รู้จักแล้วจะรัก Plant-based Food เทรนด์อาหารสุด ‘ต๊าช’ ที่ยังคงมาแรง

เคยได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า “เรื่องกินเรื่องใหญ่” แต่จะดีสักแค่ไหน ถ้าการกินอาหารในแต่ละมื้อของเรา ทั้งอร่อย ดีต่อสุขภาพ แถมยังส่งผลดีต่อโลก ทางเลือกที่ตอบโจทย์คือ Plant-based Food เทรนด์อาหารที่ยังคงมาแรงต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในบ้านเราและทั่วโลก เราขออาสาพาไปทำความรู้จักแล้วจะตกหลุมรักในคอนเซ็ปต์จนต้องไปหามาชิมแน่นอน

Plant-based Food เทรนด์อาหารจากพืช คืออะไร ทำไมมาแรง

 เทศกาลกินเจที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีทำให้คนไทยรู้จักอาหารไร้เนื้อสัตว์หรืออาหารเจกันเป็นอย่างดี แต่ที่ผ่านมาวัตถุดิบในการทำอาหารเจส่วนใหญ่อย่างโปรตีนเกษตรนั้น มักทำมาจากแป้งหรือถั่วเหลืองเป็นหลัก โดยไม่ให้ความสำคัญเรื่องกลิ่นหรือรส ทำให้มีรสชาติเฉพาะที่บางคนอาจไม่ชื่นชอบนัก ต่างจากเทรนด์ล่าสุดที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง เช่น Plant-based Food หรืออาหารที่ทำจากพืชโปรตีนสูง ซึ่งนำพืชชนิดต่าง ๆ อาทิ ถั่ว เห็ด สาหร่าย อัลมอนด์ ฯลฯ มาเป็นวัตถุดิบตั้งต้นแทนอาหารอย่างเนื้อ นม โยเกิร์ต เนย ชีส แล้วปรุงแต่งให้มีรสชาติและสัมผัสใกล้เคียงอาหารชนิดนั้น ๆ มากที่สุด เมนูที่รังสรรค์จึงยังคงถูกปาก ในขณะเดียวกันก็ดีต่อสุขภาพมากกว่า โดยปัจจุบันเทรนด์อาหารจากพืชที่ได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมมากที่สุดคือ “เนื้อจากพืช” หรือ “Plant-based Meat” ซึ่งกำลังเติบโตในตลาดทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

Flexitarian ผู้กินมังสวิรัติรายสะดวก ดันให้ Plant-based Food ติดกระแสโลก

 นอกจากเทรนด์การดูแลสุขภาพที่ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินกันมากขึ้น หนึ่งในพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคทั่วโลกที่กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ Plant-based Food ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือ “Flexitarian” หรือการรับประทานมังสวิรัติแบบยืดหยุ่นเป็นครั้งคราว โดยเน้นพืชผัก ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ลง แต่ไม่เคร่งครัดเท่ากับการกินมังสวิรัติหรือ Vegan จึงง่ายและสะดวกต่อการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ทำให้กลุ่มชาว Flexitarian ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย จนเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ Plant-based Food กลายเป็นเทรนด์อาหารที่ต้องจับตา

มื้ออาหารดีต่อใจแถมยังดีต่อสุขภาพ

 หากถามถึงเหตุผลหลักที่ทำให้กลุ่ม Flexitarian ผู้รักสุขภาพเลือกบริโภค Plant-based Food คงหนีไม่พ้นความใส่ใจสุขภาพ เพราะตั้งแต่เด็กจนโต เราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าพืชผักผลไม้นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้นการรับประทาน Plant-based Food หรือ Plant-based Meat ซึ่งทำมาจากพืช จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ เพราะนอกจากจะอร่อยถูกใจให้ความรู้สึกคล้ายกับการกินเนื้อสัตว์ แต่ด้วยความที่ทำจากพืช จึงไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอล ทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารและกากใยที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้ทันที ดีต่อระบบย่อยอาหาร ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง ฯลฯ  เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัยและทุกกลุ่มผู้บริโภคจริง ๆ

รักษ์โลกด้วยการกิน

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Plant-based Food กลายเป็นเทรนด์ “จึ้ง” ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือความห่วงใยต่อสถานการณ์ภาวะโลกร้อน เพราะหนึ่งในวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยรักษ์โลกใบนี้ได้ก็คือการเลือกบริโภค ซึ่งหากพิจารณาจากกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำแล้ว จะเห็นว่าการทำเกษตรกรรมนั้นปล่อยก๊าซเรือนกระจก อันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนน้อยกว่าการทำปศุสัตว์ ซึ่งสัตว์นั้นย่อมหายใจและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ตรงข้ามกับพืชที่จะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และสังเคราะห์แสงปล่อยออกซิเจนออกมา ให้อากาศบริสุทธิ์ ที่เห็นภาพได้ชัดเจนคือ การทำเกษตรกรรมใช้พื้นที่ น้ำ และไฟฟ้าน้อยกว่าปศุสัตว์ ฉะนั้นการเลือกกินอาหารจากพืชจึงช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ทั้งยังแสดงถึงการให้ความสำคัญเรื่องสวัสดิภาพของสัตว์ (Animal Welfare) ซึ่งจะช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นในระยะยาวอีกด้วย

สร้างสรรค์ความอร่อยได้ตามชอบ…ไม่ลองไม่รู้

ทุกวันนี้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำล้วนมีโซน Plant-based Food วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชหลากหลายรูปแบบให้เราได้เลือกอร่อย โดยเฉพาะ Plant-based Meat ซึ่งมีหลากหลายให้นำไปปรุงอาหารได้ตามต้องการ รวมถึงอาหารกึ่งสำเร็จรูปอย่างเบอร์เกอร์ สเต๊ก ไก่ย่าง ฯลฯ ที่ให้รสสัมผัสเหมือนเนื้อจริง คนที่กินมังสวิรัติ Flexitarian และกลุ่มคนที่สนใจทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพ จึงสามารถเลือกหา Plant-based Food มาสร้างสรรค์เมนูอร่อยกันได้สะดวกและง่ายขึ้น

ใครที่สนใจลองหามาทำเมนูโปรดกันดูก็น่าจะดีไม่น้อย คุณอาจจะพบว่า Plant-based Food อร่อยกว่าที่คิด แถมยังดีต่อทั้งสุขภาพของตัวเราเอง และได้มีส่วนช่วยรักษ์โลกใบนี้กันอีกต่างหาก

Decode : สารพัดปัจจัยที่หนุนให้ Plant-based Food ยิ่งมาแรง

● ร้านอาหารชื่อดังหลายแห่งทั้งในไทยและต่างประเทศเริ่มนำเสนอ เมนูอาหารที่เจาะกลุ่มลูกค้าผู้ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ทำให้ผู้บริโภคคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มากขึ้น Plant-based Food จึงกลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่เข้าถึงง่ายกว่าสมัยก่อน

● ขนาดตลาดเนื้อสัตว์จากพืชทั่วโลกมีมูลค่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2019 และคาดว่าจะยิ่งเติบโตในอัตราแบบทบต้น (CAGR) ที่ 19.4% นับจากปี 2020- 2027

● ชาวมิลเลนเนียลเป็นผู้บริโภคกลุ่มหลักซึ่งเปลี่ยนพฤติกรรมดั้งเดิม หันมารับประทานอาหารทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นเนื่องจากตระหนักเกี่ยวกับวิถีบริโภคอาหารที่ยังความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม