ภาษารักมี 5 อย่าง แล้วของคุณเป็นแบบไหน? เข้าใจภาษารักที่ช่วยฟูมฟักความสัมพันธ์

27 Feb 2023 - 5 mins read

Health / Mind

Share

‘ความรัก’ เป็นเรื่องสากล แต่ทุกคนกลับไม่ได้แสดงออกว่ารักในแบบเดียวกัน 

 

เคยสังเกตคนใกล้ตัวไหมว่า บางคนพูดคำว่ารักไม่ขาดปาก ต่างจากอีกคน ถึงจะปากแข็งแต่กลับดูแลคนรอบข้างไม่ขาดตกบกพร่อง นั่นเป็นเพราะว่า เราต่างมี ‘ภาษารัก’ เอาไว้แสดงออกแทนความรักในแบบของตัวเอง 

 

ภาษารักในที่นี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความรักแบบแฟนหรือคู่ชีวิตเท่านั้น แต่รวมไปถึงความรักทุกรูปแบบที่เราทุกคนยินดีมอบให้แก่กันได้ ทั้งความผูกพันรักใคร่ในครอบครัว มิตรภาพในหมู่เพื่อนฝูง และความปรารถนาดีกับคนรู้จักรอบตัว 

 

แล้วอยากรู้ไหม ? ว่าภาษาที่ใช่คุณเป็นแบบไหน โดยเฉพาะคน Gen Y ที่รักอิสระและความเป็นตัวเอง หาคำตอบได้ในบทความนี้ 

 

 

ภาษารัก คือ อะไร ? 

ภาษารัก 5 แบบ หรือ The 5 Love Languages เป็นแนวคิดของ ดร.แกรี่ แชปแมน (Dr. Gary Chapman) ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาคู่รักชาวอเมริกัน ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ทำให้ ดร.แชปแมน เข้าใจว่า ความสัมพันธ์ของคู่รักที่มาขอคำปรึกษาจะหวานชื่นหรือถึงจุดสิ้นสุดต้องเลิกรา ขึ้นอยู่กับว่า ทั้งคู่เข้าใจภาษารักหรือวิธีแสดงออกแทนความรักของอีกฝ่ายมากน้อยแค่ไหน? 

 

ดร.แชปแมนได้แบ่งภาษารักออกเป็น 5 แบบ เพราะแต่ละคนต่างมีวิธีแสดงออกถึงความรักที่แตกต่างกัน แล้วในคนคนหนึ่งก็อาจมีภาษารักได้มากกว่า 1 แบบ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติที่คนคนนั้นเป็น สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้ตัวก่อนว่าเป็นคนเลือกใช้ภาษารักแบบไหน และคาดหวังหรือต้องการให้คนอื่นใช้ภาษารักแบบไหนกับตัวเอง โดยไม่ลืมทำความเข้าใจคนใกล้ตัวในชีวิตด้วยว่า พวกเขาแต่ละคนเลือกใช้ภาษารักแบบไหนกันบ้าง 

 

หากละเลยหรือไม่ได้สนใจภาษารักของใครเลย อาจกลายเป็นความเข้าใจผิดว่า คนอื่นไม่เคยรักเราสักนิด ทั้ง ๆ ที่เขาหรือเธอคนนั้นส่งภาษารักมาให้สม่ำเสมอ เพียงแต่ไม่ใช่ภาษารักที่เราอยากได้รับ จนความสัมพันธ์จืดจางลง 

 

ดังนั้น การรู้จักภาษารักของคนสำคัญในชีวิต จะเป็นหนทางที่ช่วยฟูมฟักความสัมพันธ์ให้มั่นคงและยืนยาว เป็นมุมมองความรักที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ แต่ยังคงความเป็นตัวเองไว้ได้ และเชื่อว่ารักที่ดีควรเกิดจากความเข้าใจและเคารพในความเป็นตัวตนของแต่ละคน 

 

 

ภาษารักทั้ง 5 เป็นแบบไหน ? 

 

ภาษารักแบบที่ 1 : บอกรักผ่าน ‘คำพูด’ 

คำพูดแต่ละคำล้วนมีพลังที่สร้างการเปลี่ยนแปลง แค่พูดคำว่ารัก หรือให้กำลังใจกัน ก็ช่วยให้ใครบางคนผ่านวันแย่ ๆ ไปได้ ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเพราะยังมีคนรักอยู่เคียงข้าง การใช้คำพูดที่สื่อถึงความหวังดีจึงเป็นภาษารักที่แสดงออกง่ายที่สุด เหมือนคนปากหวานที่มักจะพูดชื่นชมอยู่ตลอด แต่บางครั้ง ความเขินอายและความรู้สึกกลัวเสียฟอร์ม อาจทำให้หลาย ๆ คนไม่พูดว่ารักออกมา ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด เพราะต่างคนต่างใช้ภาษารักที่ตัวเองถนัด 

 

ภาษารักแบบที่ 2 : มี ‘เวลา’ อยู่ด้วยกัน

อาจไม่ถึงกับตัวต้องติดกัน แต่เป็นคนที่มีเวลาให้และพร้อมใช้เวลาเหล่านั้นทำกิจกรรมต่าง ๆ กับคนที่รักเสมอ กลายเป็นช่วงเวลาสำคัญเพราะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนให้แน่นแฟ้นมากขึ้นภาษารักข้อนี้จึงเน้นไปที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ เป็นเวลาที่ทั้งคู่ได้ใช้ร่วมกันจริง ๆ เช่น นั่งข้าง ๆ อีกฝ่ายที่มีเรื่องกังวลใจ และคอยรับฟังทุกเรื่องราว ซึ่งช่วยสร้างความอุ่นใจให้คนรัก 

 

ภาษารักแบบที่ 3 : ให้ ‘ของ’ แทนใจ

ภาษารักแบบนี้เป็นสิ่งที่จับต้องได้และเห็นกันชัดเจน แต่ไม่สำคัญว่าของชิ้นนั้นจะเล็กหรือใหญ่ มีมูลค่ามากหรือน้อย ขอเพียงเป็นการให้แทนความรักและความรู้สึกดี ๆ  ก็เพียงพอแล้ว นอกจากของทั่วไปที่ซื้อหาได้เป็นปกติ บางคนชอบให้ของทำมือที่ประดิษฐ์ด้วยตัวเอง หรือของที่ออกแบบให้เฉพาะคนรับ เพราะสื่อถึงความทุ่มเทและตั้งใจอยากให้เป็นของชิ้นเดียวเพื่อคนพิเศษ  

 

ภาษารักแบบที่ 4 : ‘ดูแล’ เก่งเป็นที่หนึ่ง 

เป็นภาษารักที่แสดงออกผ่านการทำบางสิ่งบางอย่างให้ อาจเป็นคนพูดไม่เก่งเลย แต่เทคแคร์หรือดูแลคนที่รักได้เก่งมาก ๆ  เพราะทำสิ่งต่าง ๆ  ให้โดยไม่รู้สึกเหลือบ่ากว่าแรง แต่ข้อควรระวังคือ หากอีกฝ่ายขยันทำให้ทุกอย่าง ต้องสังเกตให้ดีว่า เป็นภาษารักของเขาจริง ๆ  หรือเสแสร้งแกล้งเอาใจ เพราะการดูแลใครสักคนควรเกิดจากความเต็มใจ ไม่ใช้ความกลัวหรือถูกบังคับ 

 

ภาษารักแบบที่ 5 : ใช้ ‘กายสัมผัส’

ตั้งใจสัมผัสหรือแตะเนื้อต้องตัวอีกฝ่ายเพื่อสื่อถึงความรัก ความหวังดี และความสัมพันธ์ใกล้ชิด ตัวอย่างกายสัมผัสที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้บ่อยคือ โอบกอด ลูบ จับมือถือแขน และหอมจูบ รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ก็นับเป็นตัวอย่างของภาษารักแบบใช้กายสัมผัส 

 

หากยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเด่นภาษารักแบบไหน ลองตอบคำถามเพื่อหาภาษารักที่ใช่คุณได้ที่ The 5 Love Languages Quiz https://5lovelanguages.com/quizzes/love-language สามารถทำได้ทั้งคนโสดสนิท และคนมีคู่แล้ว เพราะเราต่างต้องเรียนรู้ ‘ภาษารัก’ ไปตลอดที่มีกันและกัน 

 

 

อ้างอิง 

 

 

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...