกจิตเป็นอย่างดี เพราะหากจิตใจไม่นิ่งแล้ว จะไม่สามารถสร้างศิลปะภายใต้รูปวงกลมให้ออกมาสวยสมดุลได้

แนะนำเพิ่มเติม : มือใหม่อยากลอง

สำหรับผู้สนใจจะเริ่มต้นวาดรูปวงกลมเองก็ได้ หรือหากรู้สึกว่ายากไป สามารถเลือกสมุดภาพระบายสีที่รวมรูป Mandala ไว้ให้เลือกลงสีมากถึง 20 ภาพ มีทั้งแบบช่องใหญ่ระบายง่าย และแบบช่องเล็กลวดลายละเอียดขึ้น เหมาะกับทุกเพศทุกวัย สนใจสามารถสั่งซื้อได้ทางเฟซบุ๊กเพจ “Miracle Mandala สมุดภาพระบายสีเพื่อการฝึกสมาธิ” หรือโทร.09 0981 2705 เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างสมาธิและคลายเครียดได้ดีทีเดียว

เขียน Diary ฝึกความจำ ป้องกันการหลงลืม

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า การเขียนบันทึกจะช่วยฝึกสมองและพัฒนาความจำได้ ยืนยันจากงานวิจัยของ Longman and Atkinson พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนเรามีโอกาสจำข้อมูลที่ได้ยินโดยไม่จดบันทึกเพียง 5% แต่หากจดบันทึกจะมีโอกาสจำได้สูงถึง 34% ดังนั้นหากไม่อยากสมองเสื่อมเร็ว ลองหาสมุดสวย ๆ และปากกาที่จับถนัดมือ มาเริ่มต้นเขียนไดอะรี่กันเถอะ

หลักการเขียนไดอะรี่นั้นไม่ตายตัว จะเขียนเป็นบันทึกประจำวัน บันทึกเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น หรือเขียนสรุปตามความเข้าใจเพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นจากการจดจำของเราก็ได้ อีกทั้งยังสามารถเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยปากกาสีเดียว หรือจะใช้ปากกาหลายสีแยกประเภทตามเรื่องราว หรือจะวาดรูปย้ำเตือนถึงเหตุการณ์นั้นลงไปด้วยก็ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเขียนบันทึกแบบไหน สิ่งที่จะได้ก็คือการฝึกให้สมองจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ในทุกวัน ทำให้ไม่หลงลืมง่าย มีความคิดเป็นระบบ รู้จักการลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ รวมถึงฝึกการตัดสินใจให้มองข้ามสิ่งไม่สำคัญไปได้ สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มเขียนไดอะรี่ แนะนำว่า ควรเขียนทุกวันก่อนนอน และนำกลับมาอ่านสัปดาห์ละครั้ง เพื่อทบทวนว่ายังจำเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ได้หรือไม่

แนะนำเพิ่มเติม : เขียนไดอะรี่ออนไลน์

ใครที่อยากลองเขียนไดอะรี่ แต่ไม่ถนัดจับปากกา แนะนำให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My Diary มาใช้งานกันเลย นอกจากดาวน์โหลดได้ฟรี ยังให้ความรู้สึกเหมือนเขียนบันทึกลงสมุดจริง ๆ มีธีมน่ารักให้เลือกใช้หลากหลาย สามารถเติมภาพ วิดีโอ และไฟล์เสียงลงไปได้ ที่สำคัญคือมีระบบล็อกไดอะรี่เพิ่มความมั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครแอบมาอ่านได้แน่นอน แถมยัง Export เป็นไฟล์ pdf และยังสามารถ ซิงค์กับ Cloud เพื่อสำรองข้อมูลได้อีกด้วย ดาวน์โหลดได้ที่ google play

ต่อ Jigsaw เติมแรงบันดาลใจ

การค้นหาส่วนที่หายไปของจิ๊กซอว์เพื่อต่อเติมให้เป็นภาพสวยสมบูรณ์นั้น นอกจากความเพลิดเพลินที่ได้จากการตามหาสิ่งที่ขาดและความปิติยินดีเมื่อหาเจอแล้ว เป็นการจดจ่อโฟกัสกับภาพตรงหน้ายังช่วยสร้างสมาธิได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยฝึกเรื่องความจำและความอดทนในการทำบางสิ่งบางอย่างด้วย เพราะในระหว่างที่ตั้งใจหาจิ๊กซอว์ชิ้นที่ต้องการ สมองทั้งสองส่วนจะถูกบริหารไปโดยอัตโนมัติ การต่อจิ๊กซอว์จึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยปรับปรุงและเพิ่มความจำให้ดีขึ้น

จากการศึกษาระบุว่า การใช้ความจำในกระบวนการต่อจิ๊กซอว์ ทั้งการจำรูปร่างและขนาดของชิ้นส่วนแล้วเห็นภาพ ช่วยเสริมสร้างการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมองและสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมา จึงเป็นวิธีที่ดีในการปรับปรุงความจำระยะสั้น ช่วยเพิ่มทักษะในการแก้ปัญหา และช่วยลดระดับความเครียด ที่สำคัญคือช่วยลดความเสียหายของสมองในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ได้ด้วย

แนะนำเพิ่มเติม : Jigsaw Villa รวมภาพจิ๊กซอว์ไว้ให้เลือกมากมาย

สนใจต่อจิ๊กซอว์ แนะนำร้าน Jigsaw Villa ที่รวมจิ๊กซอว์คุณภาพเยี่ยมจากทั่วโลกมาไว้ให้เลือกสรรแบบละลานตา หน้าร้านอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 45 ใกล้กับเซ็นทรัล พระราม 3 โทร. 09 2668 5959 ร้านเปิดตั้งแต่ 11.00 – 19.00 น. หรือเข้าไปเลือกภาพที่เพจ “Jigsaw Villa ขายจิ๊กซอว์คุณภาพ นำเข้าจากต่างประเทศ ราคากันเอง” สามารถสั่งทางออนไลน์ ทางร้านมีบริการจัดส่งทั้งทางไลน์แมน ไปรษณีย์ และขนส่งเอกชน บอกเลยว่ามีภาพสวย ๆ รอให้ต่อเพียบ

ถักไหมพรม กระตุ้นสมองและระบบประสาท

หลายคนอาจจะมองว่า การถักไหมพรมเป็นกิจกรรมของคนที่ว่างมากจนไม่รู้จะทำอะไร แต่แท้จริงแล้วกิจกรรมที่ทั้งน่ารักและอบอุ่นนี้มีข้อดีมากกว่าที่คิด หลายงานวิจัยของต่างประเทศบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คนที่ใช้เวลาว่างไปกับการถักไหมพรม ไม่ว่าจะถักด้วยโครเชต์ ไม้นิตติ้ง หรือวิธีการใดก็ตาม โดยเฉพาะในผู้สูงวัย ทำให้เกิดการใช้สมาธิอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้ห่างไกลจากโรคสมองเสื่อม อย่างความจำสั้นและอัลไซเมอร์ได้ดีทีเดียว

ที่สำคัญคือ การถักไหมพรมทำให้ได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างไอเดียจากการคิดรูปแบบลวดลายในการถัก นอกจากนี้ยังต้องใช้สมาธิ และมีสติโฟกัสอยู่กับสิ่งที่ทำ พร้อมกับใช้การสั่งการของระบบประสาทและสมองในการเคลื่อนไหวปลายนิ้วให้ถูกต้องแบบต่อเนื่องด้วย จึงเป็นการกระตุ้นสมองและระบบประสาทไปพร้อมกัน ดังนั้นใครไม่อยากสมองเสื่อมเร็ว กิจกรรมถักไหมพรมคือตัวช่วยที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

แนะนำเพิ่มเติม : Craft Therapy Studio สร้างสรรค์กระเป๋าไหมพรมแบบ DIY

เวิร์กชอปสตูดิโอสุดน่ารักที่มีคลาสสอนงานโครเชต์ให้เลือกเรียนหลากหลาย โดยเฉพาะกระเป๋าแสนสวยจากไหมพรมที่ทำสนุก ช่วยเพิ่มสมาธิ และยังได้ผลงานให้อิ่มเอมใจด้วย นอกจากกรุ๊ปคลาสที่สตูดิโอ Craft Therapy Studio ยังมีคลาสออนไลน์ให้เรียนได้จากที่บ้าน หากกลัวว่าจะยากเกินไป แนะนำให้เริ่มต้นเรียนจากกระเป๋ารุ่น "โนโซมิ" ที่ถักง่ายที่สุด แถมยังใช้เวลาถักแค่วันเดียว รับรองว่าจะถักเพลินจนลืมเวลาไปเลย สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ทางไลน์ @crafttherapystudio หรือเฟซบุ๊กเพจ Craft Therapy Studio