ลองไหม ? NATO Dating เทรนด์เดตแบบปล่อยจอย มีความสุขที่ได้รู้จักกันเพราะไม่หวังว่าต้องเป็นแฟน

คนออกเดตก็หวังจะพบใครสักคนที่จะมาเป็น ‘คนรู้ใจ’ 

แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ใช่ทุกเดตที่สมหวัง ไม่ใช่ทุกเดตที่เป็นได้ดั่งใจ แต่สำหรับคนโสดที่กำลังเหนื่อยกับการตามหารักแท้อย่างเพิ่งท้อแท้ไป เพราะเราขอชวนไปทำความรู้จักกับการเดตแบบ ‘ปล่อยใจ’ ที่จะทำให้การทำความรู้จักคนใหม่ ๆ เป็นเรื่องสนุกกว่าที่เคย  

NATO Dating ย่อมาจาก Not Attached To Outcomes แปลตรงตัวคือ ไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ การเดตแบบนี้จึงหมายถึง เดตแบบไม่หวังผล ปล่อยจอย ปล่อยใจ เมื่อการเดตตั้งอยู่บนฐานของการไม่คาดหวังจะทำให้สบายใจ ไม่ต้องกังวลถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา และไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วจะได้ลงเอยกันด้วยสถานะไหน ก็ยินดีที่มีคนคนนี้เข้ามาอยู่ในชีวิต เป็นความสัมพันธ์ดี ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง  

NATO Dating จึงต่างจากเดตทั่วไป ซึ่งการเดตแบบทั่วไปนั้น ต่างฝ่ายต่างคาดหวังในผลลัพธ์ จึงพยายามหามุมโรแมนติกมาเอาใจอีกฝ่าย จนอาจไม่เป็นตัวของตัวเอง บางครั้งการพบกับคนแปลกหน้าอาจทำให้มาคุ กดดัน ไม่ผ่อนคลาย จนทำให้หลายคนเหนื่อยและเข็ดขยาดการเดตไปเลยก็มี 

สำหรับมนุษย์ Gen Z ที่รักอิสระ รักตัวเอง แต่ก็อยากมีความรัก NATO Dating จึงเป็นสไตล์ที่ตอบโจทย์ และไม่ว่าคุณจะเป็นคนเจเนอเรชั่นไหน เชื่อว่าการเดตแบบนี้อาจทำให้ค้นพบรสชาติใหม่ ๆ ทำให้สนุกกับการเดตมากกว่าเดิม 

รายงานจาก Year in Swipe ของ Tinder พบว่าในปี 2023 ที่ผ่านมา NATO Dating กลายมาเป็นเทรนด์การออกเดตที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้น ๆ ในทั่วโลก เน้นการใช้เวลาอันมีคุณภาพร่วมกันมากกว่าสร้างความโรแมนติก และดึงดูดกันด้วยไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ เช่น เพลงโปรด เกมที่เล่น หนังสือที่ชอบอ่าน เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างรู้จักตัวตนของกันและกันอย่างเป็นธรรมชาติ  

การเดตจะไม่ได้มาในรูปแบบมอบดอกกุหลาบช่อใหญ่ ดินเนอร์ใต้แสงเทียนเพียงเท่านั้น แต่จะชวนกันไปทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกัน เช่น เดินเล่นสวนสาธารณะ เล่นกีฬา จัดทริป ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งสองชอบทำเหมือน ๆ กัน ซึ่งปัจจุบันแอปฯ เดตอย่าง Tinder เองเผยว่ามีเทรนด์ความสัมพันธ์เกิดขึ้นใหม่มากมาย เช่น FWB หรือ Friend with Boba (เล่นคำจาก Friend with Benefit) หรือเพื่อนที่ชวนกันไปดื่มชาไข่มุก 

แน่นอนว่าคนมาเดตกันเพื่ออยากเจอคนรู้ใจ แต่เดตแบบ NATO เป็นไสตล์ปล่อยใจที่ไม่ได้คาดหวังว่าคู่เดตจะต้องเป็นคนที่ใช่ แม้ไม่ได้ลงเอยกัน แต่อย่างน้อยก็เคยมีช่วงเวลาดี ๆ และยังเป็นเพื่อนกันได้ 

Tinder ยังระบุอีกว่า ปัจจุบันผู้คนหันมาเดตแบบปล่อยใจกันมากขึ้น เนื่องจากสภาพสังคมเปลี่ยนไป ทุกเพศเท่าเทียมและสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง การแต่งงานจึงไม่ใช่เป้าหมายสำคัญในชีวิตของคนเราอีกต่อไป เมื่อไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องรีบแต่งงานก่อนอายุ 30 อย่างที่ค่านิยมในอดีตที่เคยขีดเส้นตายไว้ ทำให้มีเวลามากมายที่จะเดตกับใครสักคนและค่อย ๆ ทำความรู้จักกันไปเรื่อย ๆ ได้ โดยไม่ต้องคาดหวังถึงผลลัพธ์  

NATO Dating สนุกกว่าอย่างไร ?  

ผ่อนคลายมากขึ้น : การเดตแบบปล่อยจอยช่วยให้คู่เดตผ่อนคลายขึ้น อย่างน้อย ๆ หากต่างฝ่ายต่างตกลงกันว่าจะเดตแบบ NATO จะมั่นใจได้ว่าไม่ตัดสินกันตั้งแต่ครั้งแรก ไม่ต้องรู้สึกเหมือนกำลังถูกสัมภาษณ์ แต่เหมือนได้มาเจอรู้จักเพื่อนใหม่ และเมื่อต่างฝ่ายต่างสบาย ๆ เป็นตัวเองก็จะทำให้เห็นตัวตนของกันและกัน ทำให้มองเห็นอนาคตของความสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น 

ไม่ผิดหวัง : เป็นเรื่องธรรมดาที่การออกเดตแต่ละครั้งอาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ ยิ่งคาดหวังมากก็ผิดหวังมาก อาจทำให้รู้สึกเสียเวลา เสียอารมณ์ จนบางคนเข็ดขยาดกับการเดตและทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ ไปเลย ทั้ง ๆ ที่ถ้าลองออกมาเดตแบบปล่อยจอย คิดเสียว่าได้ทำความรู้จักคนใหม่และไม่คาดหวังไป จะรู้สึกว่าการพบกันนั้นเป็น ‘โอกาส’ เขาอาจกลายเป็นคนรักที่ดี เพื่อนที่ดี เป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่เกื้อกูลกันในอนาคตก็เป็นได้  

ตัดสินใจได้ดีกว่า : การเดตแบบปล่อยใจมีแนวโน้มจะทำให้ได้ลงเอยกับคู่ที่เหมาะสมกับเรามากกว่า เพราะได้เห็นตัวตนของกันและกันหลาย ๆ มุม ต้องไม่ลืมว่าดอกกุหลาบช่อใหญ่ในวันนัดเดตไม่ได้แสดงถึงความรักที่แท้จริงเสมอไป การมาตรงต่อเวลาไม่สามารถยืนยันได้ว่าอีกฝ่ายจะไม่นอกใจ ในขณะเดียวกันการด่วนตัดสินก็อาจทำให้พลาดการได้รู้จักคนดี ๆ ไป เพราะหากตั้งความหวังกับคู่เดตไว้สูงมาก สุดท้ายอาจจะตัดคนที่คุณสมบัติไม่ตรงออกไปตั้งแต่แรกเจอโดยที่ยังไม่ได้ใช้เวลาทำความรู้จักกันอย่างถี่ถ้วน 

เก็บเกี่ยวโมเมนต์แห่งความสุข : การเดตแบบ NATO ทำให้เราเห็นความสุขมากมายในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นจากการเดินเล่น กินของอร่อย ชวนกันไปทำกิจกรรมสนุก ๆ ไม่ใช่แค่ความสุขจากความโรแมนติกเพียงอย่างเดียว ซึ่งจากงานวิจัยเผยว่าความสุขของมนุษย์นั้นมาจากหลายแง่มุม และการเก็บเกี่ยวความสุขหลาย ๆ แบบจะช่วยให้มนุษย์เราสนุกกับชีวิตตัวคนเดียวได้ด้วย การเดตแบบ NATO จึงมีพื้นที่ให้เรารู้สึกมีความสุขกับทั้งชีวิตส่วนตัวและความรักไปพร้อม ๆ กัน 

NATO Dating เหมาะกับใคร 

เราแต่ละคนล้วนมีเป้าหมายหลายแบบ การเดตแบบ NATO อาจไม่เหมาะกับใครที่กำลังมองหาความสัมพันธ์ที่จริงจังในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพราะต้องใช้เวลาค่อย ๆ ทำความรู้จักกันไป และอาจไม่เหมาะกับใครที่คาดหวังและยังไม่พร้อมยอมรับความผิดหวัง เพราะท้ายที่สุดแล้วการเดตอาจไม่ได้จบลงด้วยความรักโรแมนติกก็เป็นได้ 

ที่สำคัญ การเดตแบบ NATO จำเป็นต้องตกลงกันทั้งสองฝ่ายว่าเราชวนกันมาปล่อยใจตั้งแต่แรก เพื่อในท้ายที่สุดแล้วเราจะได้ไม่เป็นเหยื่อของคนที่เดตแบบเผื่อเลือก เผื่อทิ้ง ไม่คิดจะจริงจังตั้งแต่แรกแต่ก็กั๊กไว้โดยไม่ให้สถานะ  

แน่นอนว่าท้ายที่สุดแล้วทุกคนที่ออกมาเดตมักอยากจะเจอคนรู้ใจ หากเจอคนที่ใช่ ก็จำเป็นต้องเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองให้อีกฝ่ายรับรู้เพื่อให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไป สิ่งสำคัญของการเดตแบบนี้ คือ การพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้เป้าหมายของความสัมพันธ์ชัดเจน ไม่ว่าจะสานต่อหรือพอแค่นี้ทั้งสองฝ่ายต้องรับรู้อย่างเท่าเทียมกัน หากเดตไปเรื่อย ๆ โดยความรู้สึกที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน แต่ไร้ซึ่งความชัดเจน นั่นอาจไม่ใช่เดตแบบ NATO แต่เราอาจกำลังตกหลุมพรางของความสัมพันธ์ที่เป็นพิษก็เป็นได้ 

วาเลนไทน์นี้ใครที่พร้อมจะรู้จักคนใหม่ ๆ เราขอชวนมาปลดล็อกหัวใจที่เคยเข็ดขยาดการเดตให้กลับมาเต้นตึกตักอีกครั้งด้วย NATO Dating เพียงปล่อยใจสบาย ๆ ทิ้งความคาดหวังไว้ที่บ้าน แล้วออกมาใช้เวลาคุณภาพกับผู้คนหน้าใหม่ ๆ  อาจทำให้โลกทั้งใบเปลี่ยนไปจากเดิมก็ได้ 

อ้างอิง 

• Mark Travers. A Psychologist Explains The ‘NATO Dating’ Trend. https://bit.ly/42AEZB4
• Julia Naftulin. A dating coach reviewed a 26-year-old's Tinder profile and said his 'NATO' — not attached to an outcome — approach is smart. https://bit.ly/3SuFxnq
• Bruce Y. Lee. What Is the 'Not Attached to an Outcome' Dating Strategy?. https://bit.ly/3HS8XXG