จัดบ้านแบบไหนถูกใจทั้งแม่และลูก รวมวิธีจัดบ้านหลากสไตล์ที่อยู่สบายและมีความสุข

16 Aug 2023 - 5 mins read

Lifestyle / Home & Living

Share

คิดว่าตัวเองถนัดเรื่อง ‘จัดบ้าน’ แค่ไหน? จากคะแนนเต็มสิบ ถ้าต้องให้คะแนนตัวเองเรื่องจัดบ้าน จะให้เท่าไหร่ดี?

 

เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเลือกให้คะแนนตัวเองเต็มสิบ เพราะการจัดบ้านถือเป็นเรื่องแสนง่ายที่ทุกคนสามารถทำได้ทันที เพียงแค่หมั่นดูแลความสะอาดและจัดวางข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านให้อยู่ถูกที่ถูกทาง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนของบ้าน ทุกมุมทุกห้องย่อมดูสะอาดตาและเป็นระเบียบเรียบร้อย แถมยังช่วยเพิ่มความน่าอยู่ให้บ้านได้อีกด้วย

 

แต่เรื่องการจัดบ้านที่ใครหลายคนมั่นใจว่าตัวเองถนัดและเอาอยู่ อาจกลายเป็นความท้าทายที่ต้องคิดและวางแผนใหม่ เมื่อบรรดาคุณแม่ ต้องหาวิธีจัดบ้านต้อนรับสมาชิกตัวน้อยหรือลูกรัก โดยปรับเปลี่ยนบ้านหลังเดิมที่เคยมีแต่ผู้ใหญ่ ให้เป็นบ้านแสนสุขที่เด็ก ๆ สามารถอยู่ด้วยได้

 

เพื่อช่วยแนะแนวทางเรื่องจัดบ้านให้ถูกใจคุณแม่และลูก ๆ LIVE TO LIFE ได้รวบรวมวิธีจัดบ้านที่น่าสนใจจากหลายศาสตร์ ไว้ให้คุณแม่ทุกคนได้ศึกษาและนำไปปรับใช้ ซึ่งรับรองว่าตอบทุกโจทย์ความต้องการของคุณแม่ พร้อมทำให้ลูกรักและทุกคนในครอบครัวอยู่อาศัยร่วมกันด้วยความอุ่นใจและมีความสุข

 

 

วิธีจัดบ้านให้ปลอดภัยหายห่วง

สำหรับคุณแม่มือใหม่

 

เริ่มต้นด้วยการจัดห้องหรือเลือกมุมใดมุมหนึ่งของบ้านสำหรับวางเตียงนอนให้เด็กทารก คุณแม่หลายคนอาจเลือกวางเตียงของลูกไว้ในห้องนอน ขึ้นอยู่กับความสะดวกและการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ข้อควรพึงระวังคือ ไม่ควรให้ลูกนอนบนเตียงเดียวกับพ่อแม่ เพราะอาจเกิดอันตรายที่ไม่รู้ตัวขณะหลับได้ เช่น การกลิ้งทับ หรือผ้าห่มปิดหน้าจนเด็กหายใจไม่สะดวก

 

นอกจากนี้ บริเวณใกล้กับจุดที่วางเตียงเด็กสำหรับลูกวัยทารก ควรมีพื้นที่ว่างเพียงพอให้วางโต๊ะหรือตู้ที่มีความสูงไม่เกินช่วงอกของคุณแม่ เพราะต้องใช้เป็นที่เปลี่ยนผ้าอ้อม ชงนม อาบน้ำ และแต่งตัวให้ลูกตัวน้อย ส่วนชั้นภายในตู้ควรใช้เป็นที่เก็บเสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่ใช้เลี้ยงดูลูก ซึ่งรวมอยู่ในที่เดียวเพื่อความสะดวกในการหยิบใช้

 

เมื่อลูกโตขึ้นเข้าสู่วัยเตาะแตะ ให้ปรับพื้นที่ของบ้านใหม่ แนะนำให้จำกัดพื้นที่โดยพิจารณาว่าจะแบ่งพื้นที่ส่วนไหนของบ้านสำหรับให้เด็กได้คลานเล่นอย่างอิสระ โดยเลือกห้องหรือส่วนของบ้านที่เป็นพื้นที่กว้างและมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นที่สุด หากจำเป็นต้องใช้ห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์ ให้เคลื่อนย้ายไปชิดติดผนัง และเพิ่มความปลอดภัยด้วยการติดอุปกรณ์กันกระแทกที่ช่วยลดขอบคมของเหลี่ยมมุมเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงใช้เทปกาวหรืออุปกรณ์เซฟตี้ปิดเต้ารับที่เป็นจุดเสียบปลั๊กไฟให้มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กใช้นิ้วแหย่ได้

 

ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในพื้นที่เลี้ยงลูก หากเป็นชั้นเปิดโล่งให้หาแผ่นยางหรือแผ่นพลาสติกมาปิดกั้นไม่ให้ลูกปีนป่าย หากเป็นชั้นที่มีบานพับ ควรล็อกให้เรียบร้อย ลูกจะได้เปิดเล่นไม่ได้ และที่สำคัญควรมีรั้วพลาสติกสำหรับใช้กั้นประตูไม่ให้เด็กออกจากพื้นที่ไปยังห้องอื่น ๆ นอกเหนือไปจากห้องที่คุณแม่จำกัดไว้ให้ลูกคลานเล่น 

 

 

วิธีจัดบ้านให้ลูกเล่นสนุกเต็มที่

สำหรับคุณแม่อยากให้ลูกมีพัฒนาการดี

 

คุณแม่ทุกคนล้วนอยากให้ลูกรักมีพัฒนาการสมวัย การจัดบ้านจึงเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ส่งเสริมพัฒนาการที่ดีทั้งด้านร่างกายควบคู่กับด้านสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ให้ลูกได้ โดยจัดบ้านด้วยแนวคิดที่ว่า เปลี่ยนพื้นที่ในบ้านเป็นสนามเด็กเล่นและโลกแห่งการเรียนรู้

 

ให้คุณแม่เลือกห้องใดห้องหนึ่งเป็นห้องของลูกโดยเฉพาะ ซึ่งลูกจะใช้เวลาส่วนใหญ่เกือบทั้งวันภายในห้องนี้ ดังนั้น คุณแม่ควรปรับพื้นที่ในห้องให้ลูกได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสบายกายและสบายใจมากที่สุด แนะนำให้ปูพื้นด้วยแผ่นโฟมที่มีสีสันสดใส สำหรับเด็กเล็กที่กำลังซน ควรเสริมเบาะหรือฟูกนุ่มให้ลูกคลานและฝึกตั้งไข่อย่างปลอดภัย

 

ส่วนผนังห้อง ให้คุณแม่สร้างบรรยากาศที่กระตุ้นให้ลูกรู้สึกสนุกและมีความสุขระหว่างเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว เช่น ติดภาพที่ลูกชอบหรือสนใจ ซึ่งควรเปลี่ยนไปตามช่วงอายุและความสนใจของลูก คุณแม่จึงควรสังเกตอยู่ตลอดว่าลูกในแต่ละวัยชอบอะไรบ้าง ให้นำภาพที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นมาติดและตกแต่งผนัง

 

จนกระทั่งลูกเข้าสู่ช่วงวัยฝึกจับดินสอ ราว 3 ขวบ ให้คุณแม่ทาผนังเป็นสีขาว หรือนำกระดาษแผ่นใหญ่มาติดไว้ตามจุดต่าง ๆ ของผนังห้อง เพื่อให้ลูกสามารถขีดเขียนและระบายสีได้ตามใจชอบ นอกจากช่วยพัฒนาจินตนาการของเด็กแล้ว ยังเป็นวิธีที่ดีสำหรับช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กให้แข็งแรงยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ คุณแม่สามารถเลือกของเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ให้ลูก เช่น ตัวต่อ เกมง่าย ๆ หรือบล็อกไม้ตัวอักษรและตัวเลข ทำให้การเล่นของลูกกลายเป็นการเรียนรู้ด้วยความสนุก และเตรียมความพร้อมให้ลูกรักก่อนถึงวัยเข้าเรียน เพราะพัฒนาการที่ดีเกิดขึ้นได้จากการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด

 

เช่นเดียวกับการเลือกแบบประกันเพื่อลูกไทยประกันชีวิต ก้าวแรก จากไทยประกันชีวิต ไว้เป็นหลักประกันให้ลูกรักมีชีวิตที่ดีพร้อมเพิ่มความอุ่นใจให้คุณแม่ได้ โดยรับประกันบุตรอายุแรกเกิด - 90 วัน ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมด้านทุนการศึกษาและสวัสดิการด้านสุขภาพให้แก่ลูกในอีกทางหนึ่ง

 

 

วิธีจัดบ้านฉบับนักจัดบ้านคนดัง

สำหรับคุณแม่ที่อยากใช้เวลากับลูก

 

หนึ่งในกูรูนักจัดบ้านผู้เป็นที่รู้จักมากที่สุดของโลกในตอนนี้ คือ มาริเอะ คอนโดะ (Marie Condo) นักจัดบ้านชาวญี่ปุ่นเจ้าของหนังสือขายดีระดับโลกอย่าง The Life-Changing Magic of Tidying Up หรือภาษาไทยในชื่อ ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว ที่บอกเล่าประสบการณ์และหลักการจัดบ้านในแบบของเธอ ซึ่งเรียกว่าทฤษฎีการจัดบ้านแบบ ‘คมมาริ’ (KonMari) คือการนำสิ่งของทุกอย่างกองรวมกัน แล้วค่อย ๆ แยกของทีละชิ้น ว่ามีคุณค่าพอให้เก็บไว้หรือทิ้งไป ช่วยป้องกันปัญหาของรกบ้านมากเกินจำเป็นได้

 

สิ่งที่ทำให้คอนโดะกลายเป็นกูรูนักจัดบ้าน คือความเป็นแม่ที่ต้องดูแลลูกทั้งสามและทำงานบ้านให้เรียบร้อยอยู่เสมอ เธอบอกว่าการจัดการเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่คุณแม่สามารถใช้เวลากับลูก ๆ ได้ ในช่วงแรกคุณแม่ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีก่อน โดยจัดบ้านให้ลูกเห็นว่า บ้านที่มีระเบียบเรียบร้อยมีลักษณะแบบไหน และควรทำด้วยความสนุกสนานให้การจัดบ้านเป็นเรื่องไม่น่าเบื่อและช่วยให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น

 

เมื่อลูกครบหนึ่งขวบ คุณแม่เริ่มสอนให้ลูกรู้จักและรู้วิธีใช้อุปกรณ์ทำงานบ้าน เช่น ไม้กวาดขนาดเล็ก ผ้าขนาดพอดีกับฝ่ามือ หรือไม้ขนไก่ที่เอาไว้ปัดฝุ่น คล้ายเป็นของเล่นชิ้นใหม่ให้ลูกรู้สึกคุ้นชิน หลังจากนั้นจึงชวนลูกจัดบ้านด้วยกัน กิจกรรมสำคัญที่มองข้ามไม่ได้คือการพับผ้า เพราะเด็ก ๆ สามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อื่นเพิ่ม ระหว่างที่พับ คุณแม่ควรอธิบายวิธีการพับให้ลูกเข้าใจ และสอดแทรกแนวคิดเรื่องการดูแลบ้าน ลูกจะค่อย ๆ ซึมซับนิสัยความเป็นระเบียบจากคุณแม่ได้ทีละน้อย

 

นอกจากนี้ คุณแม่ควรแบ่งพื้นที่ในบ้านให้ลูกรับผิดชอบดูแลเรื่องความสะอาด โดยเฉพาะพื้นที่ที่ลูกใช้ชีวิต เช่น ห้องนอน ห้องที่เอาไว้ทำกิจกรรม ทำการบ้าน หรือเล่นสนุก คุณแม่อาจช่วยจัดระเบียบในพื้นที่ของลูก ๆ บ้าง หรือไม่ก็ชวนลูกมาทำความสะอาดในส่วนอื่นของบ้านแทน ถือเป็นวิธีใช้เวลาร่วมกันอย่างมีประโยชน์และช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณแม่และลูก ๆ ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น

 

 

วิธีจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

สำหรับคุณแม่สายมูที่อยากมีลูกคนแรก

 

หากลองทุกวิธีก็แล้ว แต่ยังไม่มีลูกคนแรกสักที แนะนำให้ลองจัดบ้านใหม่ตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อเปลี่ยนบ้านให้รับพลังทางบวกและช่วยส่งเสริมให้คุณแม่สายมูสมหวัง เพราะหลักฮวงจุ้ยคือความเชื่อของชาวจีนที่ว่า ทุกอย่างรอบตัวล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบที่ส่งผลถึงอารมณ์และความเป็นอยู่ของผู้คนได้ โดยเฉพาะองค์ประกอบของบ้านที่จะส่งผลต่อผู้อาศัยได้โดยตรง ซึ่งในกรณีนี้คือการปรับเปลี่ยนบ้านให้พลังหยินของผู้หญิงและพลังหยางของผู้ชายอยู่ในจุดสมดุลและเข้ากันจนมีลูกคนแรกสำเร็จ

 

การจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยสำหรับคนมีลูกยากแต่อยากมีลูกจะพุ่งเป้าไปที่ห้องนอน เพราะตามความเชื่อ ห้องนอนเป็นที่สถิตของพลังซี่ หรือลมปราณ ซึ่งเป็นกระแสพลังอย่างหนึ่งที่ไหลเวียนอยู่ทั้งภายในร่างกายและรอบ ๆ ตัว เป็นพลังที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสถึงได้ จึงจำเป็นต้องจัดบ้านที่ส่งเสริมให้พลังซี่ไหลเวียนได้คล่องตัว เพราะจะทำให้มีลูกง่ายขึ้น

 

อย่างแรก สำรวจสีของห้องนอนและสีของเตียงว่าเป็นสีอะไร ควรเปลี่ยนเป็นสีอ่อนอย่างสีขาว หรือโทนสีครีม เพราะเป็นสีของธาตุลม สื่อความหมายถึงความบริสุทธิ์ ความอ่อนโยน และความน่าทะนุถนอม ตามหลักฮวงจุ้ยถือเป็นสีที่รวบรวมสีในธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมดุลที่สุด ช่วยส่งเสริมพลังงานชีวิตให้สมดุลตามไปด้วย

 

ต่อมาดูว่าภายในห้องนอนต้องไม่มีของของระเกะระกะ หรือมีเฟอร์นิเจอร์ขวางประตูห้องนอน เพราะจะคอยขัดขวางและปิดกั้นทางผ่านของพลังงานได้ ที่สำคัญคือ ในห้องนอนไม่ควรมีต้นไม้หรือสัญลักษณ์ดอกไม้อยู่ เพราะพลังของธรรมชาติซึ่งมีพลังงานมากกว่าจะแก่งแย่งพลังแห่งการเกิดและเติบโตไป ทำให้ยิ่งมีลูกยาก แต่ควรตกแต่งด้วยภาพและตุ๊กตาสัตว์นำโชคตามความเชื่อของหลักฮวงจุ้ย ได้แก่ ช้าง กระต่าย ปลาคู่ ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมพลังให้เกิดการตั้งครรภ์ได้

 

ทั้งนี้ การจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และเป็นวิธีสร้างความสุขทางใจให้ผู้หญิงที่อยากมือลูกได้ในอีกหนทางหนึ่ง จึงควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนและขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหรือซินแส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ใจปรารถนา 

 

 

อ้างอิง

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...