

เครียดแล้วกินคืออะไร ทำไมถึงอยากกินตลอดเวลา?
Health / Mind
11 Oct 2022 - 3 mins read
Health / Mind
SHARE
11 Oct 2022 - 3 mins read
ทุกวันนี้ชีวิตประจำวันของพวกเราอยู่กับความเครียดโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเครียดจากการทำงาน ความสัมพันธ์ โรคภัยไข้เจ็บ หรือการพยายามหมุนตามโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกยุคโควิด ส่งผลให้เกิดความเครียดสะสมจนร่างกายฟ้องออกมาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ไมเกรน นอนไม่หลับ หรืออ้วนลงพุง ซึ่งอย่างหลังมักเป็นผลพวงมาจากพฤติกรรม “เครียดแล้วกิน” หรือที่เรียกกันว่า “Stress Eating” ที่คนยุคนี้เป็นกันมากนั่นเอง
เรื่องนี้ทางการแพทย์ได้ให้คำอธิบายว่า เมื่อใดที่เราเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียดอย่างคอร์ติซอลออกมามากขึ้น และทำให้เกิดความรู้สึกอยากอาหาร ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นไม่จำเป็นต้องกินเลยสักนิด และเมื่อทำบ่อยครั้งเข้าก็จะเสพติดเป็นนิสัย กลายเป็นพฤติกรรมติดตัว พอเครียดเมื่อไรก็จะหยิบของกินเข้าปากโดยไม่รู้ตัว หรืออยากกินอาหารที่ปกติแล้วไม่กิน เช่น ขนม น้ำหวาน หรือ Junk Food เนื่องจากอาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยน้ำตาล พอกินเข้าไปจะสร้างความพึงพอใจ หรือทำให้เรารู้สึกดีได้ชั่วครู่ แต่สักพักก็จะดิ่งลงไปใหม่ กลายเป็นวงจรวนเวียนไปเรื่อย ๆ สิ่งเหล่านี้ที่ส่งผลให้น้ำหนักตัวของเราเพิ่มมากขึ้น กลายเป็นที่มาของโรคอ้วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ ฯลฯ ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานคงไม่ดีแน่
เราจึงอยากแนะนำวิธีแก้ไขอาการ Stress Eating ที่ทำแล้วเห็นผล จนไม่ต้องเผลอหยิบของกินเข้าปากเวลาเครียด ๆ อีกเลย แต่เคล็ดลับคือ “ใจต้องแข็งพอ” เราก็จะผ่านจุดนี้ไปได้แน่นอน
เลิกพิมพ์แล้วเปลี่ยนมาจับปากกา
เมื่อใดที่เครียด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ให้ลองหยิบกระดาษและปากกามาขีด ๆ เขียน ๆ แทนการใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือ อาจเขียนระบายความรู้สึก ณ เวลานั้นว่าเรากำลังเครียดอยู่ใช่ไหม เครียดขนาดไหน และอะไรที่ทำให้เครียด วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้สกัดความรู้สึกออกมา รู้ถึงต้นตอความเครียด และบอกร่างกายให้รู้ว่าต่อให้กินขนมจนหมดถุงก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหานั้นเลย อีกทั้งยังช่วยดึงดูดความสนใจของคุณออกจากของกินอีกด้วย ถือเป็นการประวิงเวลาให้เราได้คิดอีกนิด ก่อนหยิบขนมเข้าปาก
ปอกเปลือกส้มแทนเปิดถุงขนม
ไม่น่าเชื่อว่ากลิ่นหอม ๆ ของส้มนั้นจะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ เพียงละมือจากงานที่ทำ แล้วค่อย ๆ ปอกเปลือกผลส้ม แทนการกินคุกกี้หรือแกะถุงขนม โฟกัสไปที่การบรรจงปอกเปลือก และการหายใจเข้า-ออกอย่างช้า ๆ ให้คล้ายกับการทำสมาธิสั้น ๆ ระหว่างวัน นอกจากนี้กลิ่นของส้มยังจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายลงอีกด้วย เมื่อร่างกายผ่อนคลายแล้ว ความอยากอาหารก็จะลดน้อยลง
ลุกเดิน 10 นาที
การตัดใจลุกขึ้นและออกเดินจะช่วยดึงความสนใจของคุณจากของกิน เมื่อต้องนั่งทำงานหรือประชุมติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ การเดินจะช่วยคลายความเครียดที่คุณแบกอยู่ และปรับอารมณ์ของคุณให้ดีขึ้น ดังนั้น เมื่อรู้ตัวว่าเริ่มจะเครียดกับชีวิตประจำวัน ลองเปลี่ยนจากการแชตในไลน์ แล้วเดินไปคุยกับเพื่อนร่วมงาน คนรอบข้าง หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง วิธีนี้นอกจากจะช่วยคลายเครียด ลดการกินจุบจิบแล้ว ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ และคนรอบข้างอีกด้วย
เมื่อเลิกไม่ได้ก็ให้ฉลาดกิน
สำหรับคนที่ไม่สามารถหยุดกินได้ เราขอแนะนำให้เปลี่ยนจากการกินขนมมาเป็นอาหารว่างที่มีประโยชน์และมีแคลอรีต่ำแทน เริ่มจากการเก็บขนมและเสบียงใกล้มือทิ้งไปให้หมด แล้วเปลี่ยนมาวางน้ำเปล่าใกล้มือ หากรู้สึกอยากกินเมื่อไรให้จิบน้ำทีละนิด ๆ แทนขนม โดยเลือกสิ่งที่มีประโยชน์ เช่น ถั่ว หรือ ผลไม้ เมื่อใดที่อดใจไม่ไหวก็ให้กินทีละน้อย ไม่ต้องถึงขั้นกินให้หมดในทีเดียว