

แท็กทีม Road Trip เส้นทาง 'น่าน-แพร่' แวะสนุกกับกิจกรรมที่ยิ่งทำยิ่งได้ส่งเสริมชุมชน
Travel / Thailand
14 Aug 2025 - 5 mins read
Travel / Thailand
SHARE
14 Aug 2025 - 5 mins read
หน้าฝนแบบนี้จะมีอะไรสนุกไปกว่าการได้ชวนคนสำคัญในชีวิตออกเดินทางแบบ Road Trip ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก
เพราะการขับรถเที่ยวราวกับมีมนต์วิเศษที่นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ตลอดสองข้างทางแล้ว ยังเปิดโอกาสให้เกิดบทสนทนาที่มีค่าช่วยในการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
สำหรับจุดหมายในการขับรถเที่ยวช่วงหน้าฝนที่ LIVE TO LIFE ตั้งใจนำเสนอคือเส้นทาง ‘น่าน - แพร่’ บนทางหลวงหมายเลข 101 เริ่มต้นจากอำเภอเมือง จังหวัดน่าน สู่อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ และปิดทริปในตัวเมืองแพร่ ทริปนี้ไม่เพียงพาให้คุณใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมทางมากขึ้น แต่ยังพาแวะทำกิจกรรมที่สนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ให้การเดินทางครั้งนี้อิ่มใจทั้งคนไปและคนในพื้นที่
ปั้นดินเผา ทอผ้า และจักสานใน ‘ชุมชนบ้านบ่อสวก’
เริ่มต้นกันที่ ชุมชนบ้านบ่อสวก หมู่บ้านเล็ก ๆ ในตัวอำเภอเมืองน่าน ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมให้ลองทำหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปั้นเครื่องปั้นดินเผา ทำผ้ามัดย้อม จักสานไม้ไผ่ ทำลูกประคบสมุนไพร ไปจนถึงการได้ผ่อนคลายด้วยการแช่เท้าในน้ำสมุนไพร พร้อมชมวิวทุ่งนาเขียวขจี
จุดเริ่มต้นที่ทำให้หมู่บ้านที่เงียบสงบในตัวเมืองน่านอย่างบ้านบ่อสวก กลายเป็นชุมชนที่เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างเกิดขึ้นตั้งแต่มีการขุดค้นพบแหล่งโบราณคดีเตาเผาและเครื่องเคลือบภาชนะดินเผาในพื้นที่บริเวณนี้ โดยจากการพิสูจน์ของนักโบราณคดีสันนิษฐานว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี (ราวปี พ.ศ. 2017 - 2102) หรือมีอายุเทียบเท่าแหล่งเตาเผาศรีสัชนาลัยแห่งเมืองสุโขทัย ซึ่งในช่วงนั้นถือเป็นยุคสมัยแห่งความรุ่งเรืองของจังหวัดน่าน
เครื่องปั้นดินเผาบ่อสวกที่ขุดพบมีตั้งแต่จาน ชาม ครก ไห และพระพิมพ์ดินเผา หรือพระย่อสวก โดยทุกชิ้นเป็นเครื่องถ้วยเนื้อแกร่ง (Stone Wares) หรือเครื่องใช้เนื้อหินที่มีความแข็งแรง เพราะใช้อุณหภูมิสูงในการเผา
นอกจากนี้ เครื่องปั้นดินเผาบ่อสวกยังมีลวดลายที่โดดเด่น และยังไม่เคยพบจากแหล่งอื่น คือ ลายคล้ายนกเค้าแมวหรือนกฮูกในกรอบกลีบบัวปลายตัดคล้ายอินทรธนู หรือตุงกระด้างปั้นแปะประดับโดยรอบไหล่ไหคล้ายกับกรองศอ ซึ่งเป็นลายที่เกิดจากการปั้นแถบลายอินทรธนูหรือกลีบบัวให้นูนขึ้นมารอบไหล่ไห รอบด้านในตกแต่งด้วยเม็ดกลม ประกอบกับลายก้านขดเล็ก ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เครื่องปั้นจังหวัดน่านสวยงามไม่เหมือนที่ไหน
สำหรับคนรักผ้า ห้ามพลาดการไปเยือน กลุ่มทอผ้าบ้านซาวหลวง ที่มีเอกลักษณ์อย่างผ้าทอลายบ่อสวกโบราณผสมลายน้ำไหล ที่ได้แรงบันดาลใจจากลวดลายปั้นแปะบนปากไหโบราณที่ขุดค้นเจอในชุมชนบ่อสวก จึงได้มีการถอดลายจากปากไหสู่ผืนผ้า กลายเป็นงานทอที่บอกเล่าเรื่องราวท้องถิ่นและเป็นเอกลักษณ์แห่งบ้านซาวหลวง
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมทำผ้ามัดย้อมโดยใช้สีธรรมชาติ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมเวิร์กชอปได้ โดยสามารถสนุกกับการออกแบบลวดลายผ้าด้วยตัวเองจากเทคนิคการมัดและหนีบ ก่อนนำไปย้อมกับสีธรรมชาติจนเกิดผ้าที่มีสีสันและลวดลายเฉพาะตัว
ถัดจากกลุ่มทอผ้าบ้านซาวหลวง เป็น กลุ่มจักสานบ้านต้าม ที่มีแม่อุ๊ยของกลุ่มจักสานทำหน้าที่สาธิตการสานไม้ไผ่เป็นรูปร่างต่าง ๆ เช่น รูปม้า หรือ ‘ตาแหลว’ ที่มีลักษณะเป็นตาหกเหลี่ยม ปล่อยชายตอกออกไปคล้ายกับรัศมีแสงอาทิตย์ โดยหลังจากชมฝีมือการจักสานอย่างคล่องแคล่วของบรรดาแม่อุ๊ยแล้ว สามารถอุดหนุนข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ติดไม้ติดมือเป็นของฝากได้ มีทั้งกระติ๊บข้าวเหนียว ตะกร้า หวดนิ่งข้าว ข้องใส่ปลา ฯลฯ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจคือ การสุมยาด้วยสมุนไพร ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดอาการหวัดคัดจมูกและภูมิแพ้ รวมถึงกิจกรรมการขัดเท้าและแช่เท้าด้วยน้ำสมุนไพร หรือใครอยากลองทำลูกประคบสมุนไพรและยาดมสมุนไพร ทางชุมชนก็เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้ผ่านเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนสุขภาพได้แบบไม่หวงวิชา
ด้วยความหลากหลายของกิจกรรมที่ผสานกันอย่างกลมกลืนนี้เองทำให้ชุมชนบ้านบ่อสวกได้รับรางวัลชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก (Best Tourism Village 2024) จากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ถือเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จอันเกิดจากการร่วมแรงรวมใจของคนในชุมชนบ้านบ่อสวกที่นำความชำนาญของตนเองมาต่อยอดพัฒนา จนทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในตัวเมืองน่านที่ใคร ๆ ก็อยากแวะไปเยือน
ทดลองเป็นชาวนาที่ ‘บ้านนาก๋างโต้ง’
ผืนนากับเมืองน่านเป็นของคู่กัน การได้พักผ่อนท่ามกลางทุ่งนาถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์พิเศษที่ควรลองสัมผัสสักครั้งในชีวิต
ขอบคุณภาพจาก บ้านนาก๋างโต้ง Baan Na Kang Tong : facebook.com/baanna.kangtong
ทั้งนี้ในแต่ละฤดูกาล ท้องนาจะมีสีสันสวยงามไม่ซ้ำกัน อย่างในช่วงเดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่ทุ่งนาเขียวขจี เพราะเพิ่งเริ่มปลูกข้าวดำนาในช่วงเดือนกรกฎาคม ก่อนที่ข้าวแต่ละรวงจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองในเดือนกันยายน และเหลืองเต็มที่ราวเดือนตุลาคม พร้อมแก่การเก็บเกี่ยวในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ก่อนจะถึงรอบไถนา หว่านกล้า และดำนาครั้งใหม่ในช่วงต้นเดือนธันวาคม สอดรับกับวลีที่กล่าวถึงวิถีชีวิตชาวนาไทยไว้ว่า ‘ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ’ อย่างแท้จริง
ขอบคุณภาพจาก บ้านนาก๋างโต้ง Baan Na Kang Tong : facebook.com/baanna.kangtong
สำหรับบ้านพักที่โอบล้อมด้วยทุ่งนาอย่าง บ้านนาก๋างโต้ง ในตัวอำเภอเมืองน่าน นอกจากจะออกแบบตัวบ้านให้มีดีไซน์สวยแปลกตาไม่ซ้ำกันสักหลังแล้ว ในช่วงที่ตรงกับฤดูดำนายังเปิดโอกาสให้แขกที่เข้าพักได้ทดลองดำนาด้วยตัวเอง เพื่อเข้าถึงวิถีชีวิตเกษตรกรไทย และจะได้อิ่มอร่อยกับข้าวสวยร้อน ๆ และกับข้าวที่ปรุงจากวัตถุดิบออร์แกนิกของบ้านนาก๋างโต้งได้เอร็ดอร่อยยิ่งขึ้น
ขอบคุณภาพจาก บ้านนาก๋างโต้ง Baan Na Kang Tong : facebook.com/baanna.kangtong
จานเด็ดของที่นี่ ได้แก่ แกงแคไก่บ้าน ที่ถือเป็นแกงพื้นบ้านในแถบภาคเหนือของไทย ลักษณะคล้ายแกงจืดผักรวมแบบไทย ๆ แต่ใส่ผักพื้นบ้านนานาชนิด เครื่องแกง และสมุนไพรท้องถิ่นหลากหลาย จึงหอมอร่อยด้วยรสชาติจัดจ้าน ยิ่งทานกับข้าวสวยร้อน ๆ สั่งกับข้าวอีกหลาย ๆ อย่างมาล้อมวงทานด้วยกันเป็นหมู่คณะ ยิ่งอร่อยดีต่อสุขภาพกายและใจ
บ้านนาก๋างโต้ง
ที่ตั้ง : 699 ต.ไชยสถาน อ.เมือง จ.น่าน
โทร : 086 654 4564
Facebook : บ้านนาก๋างโต้ง Baan Na Kang Tong
ก่อนออกเดินทางสู่จังหวัดแพร่ อยากให้แวะเติมความหวานกับหลากหลายเมนูขนมไทยที่ ร้านขนมบ้านยายภรณ์ ร้านขนมหวานยอดนิยมแห่งเมืองน่าน ขวัญใจทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ทำให้อาจจะต้องต่อคิวรอสักนิด แต่รับประกันความคุ้มค่าเมื่อได้ลองลิ้มชิมรสอย่างแน่นอน
ขอบคุณภาพจาก ขนมบ้านยายภรณ์ : facebook/ขนมบ้านยายภรณ์
บรรยากาศของร้านขนมบ้านยายภรณ์มีการจัดที่นั่งไว้เป็นสัดส่วนบริเวณใต้ถุนบ้านหลังเก่าของ คุณยายอาภรณ์ ไชยประสิทธิ์ อดีตครูสอนคหกรรมที่มีฝีมือด้านการทำขนมไทย และตั้งใจอยากอนุรักษ์ขนมหวานรสชาติดั้งเดิมให้คนเมืองน่านและนักท่องเที่ยวได้ลิ้มลอง จึงเปิดร้านขนมบ้านยายภรณ์ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2562 โดยในอดีตบ้านหลังนี้เคยเป็นแหล่งเลี้ยงตัวไหม เพื่อนำมาทอผ้าไหมเป็นที่แรกของเมืองน่าน รอบ ๆ บริเวณบ้านยังมีบ่อน้ำโบราณอายุเกินร้อยปีที่ยังคงใช้งานได้ให้เยี่ยมชม และแวดล้อมด้วยสวนดอกไม้ที่เหมาะแก่การเดินเล่นเพลิน ๆ
สำหรับเมนูขนมหวานของที่นี่มีหลากหลาย เช่น บัวลอยไข่หวาน ซาหริ่ม ขนมโคน้ำกะทิใส่ไข่เค็ม ข้าวฟ่าง ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ ฯลฯ บางเมนูสามารถสั่งไอศกรีมมาทานคู่กันได้ เพิ่มรสชาติหวานเย็นอร่อยลงตัวยิ่งขึ้น เช่น ไอศกรีมโฮมเมดกับสาคูต้นแท้ ไอศกรีมข้าวเหนียวมะม่วงมะไฟจีน ฯลฯ
ไอศกรีมโฮมเมดกับสาคูต้นแท้
ขอบคุณภาพจาก ขนมบ้านยายภรณ์ : facebook/ขนมบ้านยายภรณ์
เอกลักษณ์ที่ทำให้ร้านขนมบ้านยายภรณ์ได้รับการพูดถึงปากต่อปาก คือ ทุกเมนูบรรจงเสิร์ฟในถาดดอกไม้สีสันน่ารัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ไทยหายาก มีรูปทรงสวยงามแปลกตา ใครเห็นเป็นต้องอยากบันทึกภาพเก็บไว้ก่อนเริ่มชิม ขนมไทยรสชาติดั้งเดิมที่รับรองว่ากินแล้วต้องติดใจในราคาสบายกระเป๋า เพราะขนมของที่นี่ราคาเริ่มต้นที่ถ้วยละ 20 บาทไปจนถึง 40 บาท ไปกันหลาย ๆ คนสั่งคนละอย่างมาแบ่งกันชิม จะได้เข้าถึงความอร่อยที่หลากหลายจากรสมือของคุณยายภรณ์
ขนมบ้านยายภรณ์
ที่ตั้ง : 14 ถ.ราษฎร์ประสงค์ ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน
โทร : 098 283 3119
เปิดทำการ : เวลา 10.30 - 21.00 น. ปิดวันพฤหัส
Facebook : ขนมบ้านยายภรณ์
กินช็อกโกแลตสดจากต้นที่ ‘โก้ในสวน’
ขับรถเพลิน ๆ จากจังหวัดน่านใช้เวลาราวชั่วโมงเศษก็จะเข้าสู่จังหวัดแพร่ที่อำเภอร้องกวาง แวะเช็กอินที่พิกัดแรกอย่าง โก้ในสวน คาเฟ่ช็อกโกแลตในสวนโกโก้ที่อบอุ่นด้วยบรรยากาศแบบโฮมมี่ ที่เหมาะกับคนที่โปรดปรานช็อกโกแลตเป็นพิเศษ เพราะที่นี่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนการผลิต นับตั้งแต่ยังเป็นผลโกโก้บนต้นสู่กระบวนการแปรรูปเป็นช็อกโกแลต เพราะ ‘โก้ในสวน’ ลงมือทำทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง
ขอบคุณภาพจาก โก้ในสวน : คาเฟ่ในสวนโกโก้ ช็อกโกแลตคราฟ เบเกอรี่โฮมเมด
: facebook.com/ohekedtawha
โกโก้ของที่นี่มีทั้งสายพันธุ์จากชุมพรและน่าน ซึ่งเหมาะแก่การปลูกในพื้นที่จังหวัดแพร่ ทำให้จังหวัดเล็ก ๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยสวนโกโก้หลายแห่งที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป โดย ‘โก้ในสวน’ โดดเด่นทั้งการทำเบเกอรี่โฮมเมดหลากหลายชนิด ช็อกโกแลตคราฟต์ ไปจนถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ไม่ได้จำกัดแค่ช็อกโกแลต แต่มีการใส่ความคิดสร้างสรรค์สนุก ๆ ในหลายเมนู
ขอบคุณภาพจาก โก้ในสวน : คาเฟ่ในสวนโกโก้ ช็อกโกแลตคราฟ เบเกอรี่โฮมเมด
ภาพ : facebook.com/ohekedtawha
ยกตัวอย่าง อเมริกาโนลำไย ที่นำเนื้อลำไยสด ปลอดสารพิษ มาเติมความหวานให้เข้ากับรสชาติกลมกล่อมของกาแฟ หรือจะเป็น ดัลโกน่าช็อกลาเต้ ก็ได้อร่อยกรุบกับคาราเมลหวานกรอบท็อปบนช็อกโกแลตลาเต้รสชาติเข้มข้น
ดัลโกน่าช็อกลาเต้
ขอบคุณภาพจาก โก้ในสวน : คาเฟ่ในสวนโกโก้ ช็อกโกแลตคราฟ เบเกอรี่โฮมเมด
: facebook.com/ohekedtawha
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากโกโก้อีกหลายรูปแบบให้เลือกซื้อติดมือกลับไป เช่น เมล็ดโกโก้อบแห้ง ชาเปลือกเมล็ดโกโก้ ที่มีส่วนช่วยในการลดความดันเลือดและช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น โกโก้แมส ที่ได้จากการนำผลโกโก้มาผ่านกระบวนการหมักเพื่อสร้างกลิ่นรส ก่อนนำไปตากแห้ง อบแห้ง กระเทาะแยกเปลือกหุ้มเมล็ด เพื่อนำโกโก้นิบส์ที่ได้ไปโม่ให้ละเอียด โดยไม่สกัดน้ำมันดีออก โกโก้แมสของโก้ในสวนจึงอุดมด้วยไขมันดีที่นำไปชงเครื่องดื่มหรือทำขนมก็ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ
ขอบคุณภาพจาก โก้ในสวน : คาเฟ่ในสวนโกโก้ ช็อกโกแลตคราฟ เบเกอรี่โฮมเมด
: facebook.com/ohekedtawha
โก้ในสวน
ที่ตั้ง : 5 หมู่ 6 ต.แม่ยางตาล อ.ร้องกวาง จ.แพร่
โทร : 080 792 6641
เปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 09.00 - 17.00 น.
Facebook : โก้ในสวน : คาเฟ่ในสวนโกโก้ ช็อกโกแลตคราฟ เบเกอรี่โฮมเมด
กว่าจะเป็นผ้าหม้อห้อมแห่ง ‘บ้านทุ่งโฮ้ง’
อิ่มอร่อยกับช็อกโกแลตและขนมอร่อยที่โก้ในสวนเป็นที่เรียบร้อย ออกเดินทางต่ออีกเพียง 20 กิโลเมตรก็จะได้สัมผัสวิถีชีวิตของบรรดาแม่อุ๊ยแห่ง บ้านทุ่งโฮ้ง หมู่บ้านชาวไทพวนที่ยังคงอนุรักษ์วิถีของการทำผ้าหม้อห้อมแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
เหตุผลที่บ้านทุ่งโฮ้งเป็นแหล่งผลิตผ้าหม้อห้อมชั้นดี เพราะชาวบ้านนิยมปลูกต้นฝ้ายและต้นครามไว้ตามหัวไร่ปลายนาของตัวเอง ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการนำมาทำผ้าหม้อห้อม โดยหลังจากครามโตเต็มที่ ชาวบ้านจะเก็บครามมาแช่น้ำนาน 2 คืน ก่อนนำมาผสมน้ำด่างกับปูนขาว จากนั้นนำมาทำการซวก หรือการนำตะกร้อมาตีขึ้นลงจนเกิดฟองให้เข้ากันเป็นสีคราม ผ่านขั้นตอนอีกเล็กน้อยก่อนจะกลายเป็นครามเปียกที่พร้อมแก่การนำไปใช้ย้อมผ้าและย้อมเส้นฝ้าย
ผ้าหม้อห้อมของบ้านทุ่งโฮ้งมีหลายรูปแบบ ทั้งผ้าหม้อห้อมโบราณ ผ้าจกมือ ผ้าเพนต์ ผ้ามัดย้อม ผ้าเขียนเทียน ผ้าพิมพ์ลาย และผ้ากัดสี รวมถึงลวดลายผ้าทอของชาวพวนทุ่งโฮ้งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งลายผ้าทอหลบ ลายดอกแก้วเชียงราย ลายดอกดาวเสด็จ ลายขอใหญ่ และลายขอน้อย
คนรักผ้าที่สนใจอยากลองทำผ้าหม้อห้อมด้วยตัวเอง สามารถเรียนรู้ได้ที่ ศูนย์เรียนรู้หม้อห้อมป้าเหงี่ยม ที่แบ่งปันความรู้ในการทำผ้าหม้อห้อมมานานกว่า 20 ปี และได้มีการรวบรวมสมาชิกในหมู่บ้านมาเรียนรู้การทอผ้าร่วมกัน จนกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนที่แต่ละบ้านก็มีความชำนาญแตกต่างกันออกไป เช่น ศูนย์เรียนรู้ชุมชนสาขาการทอผ้าฝ้ายของ ยุพิน สายสำเภา ที่เด่นเรื่องการทอผ้า หรือหม้อห้อมบ้านป้าเหลือง ทองสุข ที่ชำนาญด้านการพิมพ์ลายเทียน ฯลฯ ซึ่งทุกบ้านได้ร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีลวดลายสวยงาม แปลกใหม่ ทันสมัย และหลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าพันคอ ฯลฯ ดังนั้น ถึงจะไม่ได้เข้าร่วมเวิร์กชอปก็รับรองว่าแขกผู้มาเยือนบ้านทุ่งโฮ้งจะต้องถูกใจหม้อห้อมชิ้นที่เตะตา และซื้อหาติดไม้ติดมือกลับไปอย่างแน่นอน
ศูนย์เรียนรู้หม้อห้อมป้าเหงี่ยม
ที่ตั้ง : 291 หมู่ 5 ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมือง จ.แพร่
โทร : 089 851 3048
เปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.
Facebook : ศูนย์เรียนรู้หม้อห้อมป้าเหงี่ยม
ไม่ไกลจากบ้านทุ่งโฮ้ง มีอีกหนึ่งพิกัดร้านอาหารเหนือพื้นเมืองเจ้าดังประจำเมืองแพร่ ได้แก่ ฮอม HOM 2493 ในบรรยากาศบ้านไม้เก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 ก่อนรีโนเวทใต้ถุนบ้านเป็นที่นั่งสำหรับรับประทานอาหาร และมีพื้นที่ในสวนให้ได้สัมผัสธรรมชาติแบบเย็นกายสบายตา
ขนมเส้นน้ำหมู
ขอบคุณภาพจาก ฮอม Hom 2493 : facebook.com/hom2493
เมนูห้ามพลาดเมื่อมาเยือนร้านฮอม 2493 ได้แก่ ขนมเส้นน้ำหมู เอกลักษณ์ประจำเมืองแพร่ที่ใช้เส้นขนมจีนมาทำก๋วยเตี๋ยว ใส่มะเขือเทศ กระดูกอ่อน และเลือด โรยกระเทียมเจียวหอมอร่อย อีกเมนูน่าลอง ได้แก่ ผัดหมี่ฮอม รสชาติคล้ายผัดหมี่โคราชผสมผัดไทย ใส่เต้าหู้ โรยถั่ว บีบมะนาว ราดน้ำจิ้ม คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนทานเป็นอันว่าอร่อยครบรส
ขอบคุณภาพจาก ฮอม Hom 2493 : facebook.com/hom2493
ฮอม Hom 2493
ที่ตั้ง : 102 ถ.รอบเมือง ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่
โทร : 064 561 6807
เปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 09.00 - 16.00 น.
Facebook : ฮอม Hom 2493
ปั้นดิน กินกาแฟ ที่ ‘ช่อแฮคาเฟ่’
มาเยือนเมืองแพร่ทั้งที ห้ามพลาดโอกาสในการไปสักการะพระธาตุช่อแฮ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง โดยก่อนจะถึงวัดพระธาตุช่อแฮ มีอีกหนึ่งพิกัดให้แวะเติมพลังความคิดสร้างสรรค์กันที่ Cho Hae Cafe (ช่อแฮคาเฟ่) คาเฟ่สีส้มอิฐสวยสะดุดตาที่ไม่ได้เสิร์ฟแค่ชา-กาแฟ
ขอบคุณภาพจาก Chohae Cafe : facebook.com/ChoHaeCafe
เพราะคาเฟ่ที่ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยแห่งนี้ เสิร์ฟกาแฟอร่อย เครื่องดื่มดี และเบเกอรี่น่าทาน คู่กับสารพันเวิร์กชอปให้นักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยได้โชว์ฝีมือประดิษฐ์งานศิลปะตามความถนัด ไม่ว่าจะเป็นการทดลองปั้นเครื่องปั้นดินเผา หรือวาดภาพระบายสีบนผืนผ้าใบ โดยมีทั้งคลาสสำหรับผู้ใหญ่และเด็กวัย 4-12 ปี
ขอบคุณภาพจาก Chohae Cafe : facebook.com/ChoHaeCafe
ใครกินกาแฟและขนมที่นี่แล้วติดใจในถ้วยชามเซรามิกเนื้อดีในมือ สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เซรามิกรูปทรงสวยเก๋ติดไม้ติดมือกลับไปได้ ผลงานของ ชัชชัยวัตร ชังชู ศิลปินนักปั้นเซรามิกแห่ง Chatchaiwat Pottery Studio ที่ปั้นชิ้นงานหลากหลายให้เลือกเป็นเจ้าของได้ตามชอบใจ
Choe Hae Cafe
ที่ตั้ง : 96 ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่
โทร : 086 366 2050
เปิดทำการ : เวลา 08.00 - 17.00 น. ปิดวันพุธ
Facebook : Chohae Cafe
ปิดทริปกันที่การขับรถมุ่งหน้าไปยัง ถนนลอยฟ้าแพร่ หมายเลข 1343 หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ ถนนเทเลทับบีส์ ตามลักษณะเป็นทิวเขาเขียวขจีที่มีรูปทรงโค้งมนและสลับซับซ้อน ชวนให้นึกถึงภูเขาหญ้าที่เป็นฉากหลังของซีรีส์เรื่องดังขวัญใจเด็ก ๆ ในยุค 90
นอกจากการแวะถ่ายภาพริมถนนที่มีฉากหลังเป็นทิวเขาสวย ๆ แล้ว บนเส้นทางนี้ยังมีสถานที่สำคัญให้เที่ยวชมอย่าง วัดพระธาตุปูแจ โบราณสถานแห่งชาติอันเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ภายในบรรจุพระธาตุตาตุ่มข้างขวา หรือกระดูกข้อเท้าของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ วัดพระธาตุปูแจยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถมองเห็นป่าเขาเมืองแพร่ได้กว้างไกลสุดสายตา ช่วงปลายฝนต้นหนาวยังมีโอกาสได้สัมผัสทะเลหมอกปกคลุมรอบบริเวณพระธาตุปูแจอีกด้วย
วัดพระธาตุปูแจ
ไม่ไกลจากวัดพระธาตุปูแจ มีเส้นทางเชื่อมไปสู่บ้านนาคูหาที่มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยววิถีชุมชน โดยมีสถานที่สำคัญอย่าง วัดนาคูหา วัดเก่าแก่อายุกว่า 125 ปีที่มีเอกลักษณ์อย่างสะพานไม้ไผ่สาน หรือขัวแตะ ทอดยาวบนลำเหมืองสาธารณะผ่านทุ่งนาเขียวขจี เป็นจุดชมวิวธรรมชาติและถ่ายรูปสวย ๆ คู่กับพระเจ้าตนหลวง องค์สีทองอร่ามตัดกับสีเขียวสดใสของท้องนา
บริเวณชุมชนบ้านนาคูหายังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำหลากหลาย เช่น การจิบชาเมี่ยง โดยแต่เดิมวิถีชีวิตของคนล้านนาจะนิยมเก็บใบเมี่ยง (ภาษาพื้นเมืองสำหรับเรียกต้นชาอัสสัม) มานึ่งหรือหมักจนเกิดรสเปรี้ยวหรือฝาด สำหรับอมเป็นอาหารว่างหลังมื้ออาหาร ปัจจุบันได้รับการพัฒนาเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ชาเมี่ยงและชาดอกเมี่ยงที่สามารถแวะชิมหรือซื้อติดมือกลับบ้านได้ที่บ้านนาคูหาแห่งนี้
วัดนาคูหา
หรือจะลองชิมเมนูที่ทำจากสาหร่ายเตา สาหร่ายน้ำจืดที่คนท้องถิ่นนิยมเพาะเลี้ยงไว้รับประทานทั้งแบบสดและปรุงรสเป็นเมนูต่าง ๆ เช่น ตำเตา ยำเตา ลาบเตา ฯลฯ สามารถสอบถามจากชาวบ้านในละแวกบ้านนาคูหาได้ว่ามีเมนู ‘เตา’ อะไรให้ชิมบ้าง
เส้นทางจากเมืองน่านสู่เมืองแพร่เต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนให้นักเดินทางออกไปสัมผัสด้วยตัวเอง เหมาะแก่การขับรถแบบสบาย ๆ แวะถ่ายรูปได้เรื่อย ๆ ละเลียดเวลาได้แบบไม่ต้องรีบร้อน ตลอดเส้นทางยังมีที่พักสะดวกสบายหลายแห่งที่เข้าร่วมโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 จับจองที่พักที่ถูกใจบนเส้นทางสาย ‘น่าน - แพร่’ ได้ตามรายชื่อดังนี้
ที่พักในอำเภอเมือง จังหวัดน่าน
- บ้านนาก๋างโต้ง Baan Na Kang Tong บ้านพักไม่ซ้ำสไตล์ใจกลางทุ่งนา (โทร. 086 654 4564)
- Nan Boutique Hotel น่านบูติคโฮเทล ห้องพักสไตล์บูติกใจกลางเมืองน่าน (โทร. 054 775 532)
- Nan Nakara Hotel โรงแรมน่านนคราบูทีค โรงแรมสไตล์บูติกในทำเลสะดวกสบายใกล้วัดภูมินทร์ (โทร. 093 284 2707)
- โรงแรมน่านสะบายดี ที่พักราคาสบายกระเป๋าใกล้ถนนคนเดิน (โทร. 095 917 1985)
- The signature at NaN ที่พักและคาเฟ่สไตล์ลอฟต์ ใกล้สนามบินน่านและถนนคนเดิน (โทร. 084 989 5498)
- โรงแรมบ้านน่าน ที่พักขนาด 3 ชั้นในย่านชุมชนเก่าแก่กลางเมืองน่าน (โทร. 085 717 6589)
ที่พักในอำเภอเมือง จังหวัดแพร่
- Ayla Chalet ชาเลต์สไตล์นอร์ดิก ใกล้พระธาตุช่อแฮ สงบเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนบ้านพักเพียง 4 หลังริมทุ่งนา ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติโดยเฉพาะ (โทร. 064 490 9779)
- Need a Nap Hostel โฮสเท็ลกลางเมืองแพร่ ใกล้แหล่งของกินและที่เที่ยวสำคัญ ๆ มีห้องพักแบบ Duplex สำหรับพักผ่อนด้วยกันเป็นหมู่คณะ (โทร. 054 060 554)
- Huern na na Boutique Hotel Phrae ที่พักสไตล์โมเดิร์นล้านนาที่ใส่ใจในการดูแลสิ่งแวดล้อม (โทร. 054 524 800)
- Tharis Art Hotel โรงแรมระดับสี่ดาวใจกลางเมืองแพร่ (โทร. 088 252 3098)
อ้างอิง
- TourismThailand.หวานไม่ลืม แอ่วเหนือกิ๋นขนม-น่าน.https://bit.ly/40VEcuS
- วิกิชุมชน.บ้านทุ่งโฮ้ง.https://bit.ly/41w1Wps