

Crystal Singing Bowl เสียงนี้ที่เยียวยา แพท วง Klear
Health / Mind
23 Aug 2022 - 11 mins read
Health / Mind
SHARE
23 Aug 2022 - 11 mins read
เสียงเพลงช่วยสร้างความสุขให้กับคนเรา ไม่ว่าจะสุข เหงา หรืออารมณ์ไหน ๆ ท่วงทำนองของเพลงก็มักจะเป็นเพื่อนที่เราเลือกให้อยู่ข้าง ๆ เสมอ นอกจากนั้นแล้วแรงสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงยังทำงานกับร่างกายของเราได้ลึกซึ้งมากกว่าที่คิด แพท-รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย หรือแพท วง Klear นักร้องสาวแถวหน้าของวงการเพลง จะพาคุณไปรู้จักกับ Crystal Singing Bowl คลื่นเสียงบำบัด ศาสตร์แห่งการดูแลสุขภาพ ร่างกาย และจิตใจที่มีต้นกำเนิดมาจากทิเบตที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเธอให้รู้จักตัวตนข้างใน รักตัวเองเป็น และพร้อมที่จะแบ่งปันความรักให้ผู้อื่นได้อย่างสมดุล
รู้จักกับ Crystal Singing Bowl
Crystal Singing Bowl หนึ่งในศาสตร์แพทย์ทางเลือกที่มีต้นกำเนิดจากการสวดมนต์ของทิเบต คือการสร้างแรงสั่นสะเทือนในโมเลกุลของโถคริสตัลที่มีขนาดแตกต่างกัน 7 ใบ เชื่อมโยงกับคลื่นพลังงานของจักระทั้ง 7 ซึ่งเชื่อว่าเป็นศูนย์กลางพลังงานกายและจิตวิญญาณของมนุษย์ กลายเป็นคลื่นเสียงที่มีคุณสมบัติเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่ต่ำ เป็นภาวะสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่สมดุลต่อมนุษย์ เนื่องจากร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 70% การสั่นสะเทือนของเสียงจะเข้าไปทำปฏิกิริยาภายในร่างกาย จัดระเบียบโมเลกุลน้ำภายในเซลล์ต่าง ๆ ให้ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์และสมดุลยิ่งขึ้น กระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ที่บกพร่อง เลือดลมไหลเวียน และยังช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด เพิ่มสมาธิ ปลดล็อกอารมณ์ติดค้างต่าง ๆ จัดการกับพลังงานลบที่สะสมในร่างกาย ช่วยเยียวยาความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจได้
เสียงนี้เคลียร์หัวใจแพท
เสียงดังกังวานจากโถแก้วรูปร่างไม่คุ้นตาที่คุณแพทเคยได้ยินทางออนไลน์เมื่อหลายปีก่อนยังคงติดอยู่ในความทรงจำ ทั้งที่ไม่รู้ที่มาที่ไป แต่ก็เป็นเสียงที่ฟังแล้วผ่อนคลาย และเหมือนมีพลังงานอะไรบางอย่างน่าดึงดูด จนเธออยากจะได้ยินของจริงสักครั้ง และเมื่อจังหวะจัดสรรลงตัว คุณแพทก็มีโอกาสได้ไปสัมผัสกับ Crystal Singing Bowl ด้วยตัวเอง กลายเป็นเสียงที่เข้ามาช่วยเคลียร์หัวใจและเปลี่ยนชีวิตของเธอ
“แพทได้รู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่งชื่อพี่เดือนจากการไปปฏิบัติธรรม เคยแลก Facebook กันไว้ จนวันหนึ่งได้เห็นพี่คนนี้เล่น Crystal Singing Bowl เลยส่งข้อความไปหาทั้งที่จริง ๆ ไม่ได้สนิทกันเลย พี่เขาเลยชวนมาเข้าคอร์สของครูนาท (ดร.กัมปนาท บัวฮมบุรา หนึ่งในนักดนตรีบำบัดชั้นนำของโลก) ที่บ้านทอฝัน สังขละบุรี ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมคอร์สนั้นก็คือการฟัง Crystal Singing Bowl ทำให้เราได้ฟังแบบสด ๆ ครั้งแรก”
แต่ครั้งแรกที่ได้ยิน กลับไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายอย่างที่คิด ตรงกันข้าม เธอรู้สึกไม่สบายตัว มึนหัว เหมือนคนเมาเรือ ในขณะคนร่วมคลาสคนอื่น ๆ ก็มีปฏิกิริยาที่ต่างกันออกไป แต่ไม่มีใครมีอาการเหมือนที่เธอรู้สึก
"ตัวเราเซนซิทีฟกับเสียงอยู่แล้ว ครั้งแรกที่ได้ฟังเรารู้สึกเหมือนเมาเรือ มีอาการคลื่นไส้นิดหน่อยและเวียนหัว เหมือนคลื่นเข้าไปทำอะไรสักอย่างกับร่างกาย คุณครูก็ไม่ได้ตกใจอะไร บอกแค่ว่าให้ดูอาการน้อมรับไป”
ในตอนนั้นคุณแพทเริ่มรู้สึกพิเศษกับพลังงานของคลื่นเสียง โดยที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะนำพาเธอไปพบเจอกับอะไรบ้าง
“แพทสนใจกับอาการปวดหัวของตัวเอง เรารู้อยู่แล้วว่าเรามีอะไรบางอย่างที่อยากจะเคลียร์ออก แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แพทเองไม่ได้เลือกเส้นทางของการไปพบแพทย์แผนปัจจุบัน เรารู้ว่างานที่เราทำมันมีอะไรบางอย่างสะสม ชีวิตเองก็ผ่านความทุกข์เรื่องราวต่าง ๆ มา มันยังหลงเหลืออยู่ พอได้ฟังคริสตัลโบว์ลแล้วปวดหัว แพทก็อธิษฐานเลยนะ ขอให้ช่วยเคลียร์สิ่งที่เราเคลียร์ออกไปไม่ได้ เราน้อมรับและยอมปล่อยให้คลื่นเสียงพาไป”
เมื่อได้ฟังครั้งต่อ ๆ ไป อาการต่าง ๆ ก็ลดน้อยลง จนคุณแพทได้มีโอกาสไปเข้าคอร์สที่บ้านทอฝันเป็นครั้งที่ 2 โดยในครั้งนี้เธอได้ค้นพบคำตอบอะไรบางอย่างที่ช่วยปลดล็อกความไม่เข้าใจ สภาวะต่าง ๆ ที่เธอกำลังเผชิญอยู่
“ช่วงนั้นแพทก็เรียนรู้ทำความเข้าใจกับการรักตัวเอง เมตตาตัวเอง ซึ่งเราเข้าใจว่าเรารักตัวเองเป็นมาตลอด แต่ยังสับสนว่าเราเห็นแก่ตัวไหมที่รักตัวเองก่อน เราเลยมักจะทำเกินลิมิตของตัวเอง ลืมพักผ่อนให้พอหรืออะไรก็ตาม จังหวะที่ลุกไปเก็บที่นอนหลังจากฟังเสร็จ เราเหมือนวาร์ปตัวเองออกไป เหมือนกระโดดเอาตัวเองออกมาเห็นเรื่องราวที่คนคนนี้ต้องเจอมาทั้งหมด น้ำตามันไหลออกมาเลยนะ รู้สึกว่าเขารับมาหนักมาก และที่รอดอยู่ทุกวันนี้มีใครดูแลเขา เลยกลายเป็นว่าคริสตัลโบว์ลมาช่วยปลดล็อกในเรื่องที่ผ่านมา เรารักตัวเองไม่เป็น เมตตาตัวเองไม่เป็น แล้วเราจะทำให้คนอื่นเต็มที่ได้อย่างไร ถ้ายังเบียดเบียนตัวเองอยู่แบบนี้”
ชีวิตไม่แตะเบรก และภาวะ Post-Performance Depression
เมื่อแพทใช้ชีวิตเต็มที่แบบไม่แตะเบรกมาตลอด ละเลยเรื่องพื้นฐานในการดูแลตัวเองเพราะคิดว่ายังไหว ร่างกายก็เริ่มประท้วงส่งสัญญาณให้ทราบ “เมื่อก่อนคืออะไรมาทำหมด บางครั้งก็ร่วงเพราะคิดว่าตัวเองยังไหว เราไม่กล้าบอกเขาว่าเราแบตอ่อน เมื่อก่อนแพทไม่มีถังสำรอง คือร่วงก็เข้าโรงพยาบาลเลย เพราะเราคิดว่าต้องทำให้เต็มที่ แต่พอเรามารู้ว่าทำแบบนั้นมันไม่เป็นผลดีต่อใครเลยหลังจากที่เรารู้จักและเข้าใจกับศาสตร์คริสตัลโบว์ล มันไม่เป็นผลดีต่อตัวเราเอง รวมถึงแฟนและแม่ เราทำให้คนรอบข้างเป็นห่วงเรา”
นอกจากเรื่องการรักตัวเองที่อาจจะยังเข้าใจบิด ๆ เบี้ยว ๆ อยู่บ้างแล้ว คุณแพทเคยเขียนถึงสภาวะ Post-Performance Depression ที่ตัวเองกำลังเผชิญในอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งนับเป็นศิลปินคนแรก ๆ ที่เอ่ยถึงปัญหานี้ออกสื่ออย่างตรงไปตรงมา และคลี่คลายผ่านพ้นเรื่องนี้มาได้ส่วนหนึ่งก็มาจากศาสตร์ของคริสตัลโบว์ล
“เมื่อก่อนเราจะคิดว่าเราเป็นคนกราฟอารมณ์ไม่ปกติ เราสามารถดีดอารมณ์ขึ้นสูงได้มาก และมีบางวันก็ลงหนักมาก ปัญหามันเกิดตอนคอนเสิร์ต Genie Fest 16 ขึ้นเล่นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเป็นเวทีที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต และน่าจะเป็นวันที่เราภูมิใจที่สุดในชีวิต คนดูเป็นหมื่น แต่วันรุ่งขึ้นเราตื่นมากลับรู้สึกไร้ค่า หดหู่ ลุกจากเตียงไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่คอนเสิร์ตก็ประสบความสำเร็จ เลยลองไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต พบว่ามีการวิจัยทั่วโลกที่บ่งบอกว่าศิลปินหรือนักแสดงต่าง ๆ ระดับโลกก็เจอกับเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้ศิลปินหลายคนติดยา ติดเหล้า เพราะเวลาที่เราขึ้นเวที ยิ่งใหญ่เท่าไรเหมือนกับเราฉีดอะดรีนาลินเข้าตัวเองมากเท่านั้น วันรุ่งขึ้นร่างกายพยายามจะปรับถอนอะดรีนาลินออกให้กลับเป็นภาวะปกติ แต่พอเราเห็นกราฟที่มันลง มนุษย์จะตีความเป็นเรื่องซึมเศร้า อารมณ์ดิ่ง”
“มันไม่มีทางแก้แบบเป็นรูปธรรม ทางแก้ที่แพทอ่านเจอแล้วคิดว่าเวิร์กที่สุดก็คือพุทธศาสนา คือยอมรับสิ่งนี้ว่ากำลังเกิดขึ้น พอเรารู้ทันว่านี่คือสภาพฮอร์โมนกำลังปรับก็ดีขึ้น เรารู้เราอยู่กับมันได้ หลังจากขึ้นคอนเสิร์ต วันรุ่งขึ้นเราพยายามหากิจกรรมที่เบี่ยงเบนความสนใจเราออกไป เช่น ไปสวน ไปเล้าเป็ด อะไรแบบนี้เลย มันก็ดีขึ้น แต่ว่าสุดท้าย เรียกว่าหายได้เลยก็เพราะคริสตัลโบว์ล”
เสียงที่เยียวยาจิตใจ จากคนฟังสู่คนเชิญคลื่นเสียง
การทำงานของคลื่นเสียงจากคริสตัลโบว์ลที่คุณแพทได้สัมผัส เข้าไปช่วยเยียวยาสภาวะต่าง ๆ ที่เธอต้องเผชิญ จนทำให้จากคนที่ฟังเฉย ๆ เกิดแรงบันดาลใจในการส่งต่อศาสตร์นี้ให้กับผู้อื่นได้สัมผัส และยังเป็นวิธีที่ทำให้เธอค้นพบหนทางในการใช้เสียงเยียวยาจิตใจในแบบของตัวเอง
“คริสตัลโบว์ลเป็นการทำงานกับร่างกายเราของเอง ทำให้ผู้ฟังเข้าสู่ภาวะที่ร่างกายผ่อนคลายและสมดุลที่สุด สำคัญที่สุดคือเราปล่อยตัวเองให้เข้าสู่สภาวะคลายทุกส่วน คลายเซลล์ คลายความเครียด เข้าสู่การยอมน้อมรับทุกสิ่ง ปล่อยให้คลื่นเสียงหรือคุณสมบัติของแร่อัญมณีต่าง ๆ เข้าไปทำงาน”
“แพทเคยอธิษฐานว่าอยากให้เสียงของเราเยียวยาใจผู้คน ตอนแรก ๆ ที่ทำงาน แน่นอนคืออยากมีชื่อเสียง อยากเป็นที่รู้จัก อยากเป็นที่รัก อยากให้คนร้องเพลงเราได้ แต่พอนาน ๆ ไป กลายเป็นว่าเราไปเจอคุณค่าที่ลึกกว่านั้น การที่มีคนมาเล่าให้ฟังว่าเพลงเราช่วยเขาได้ อยู่ข้าง ๆ เขาในวันที่เขาร้องไห้ ทำให้เขาลุกขึ้นมาได้ เราเลยได้เจอคุณค่าที่สูงสุดของชีวิต ถ้าอย่างนั้นฉันจะตั้งใจอยากจะให้เสียงเพลงไปเยียวยาหัวใจคน แต่ไม่เคยคิดนะว่ามันจะมาชนกับศาสตร์ของคริสตัลโบว์ล พอได้มาสัมผัสกับศาสตร์นี้กลายเป็นว่าเราได้ใช้ทั้งเสียงของเรา และคริสตัลโบว์ลได้เยียวยาคนอื่น น่าจะเป็นประโยชน์เหมือนกับที่เราเคยได้รับ ฟ้าให้สิ่งเหล่านี้ทั้งเสียงหรือชื่อเสียงต่าง ๆ แพทก็อยากจะทำให้เกิดประโยชน์กับตัวเองและคนอื่น”
ชีวิตหลังรู้จักกับพลังแห่งคลื่นเสียง
เมื่อเริ่มตกตะกอนกับพลังงานใหม่ ๆ ที่ได้รับ เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในแง่มุมดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ทำให้หลังรู้จักกับพลังแห่งคลื่นเสียง คุณแพทบอกว่าถ้าเล่นเกมก็เหมือนชีวิตมีสกิลเพิ่มเติม มีอาวุธครบมือในการรับมือกับสิ่งต่าง ๆ รวมถึงไลฟ์สไตล์ที่ต่างขั้วกันของเธอ
“เหมือนได้ปลดล็อกสกิลแบตสำรอง บวกกับช่วงนี้แพทได้กลับไปใกล้ชิดกับธรรมะมากขึ้น ตอนเริ่มกลับมาทำงานหลังโควิดใหม่ ๆ ก็แอบงงเหมือนกัน เพราะชีวิตค่อนข้างคนละขั้ว กลางวันเชิญคลื่นเสียง กลางคืนไปร้องเพลงในผับ แต่สุดท้ายในเมื่อเราตั้งใจว่าอยากให้เสียงของเราได้เยียวยาใจคน มันก็ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ จะวิธีไหน ที่ไหนก็ได้ ในวัดหรือผับก็เหมือนกัน แพทเองก็มีความสงบ สว่าง และความสุขในใจที่ยึดเป็นหลัก ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรรอบตัว เราได้รักษาบ้านในใจเรา เลยเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาบอกว่าเมตตาตัวเองก่อนแล้วเราจะเมตตาคนอื่นได้ คริสตัลโบว์ลให้สิ่งนี้กับแพท ในระหว่างที่เล่น เราเติมเต็มทั้งตัวเองและคนอื่น เป็นการให้และรับไปพร้อม ๆ กัน”
“ตอนแรกที่ได้รับตัวคริสตัลโบว์ลมา มี 2 ใบที่แพทรู้สึกตีแล้วไม่เพราะ ครูนาทบอกว่ามันคือเรื่องที่เรามีปัญหา ซึ่งก็จริง เป็นใบที่เกี่ยวกับพื้นฐานชีวิตและความสำเร็จ ทุก ๆ ครั้งที่เราตีก็เหมือนทำสมาธิไปด้วย ให้เรายอมรับว่า ใช่ ฉันมีปัญหาเรื่องฐานชีวิตและฉันมีปัญหากับความสำเร็จ เหมือนคุยกับตัวเองให้เราค่อย ๆ กลัวน้อยลง ทุกวันนี้ก็ยังไม่หายขาด 100% แต่คือสบายตัว เราอยู่กับความไม่สบายได้ แพทรู้สึกว่าความสำคัญของการเดินบนเส้นทางนี้คือความรู้สึกดีที่เราค่อย ๆ ทำได้ดีขึ้น เป็นสิ่งที่เรามีความสุข"
“แพทเชื่อในพลังของคลื่นเสียง ไม่ว่าจะเสียงร้องเพลงหรือเสียงคริสตัลโบว์ล แพทเชื่อว่ามันไปถึงคนได้จริง ๆ รวมถึงความรู้สึกด้วย ทุกครั้งที่แพททำงาน จะเหมือนเรามีไอเท็มเกมเตรียมไว้เต็มไปหมด พร้อมจะช่วยเสริมเพิ่มเติม พลังงานความสุขของทุกคนตรงหน้าเรา มีหลายครั้งที่แฟนเพลงมาเล่าเรื่องทุกข์ใจให้เราฟัง เรารู้สึกว่าคนพยายามจะเข้มแข็งกันเยอะ แต่ไม่มีที่ให้เขารู้สึกปลอดภัยพอที่เขาจะอ่อนแอ แพทเลยใช้โอกาสนี้ในการขึ้นเวทีทุกครั้งบอกทุกคนให้เต็มที่ อยากเต้นก็เต้น อยากร้องไห้ก็ร้อง อนุญาตให้ตัวเองอ่อนแอบ้าง จากที่เมื่อก่อนคิดว่าอาชีพเราเหมือนโดนสาป ตอนนี้กลายเป็นว่ามันคือพรที่ได้รับ ด้วยเสียงและชื่อเสียง แพทมีหน้าที่ต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ต่อผู้อื่น เราเป็นคนที่เขาชื่นชม เราพูดอะไรออกไปมันต้องเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาพวกเขาได้”