5 ร้านไอติม ที่แค่ชิมก็เหมือนได้ลุยสวนผลไม้ในหน้าร้อน

14 May 2022 - 11 mins read

Lifestyle / Guide

Share

หน้าร้อนโบกมือทักทายอย่างเป็นทางการแล้ว ถึงโรคระบาดจะไม่เป็นใจให้เราไปเดินเล่นสวนผลไม้ เก็บโน่นนิด แกะนี่กินหน่อยเพลิน ๆ ในช่วงนี้ แต่อย่าเศร้าไป Live to Life มี ‘ไอติมลุยสวน (ผลไม้)’ มาเสนอ...

ที่บอกว่าลุยสวนน่ะ ลุย (ทิพย์) ได้เลยทันทีตั้งแต่คำแรกที่ชิมไอติม เพราะไอติมที่เราไปเสาะหามาล้วนแล้วแต่เป็นไอติมรสผลไม้ตามฤดูกาลทั้งนั้น แถมทุกร้านยังน่ารักตรงที่คัดเลือกและอุดหนุนผลไม้สดๆ ตามฤดูกาลในประเทศ ที่ดูยังไงก็ดีกับผู้บริโภคอย่างเราสุด ๆ

แก๊งไอติมรสผลไม้ฤดูร้อนเรียงแถวพร้อมแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักเรียบร้อยแล้ว นาน ๆ ทีหนึ่งปีมีหนที่จะแวะมาโชว์ตัวกันสักครั้ง เพราะฉะนั้นอ่านจบได้รสที่ชอบแล้ว รีบพุ่งตัวไปกินเลย เดี๋ยวจะหมดฤดูผลไม้เอาซะก่อน ก็ฤดูร้อนแบบนี้จะมีอะไรที่ดีไปกว่าได้กินไอติมแก้ร้อนแกล้มผลไม้ตามฤดูกาลที่คิดถึงมาตลอดปีอีกล่ะ ว่าไหม

facebook
facebook

ไอติมรสสับปะรดและรส Cassis Orange จากร้าน Rintaro

สิ่งที่สะดุดตาอย่างแรกคือวิธีการตักไอติมของ Rintaro ที่ดูไม่เหมือนใคร ดูไม่ตั้งใจแต่ก็ตั้งใจเพราะมีแพตเทิร์นที่แน่นอนในทุก ๆ ลูก พอได้คุยกับคุณรินทาโร่ นากาจิมะ เจ้าของร้าน (ที่พ่วงตำแหน่งหัวหน้าเชฟ) ถึงได้ร้องอ๋อ และหลงรักร้านนี้เข้าไปอีก เพราะความตั้งใจของรินทาโร่คือการบอกรักลูกค้าทุกคนผ่านไอติมที่เปรียบเหมือนช่อดอกไม้

คุณรินทาโร่ฝึกพนักงานทุกคนให้มีจิตใจที่จะมอบความรักทั้งผ่านการแสดงออก และการตักไอติมให้มีหน้าตาคล้ายกับดอกไม้ ที่เมื่อเอาไปวางบนโคนวอฟเฟิลที่ใช้เนยนำเข้าจากฮอกไกโดและทำสดในทุก ๆ เช้าแล้ว กลายเป็นช่อดอกไม้ที่มอบให้ลูกค้าทุกคน และเมนูประจำหน้าร้อนนี้ก็ยังคงความละเอียดอ่อนเฉพาะตัว เพราะเป็นเจลาโต้รสสับปะรดที่ไม่ได้เป็นแค่ไอติมเนียน ๆ แต่ยังใส่เนื้อสับปะรดเน้น ๆ ให้ได้เคี้ยวกรุบ ๆ ด้วย

อีกเมนูที่กินช่วงหน้าร้อนแล้วสดชื่นแบบดับเบิลเข้าไปอีก คือ Cassis Orange ที่ทำจากส้มเขียวหวานไทยและซอสแบล็กเคอร์แรนต์โฮมเมด พอพนักงานกวนเจลาโต้ผสมกันทั้งสองเลเยอร์แล้ว เราจะได้ชิมทั้งรสหวานนำของส้มตามชื่อ (ส้มเขียวหวาน) ทั้งเนื้อแบล็กเคอร์แรนต์ที่เพิ่มรสสัมผัสให้สดชื่นแบบไม่น่าเบื่อเลยในทุกคำที่กิน ที่สำคัญไอติมของร้านล้วนไม่ใส่สี ไม่ใส่สารอันตราย ไม่ใช้ผลไม้แช่แข็ง ไม่ใส่น้ำตาล (ใส่น้ำผึ้งแทน) และไอติมทุกรสจะขายแค่ 72 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้ารสไหนขายไม่หมดก็จะเอาออกจากร้านทันที

ที่ร้านไม่ได้มีแค่เมนูจากวัตถุดิบไทยนะ แต่ยังมีสารพัดเมนูที่นำเข้าวัตถุดิบโลคัลจากญี่ปุ่น เป็นตัวแทนมาคลายความคิดถึง แปลงร่างเป็นรสชาติน่ากินอย่างรสโฮจิฉะแอนด์โมจิ รสถั่วคินาโกะโมจิ รสน้ำตาลดำญี่ปุ่นคาราเมลนัท มันโอกินาว่าแอนด์คัสตาร์ด หรือกระทั่งรสไดฟูกุไส้สตรอว์เบอร์รีถั่วแดง ความน่าสนุกคือการไปลุ้นเอาหน้าร้านว่าวันนี้จะได้รับความรักจากช่อดอกไม้ที่กินได้รสไหนกัน เพราะตอนนี้รินทาโร่มีเมนูเจลาโต้เกือบจะแตะ 350 รสชาติแล้ว! หน้าร้อนนี้อย่าลืมไปรับความรักจากช่อดอกไม้ที่กินได้ของรินทาโร่กันนะ

 

ราคา 120 บาท

สาขาพระโขนง ชั้น 1 W District เลขที่ 1595/521 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110

สาขาพระโขนง เปิดวันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 11.00-21.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-22.00น. (ปิดวันจันทร์)

สาขาอารีย์ เปิดทุกวัน เวลา 11.00-20.00 น.

facebook
facebook

ไอติมรสสับปะรด จากร้าน Torry’s Ice Cream

ปกติถ้าไปร้านไอติมขวัญใจชาวภูเก็ตร้านนี้ก็ต้องไปกินเมนูภูเก็ตโอนลี่ของร้านอย่างไอติมรสโอ้เอ๋วซอร์เบต์ที่เสิร์ฟคู่กับอาโปง แต่พอนึกถึงหน้าร้อน Torry’s ก็ส่งตัวแทนเป็นเมนูมีขายเฉพาะหน้าร้อนแต่ก็ยังบ่งบอกเอกลักษณ์ของภูเก็ตได้ดีไม่แพ้กัน เมนูนี้ชื่อ Dragon Fruit Bowl

ภายในแก้วมังกรลูกโตอัดแน่นไปด้วยซอร์เบต์ 3 รสชาติที่แค่มองก็สดใสสดชื่นแล้วตั้งแต่ยังไม่ได้กิน ลูกเหลืองๆ คือซอร์เบต์สับปะรดภูเก็ตที่ยังคงความหวานอมเปรี้ยวสดชื่นตามเอกลักษณ์ของสับปะรดภูเก็ตไว้อย่างดี ถัดมาสีชมพูเข้มเด่นกว่าใครคือสตรอว์เบอร์รีซอร์เบต์ ตามด้วยโมจิโต้สับปะรดซอร์เบต์ และที่ล้อมเอาไว้หมดแล้วก็คือแก้วมังกร (ออกผลผลิตเยอะช่วงหน้าร้อนเช่นกัน) ลูกกลม ๆ เย็น ๆ กินแกล้มซอร์เบต์แล้วกรุบ ๆ จะตักซอร์เบต์หลายรสผสมกันก็ได้อีกรสชาติ จะกินกับแก้วมังกรก็ได้อีกรสสัมผัส กลายเป็นว่านอกจากอร่อยแล้วยังกินสนุกไปอีก

นอกจากความน่ารักของการแต่งร้านและการนำเสนอของทุกเมนูในร้านแล้ว ความน่ารักของของร้าน Torry’s Ice Cream ยังอยู่ที่ความใส่ใจ เพราะร้านนี้ใช้สับปะรดภูเก็ตมาเป็นเมนูประจำหน้าร้อนมา 6 ปีแล้ว เนื่องจากปัญหาสับปะรดมีผลผลิตล้นตลาด ที่ร้านเลยตัดสินใจช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชนสับปะรดภูเก็ตเพื่อจัดการแปรรูปและยืดอายุของสับปะรดให้ยาวนานขึ้น รู้ที่มาของไอติมรสนี้แล้วก็ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อ้อ! แล้วก็ยิ้มกว้างขึ้นไปอีกโขเมื่อได้รู้ว่าเมนูนี้ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น และไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล ความหวานได้มาจากตัวสับปะรดล้วน ๆ เลย

 

ราคา 140 บาท

16 ซ.รมณีย์ ถ.ถลาง ย่านเมืองเก่าภูเก็ต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต

เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-18.00 น.​

facebook
facebook

ไอติมรสมะม่วง รสยูซุ และรสเสาวรสแอนด์ไวท์ช็อกโกแลต จากร้าน Ghignoni

กิโยนีเป็นร้านเจลาโต้แท้ ๆ ระดับเจ้าของรางวัล Gelato Champion เจ้าแรกของอิตาลีตั้งแต่ปี 1994 และเป็นร้านที่ขายเจลาโต้แบบอิตาเลียนดั้งเดิม (Artisan Gelato) ซึ่งก็คือการทำเจลาโต้ให้เป็นเหมือนงานศิลปะ ใช้วัตถุดิบธรรมชาติและมีคุณภาพ ผลิตใหม่ทุกวัน ไม่แต่งสีแต่งกลิ่นใด ๆ

มาร้านนี้นอกจากจะได้กินเจลาโต้แบบอิตาเลียนดั้งเดิม เหมือนกับได้ไปเหยียบอิตาลีทันทีที่ได้ชิมแล้ว เราจะได้ลองกินเจลาโต้หลากหลายรสสุด ๆ เพราะพนักงานจะยิ้มแย้มชักชวนให้ชิม พอชิมแล้วก็มึนเพราะอร่อยทุกรสจนเลือกไม่ได้ แต่ถ้าให้เลือกรสที่เหมาะกับหน้าร้อนสุด ๆ เบอร์หนึ่ง ต้องยกให้รสยูซุที่นำเข้าจากญี่ปุ่น รสชาติยูซุแท้ ๆ ที่เปรี้ยวนำมาแต่ไกลแต่ก็ไม่ได้เข็ดฟัน เพราะยังมีติดขมปลายให้เจลาโต้รสนี้มีมิติแบบที่รู้ตัวอีกทีก็สั่งกลับบ้านเฉยเลย

แต่ถ้าไม่ได้ชอบรสผลไม้จัดมาก ก็ต้องลองรสเสาวรสแอนด์ไวท์ช็อกโกแลต เป็นการผสมผสานของเสาวรสออร์แกนิกจากโครงการหลวง กับไวท์ช็อกโกแลตแท้ พอชิมไปแล้วก็หยุดกินไม่ได้ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนชอบสั่งขนมหรือเครื่องดื่มแบบเพิ่มท็อปปิ้งให้เคี้ยวกรุบ ๆ อยู่แล้ว รสนี้เกิดมาเพื่อคุณแน่นอน เพราะกัดไปปุ๊บ ถ้าไม่เจอเม็ดดำ ๆ ของเสาวรส ก็ต้องเจอไวท์ช็อกโกแลตในทุกคำ เครื่องแน่นมากจนงง ขนมาทั้งนม ขนม และผลไม้ในรสเดียวกัน

แต่ที่ตรงตามฤดูกาลที่สุดต้องรสมะม่วงที่จะเริ่มขายตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ รสพิเศษนี้ใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ตามฤดูกาล กัดไปปุ๊บจะเจอกับความเนียนนุ่มหอมหวานของมะม่วงน้ำดอกไม้เต็ม ๆ ที่บอกว่าเต็มเพราะที่ร้านใช้มะม่วงถึง 12 ลูกต่อไอติม 1 ถาด กินแล้วหลับตาปุ๊บเหมือนวาร์ปไปอยู่กลางสวนมะม่วงยังไงยังงั้น

 

ราคา 110 บาท

สาขาสีลม อยู่เยื้องวัดแขก เลขที่ 252/5 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. 10500

เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-19.00 น.​

facebook
facebook

ไอติมรสโซจูยูซุแตงโม (ปลาแห้ง) และรสพีน่าโคลาดา จากร้าน QreAm

ตบท้ายด้วยร้านค็อกเทลบาร์ที่หันมาทำไอติมบาร์ไปด้วยเลยในร้านเดียว และไม่ได้ทำเล่น ๆ ด้วยนะ ดูหน้าตาก็รู้ว่าจริงจังทว่าก็ยังสนุกเต็มที่ไปเลยพวก

เมนูหน้าร้อนของร้าน QreAm มาในธีม Tasting Menu ที่มีทั้งเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย (ชาน้ำผึ้งกับไอติมเบอร์กามอทซอร์เบต์แบบโฟลท) เมนคอร์ส และของหวานตบท้าย (กาแฟดริปและช็อกโกแลตพรีเมียม) และถ้าคิดว่าแค่ธีมก็สนุกแล้ว เราขอแนะนำให้รู้จักกับเมนูที่สนุกยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมนคอร์สที่มีรสไอติมให้เลือกได้ 2 อย่าง นั่นก็คือ Soju Yuzu Watermelon Sorbet และ Pina Colada Ice Cream

เมนูโซจูยูซุแตงโมซอร์เบ็ต ประกอบไปด้วยพรรคพวกอย่างไอติมโซจูยูซุแตงโมซอร์เบ็ตที่กินแล้วสดชื่นเย็นใจ เสิร์ฟคู่กับเจลลี่อุเมะโบชิ หรือเจลลี่บ๊วยดองจากญี่ปุ่นที่สุดแสนจะอร่อยจนอยากขอเพิ่ม และยังมีแตงโมสดลูกกลมดิ๊กที่เอาไปแช่กับน้ำดอกไม้มา เพื่อเพิ่มความหอมสดชื่น มีแตงโมแล้วก็ต้องมีปลาแห้งญี่ปุ่นวางข้าง ๆ กินแล้วเหมือนได้นั่งห้อยขาตากลมกินที่ระเบียงบ้านไม้ญี่ปุ่นยังไงยังงั้น

อีกเมนูคือไอติมรสพีน่าโคลาดา ไอติมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายเมืองร้อนจากผลไม้อย่างสับปะรดและมะพร้าว เสิร์ฟมาคู่กับสับปะรดเชื่อมหอมชื่นใจที่โรยตัดรสด้วยผงมาซาล่า ตามด้วยเจลเชอร์รีดอง และยังมีแอพริคอตอยู่ข้าง ๆ เป็นความหลากหลายที่กินเข้าไปแล้วเข้ากันได้ดีเฉยเลย

ต้องยกความดีความชอบให้กับการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำค็อกเทล ที่ต้องใช้ศาสตร์ของการบาลานซ์วัตถุดิบทั้งหมดให้ได้ในแก้วเดียวอยู่แล้ว พอมาทำไอติมทั้งที ก็ยังคงใช้ทักษะที่ชำนาญของบาร์เทนเดอร์อย่างการบาลานซ์รสชาติ เลยทำให้ถึงแม้จะไม่ถนัดทำไอติมในตอนแรก แต่การมีจุดแข็งด้านนี้จึงได้รสชาติไอติมของ QreAm มีสมดุลที่ดี อร่อย และไม่เหมือนใคร แถมยังเลยเถิดไปถึงเครื่องเคียงที่กินแกล้มกับไอติม ที่ออกมาในรูปแบบที่ไม่ใช่แค่ตกแต่งให้สวย แต่ยังลงตัวและรสชาติดีไม่แพ้หน้าตาที่เสิร์ฟมาเลย

 

ราคา 599++ บาท

Q&A Bar เลขที่ 235/13 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110

เปิดวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 18.00-24.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-24.00 น.

facebook
facebook

ไอติมรสกระท้อนเชอร์เบ็ต และมังคุดเชอร์เบ็ต จากร้าน Tim Hii

สำเนาถูกต้องตามธีมไอติมลุยสวนที่สุดต้องร้านนี้ ร้านติมฮิที่ขายไอติมเจลาโต้รสผลไม้มา 10 ปีแล้ว ด้วยความที่เจ้าของร้านเป็นชาวระยอง จังหวัดที่เต็มไปด้วยผลไม้อร่อย ๆ พอได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่เป็นต้นกำเนิดเจลาโต้อย่างประเทศอิตาลี ก็เลยอยากกลับมาทำเจลาโต้รสผลไม้ไทย ๆ ที่บ้านเกิดตัวเองบ้าง เลยออกมาเป็นติมฮิ ร้านเจลาโต้ที่สนับสนุนชุมชนและเกษตรกรชาวสวนจังหวัดระยองและแถบตะวันออกทั้งปี เพราะร้านนี้มีแต่เจลาโต้รสผลไม้ล้วน ๆ เลย

เมนูฤดูร้อนของติมฮิเป็นรสกระท้อนและมังคุดที่เหมาะกับอากาศร้อน ๆ แบบนี้สุด ๆ ทั้งสองรสชาตินี้เกิดจากการที่เจ้าของสวนผลไม้ทักร้านมาว่าอยากส่งผลไม้ดี ๆ ให้ ติมฮิก็เลยคิดค้นไอติมกระท้อนเชอร์เบ็ตและมังคุดเชอร์เบ็ตให้ซะเลย ความพิเศษคือปีนี้กระท้อนเชอร์เบ็ตจะเสิร์ฟในลูกกระท้อนเลย แถมยังมาในชื่อเมนูที่สุดแสนจะน่าหยิกว่า ‘กระท้อนจริงจริง’

ใครอยากกินไอติมผลไม้ที่ยังคงรสชาติผลไม้อยู่ครบถ้วน แถมไม่ต้องเหนื่อยปอกเอง มาลองที่ติมฮิได้เลย ยิ่งถ้าเป็นกระท้อนเลิฟเวอร์นอกจากจะได้กินไอติมรสกระท้อน ที่ร้านยังมีสมูททีกระท้อนและกระท้อนอบแห้งขายด้วยนะ ระวังตัวให้ดี จะโดนกระท้อนล้อมไว้จนกลับบ้านไม่ถูก

 

ราคา 59 บาท

35/3 หมู่ 3 ถ.สุขุมวิท ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง 21000

เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-18.00 น.

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...