กระซิบรักบนเส้นทางโรแมนติก จากปู่ม่านย่าม่านแห่งเมืองน่านสู่สะพานสายรุ้งในเชียงกลาง

11 Feb 2025 - 7 mins read

Travel / Thailand

Share

นึกถึงจังหวัดน่านคำว่า ‘เนิบๆ’ มักพ่วงติดมาด้วยเสมอ

 

คงเพราะวิถีชีวิตของผู้คนและบรรยากาศในเมืองน่านตรงกับนิยามของคำว่า เนิบ ซึ่งหมายถึง ความแช่มช้าอย่างมีจังหวะ ที่กลายเป็นเสน่ห์คู่เมืองน่านไปโดยปริยาย

 

เมืองเนิบอย่างน่านเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สวยงามทั้งภูมิทัศน์และศิลปะวัฒนธรรม ที่เมื่อหลอมรวมกันแล้วเกิดเป็นโมเมนต์แห่งความโรแมนติกที่ยากจะเลียนแบบ

 

LIVE TO LIFE ชวนเที่ยวน่านในเดือนแห่งความรักบนเส้นทางสายโรแมนติก เริ่มตั้งแต่ตัวอำเภอเมืองน่าน ลัดเลาะขึ้นไปสู่อำเภอปัว และจบที่เชียงกลาง อำเภอเล็ก ๆ ที่ยังเป็นม้านอกสายตา ทว่าเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่จะทำให้คุณหลงรักเมืองน่านมากขึ้น

 

 

ขอพรความรักจากปู่ม่านย่าม่านแห่งวัดภูมินทร์

จุดหมายแรกของการไปเยือนเมืองน่านสำหรับหลาย ๆ คน มักเลือกที่จะไป วัดภูมินทร์ วัดสำคัญที่อยู่คู่นครน่านมานานกว่า 400 ปี ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่สมัยล้านนาเช่นเดียวกับสถานที่สำคัญอื่น ๆ ที่อยู่คู่เมืองน่านมาช้านาน ไม่ว่าจะเป็นเจดีย์วัดพระธาตุแช่แห้ง เจดีย์วัดสวนตาล และเจดีย์วัดพระธาตุช้างค้ำ

วัดภูมินทร์

 

ความโดดเด่นของวัดภูมินทร์อยู่ที่ตัววิหาร ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมงานศิลปกรรมชั้นยอด โดยเฉพาะภายในซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระประธานที่มีพุทธลักษณะพิเศษ คือ มีสี่องค์หันหลังชนกัน ผินพระพักตร์ออกไปทั้งสี่ทิศ นอกจากนี้ ยังมีจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม เขียนขึ้นราวพุทธศักราช 2410 - 2417 ด้วยเทคนิคสีฝุ่นบนรองพื้นดินสอพอง ถ่ายทอดเรื่องราวในชาดก 3 เรื่อง คือ คัทธนกุมารชาดก เนมิราชชาดก และพุทธประวัติ

พระประธานสี่องค์ในวิหาร

 

ในบรรดาตัวละครมากมายบนภาพจิตรกรรมภายในพระอุโบสถ ปรากฏว่าภาพบุคคลขนาดเท่าจริง ซึ่งเป็นเพียงเสี้ยวส่วนเดียวของเนื้อหาหลักอย่าง ภาพปู่ม่านย่าม่าน กลับได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นจนกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวตั้งใจมาเยือนวัดภูมินทร์ เพื่อชมภาพเขียนปู่ม่านย่าม่านให้เห็นกับตา

จิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์

 

ภาพปู่ม่านย่าม่านเป็นภาพชายหญิงแต่งกายแบบพม่าในท่าทางกระซิบกัน โดย ปู่ เป็นคำใช้เรียกแทนผู้ชาย และย่าใช้เรียกแทนผู้หญิง ส่วนม่านเป็นคำเรียกชาวพม่า วาดขึ้นโดย หนานบัวผัน จิตรกรพื้นถิ่นชาวไทลื้อ และเป็นผู้ตั้งชื่อภาพดังกล่าวโดยกำกับชื่อด้านบนของภาพว่า ปู่ม่านย่าม่าน

ภาพปู่ม่านย่าม่านกระซิบรัก

 

ภาพนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพเขียนที่สมบูรณ์ที่สุดทั้งด้านองค์ประกอบและอารมณ์ จนได้รับการเรียกขานว่า ‘กระซิบรักบันลือโลก’ โดยปัจจุบันได้กลายเป็นพิกัดสำคัญสำหรับขอพรเรื่องความรัก โดยก่อนขอพรคู่รักจะต้องไปทำการลอดซุ้มพญานาคคู่ขวัญทางด้านหน้าพระอุโบสถ โดยเดินลอดวนทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ จึงค่อยเข้ามาขอพรต่อหน้าภาพปู่ม่านย่าม่าน

ซุ้มพญานาคคู่ขวัญหน้าพระอุโบสถ

 

หน้าที่หลักเป็นของฝ่ายชายที่จะต้องจำประโยคบอกรักสำคัญ ซึ่งแต่งขึ้นเป็นภาษาถิ่นพายัพอันสละสลวย โดยอาจารย์สมเจตน์ วิมลเกษม แล้วกระซิบบอกคนรักต่อหน้าภาพปู่ม่านย่าม่าน คำบอกรักดังกล่าวมีดังนี้

 

“คำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม จักเอาไปใส่ไว้ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป ก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้”

 

ถอดความได้ว่า “ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะแย่งความรักของพี่ไป เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น”

 

วัดภูมินทร์
ที่ตั้ง : ถ.ผากอง ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน
โทร : 080 031 4142
เปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 08.00 - 18.00 น.
Facebook : วัดภูมินทร์ จ.น่าน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน

 

กระซิบรักเสร็จเรียบร้อยสามารถเดินไปเติมความหวานกันต่อที่พิกัดถ่ายภาพยอดนิยมอย่าง ซุ้มต้นลีลาวดี ที่อยู่ติดกับแนวรั้วภายในพื้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ที่ถูกใจนักท่องเที่ยวทุกราย ด้วยความงามแปลกตาของเส้นสายและรูปทรงของต้นลีลาวดีที่ขึ้นเป็นแถวสองข้าง แผ่ขยายกิ่งก้านโค้งเข้าหากัน ราวกับอุโมงค์ต้นไม้ ยิ่งได้ฉากหลังเป็นวัดวาอารามเก่าแก่ ยิ่งเสริมให้บรรยากาศโดยรวมสวยขลังยิ่งขึ้น

ซุ้มต้นลีลาวดี

 

เดินทางออกจากวัดภูมินทร์ไปราว 40 กิโลเมตร ผ่านอำเภอท่าวังผา อยากให้ลองแวะและใช้เวลาที่ วัดหนองบัว อีกหนึ่งวัดสำคัญที่ปรากฏฝีมือของหนานบัวผัน ผู้รังสรรค์จิตรกรรมฝาผนังวัดหนองบัวก่อนที่จะไปเล่าเรื่องชาดกและจารึกภาพปู่ม่านย่าม่านถึง 12 ปี

วัดหนองบัว

 

วัดหนองบัวเป็นวัดไทลื้อเก่าแก่ที่กรมศิลปากรประกาศให้เป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2538 เนื่องจากมีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมไทลื้อ ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระประธานศิลปะล้านนาองค์สีทองอร่าม ด้านข้างซ้ายมีธรรมาสน์ไม้เก่าแก่ บริเวณด้านหลังมีภาพวาดอดีตพระพุทธเจ้า ส่วนผนังอีกสามด้านปรากฏภาพจิตรกรรมฝีมือหนานบัวผัวเขียนอยู่เต็มโดยรอบ เนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติและชาดกตอนสำคัญ ๆ 

จิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถวัดหนองบัว

 

ไหว้พระและชมศิลปะไทลื้อภายในวัดเป็นที่เรียบร้อย ค่อยเดินไปเยี่ยมชมกลุ่มทอผ้าหลังวัดหนองบัว โดยที่ร้านสิบสองปันนา ผ้าทอไทลื้อ มีตัวเลือกของผ้าทอไทลื้อหลากหลายลวดลายให้คนรักผ้าไทยเห็นแล้วตาลุกวาว

 

ผ้าทอเหล่านี้เป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น นับตั้งแต่ชาวไทลื้ออพยพจากดินแดนสิบสองปันนามาอาศัยอยู่ในหลายจังหวัดทางภาคเหนือของไทยเมื่อราว 200 ปีมาแล้ว โดยชาวไทลื้อที่สืบเชื้อสายมาจากเมืองล้ากลุ่มใหญ่เลือกตั้งรกรากบริเวณบ้านหนองบัว บ้านดอนมูล บ้านต้นฮ่าง และอีกหลายหมู่บ้านในอำเภอท่าวังผา

ซิ่นลายน้ำไหล

 

หญิงสาวชาวไทลื้อคือผู้ทำหน้าที่รักษามรดกทางวัฒนธรรมบนลายผ้าเอาไว้ ด้วยเทคนิคการทอที่หลากหลาย ตั้งแต่การมัดหมี่ จก ขิด เกาะ ล้วง และการยกดอก โดยผ้าไทลื้อที่โดดเด่นมี 3 ประเภท คือ ผ้าซิ่นม่าน ซิ่นก่าน และซิ่นลายน้ำไหล โดยซิ่นม่านมีลักษณะเป็นลายขวาง  สีน้ำเงิน ม่วง แดง สลับลายมุก แต่ละช่องไม่เท่ากัน ซิ่นก่านจะทอด้วยลวดลายมัดหมี่ และซิ่นลายน้ำไหลเป็นการทอลวดลายเลียนแบบการไหลของสายน้ำ โดยใช้ด้ายพุ่งสลับสี แล้วใช้วีธีเกาะ ล้วง ทำเป็นลวดลายที่แตกต่างกันออกไป เช่น ลายน้ำไหลใบข้าว น้ำไหลมัดแตง น้ำไหลภูเขา ฯลฯ

 

ก่อนเลือกซื้อผ้าซิ่นลวดลายที่ถูกใจ ต้องไม่พลาดชมลีลาการทอผ้าของบรรดาสตรีชาวไทลื้อที่นั่งทอผ้ากันอย่างแข็งขัน มีการสาธิตการอีดฝ้าย การดีดฝ้าย หรือการดึงฝ้ายเป็นเส้น ใครที่สนใจสามารถทดลองทำได้ เพื่อจะได้เข้าถึงขั้นตอนกว่าจะออกมาเป็นผ้าทอไทลื้อสักผืน ที่กล่าวกันว่า แค่ผ้าทอลายเรียบ ๆ ผืนหนึ่งก็ต้องใช้เวลานานร่วมปีกว่าจะสำเร็จ นับตั้งแต่เตรียมปลูกฝ้ายจนสามารถเก็บดอกฝ้ายได้ที่ใช้เวลานานหลายเดือน และยังต้องใช้เวลาอีกนับเดือนหลังเสร็จจากงานบ้านและการทำนา เพื่อมาทอผ้าให้สำเร็จได้สักผืน เพื่อเอาไว้ใช้ในงานบุญ หรือแม้แต่เก็บไว้ใช้ในงานแต่งงานของตัวเอง

 

ลวดลายที่ถักทออยู่ในเนื้อผ้าแต่ละผืนจึงถือเป็นผลงานของศิลปะแห่งชีวิตของผู้หญิงไทลื้อที่ควรค่าแก่การสนับสนุนภูมิปัญญาเก่าแก่ให้ยังคงอยู่สืบไป

 

วัดหนองบัว
ที่ตั้ง : ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา  จ.น่าน 
เปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 07.00 - 17.00 น.


ร้านสิบสองปันนา ผ้าทอไทลื้อ
โทร : 085 711 8431
Facebook : สิบสองปันนา ผ้าทอไทลื้อ

 

 

เติมความหวานกับเวิร์กชอปทำช็อกโกแลตที่เมืองปัว

นึกถึงอำเภอปัว หลายคนนึกถึงภาพโค้งถนนหมายเลข 3 ที่ปัจจุบันกลายเป็นพิกัดถ่ายรูปยอดนิยม ใครมีโอกาสมาแถวนี้เป็นต้องหาโอกาสแวะจอดรถแล้วแชะภาพกับโค้งถนนระยะสั้น ๆ บนเส้นทางถนนหมายเลข 1081 เป็นที่ระลึกว่าได้มาถึงเมืองปัวเป็นที่เรียบร้อย

โค้งถนนหมายเลข 3

 

‘ปัว’ เป็นหนึ่งในอำเภอที่อบอวลด้วยบรรยากาศโรแมนติก ด้วยทิวทัศน์ที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและนาข้าวที่มีสีสันเปลี่ยนไปไม่ซ้ำในแต่ละฤดูกาล ปัวจึงเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และรีสอร์ตบรรยากาศดีหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ Cocoa Valley Resort รีสอร์ตดีไซน์เก๋ฝีมือการปลุกปั้นของ มนูญ ทนะวัง ที่รีโนเวทโรงแรมเก่าของครอบครัวให้เป็นรีสอร์ตที่มีโกโก้เป็นตัวชูโรงชั้นดี

ภาพ : Cocoa Valley Resort

 

ด้วยความหลงใหลในรสชาติของช็อกโกแลต มนูญจึงตั้งใจเรียนรู้วิธีการปลูก ขั้นตอนการแปรรูป และคิดสูตรเครื่องดื่มกับขนมในร้านเอง พร้อมทั้งใส่ Gimmick สนุก ๆ อย่างการมีแม่อุ๊ยคอยสาธิตการฝัดเมล็ดโกโก้ โดยใช้กระด้งใส่เมล็ดโกโก้ที่กะเทาะแล้ว นำมาฝัดเพื่อแยกเปลือกและโกโก้นิป ก่อนจะนำไปแปรรูปไปเป็นดาร์กช็อกโกแลต 100% แล้วนำมาทำเป็นเมนูต่าง ๆ เสิร์ฟใน Cocoa Valley Cafe ที่มีพระเอกเป็นเมนู Chocolate Lava และ Chocolate Dome รวมถึงโกโก้เย็นที่มีระดับความเข้มให้เลือกถึง 4 ระดับ เพื่อการเข้าถึงรสชาติของช็อกโกแลตแท้ในแบบที่ถูกใจแต่ละคน

เวิร์กชอป Create Your Own Chocolate
ภาพ : Cocoa Valley Resort

 

ใครสนใจศาสตร์การทำช็อกโกแลต สามารถเข้าร่วมเวิร์กชอป Create Your Own Chocolate สอนทำช็อกโกแลตตั้งแต่ขั้นตอนการปรับอุณภูมิช็อกโกแลตด้วยการเทช็อกโกแลต 100% ลงบนแผ่นหินอ่อน เพื่อให้อุณหภูมิของช็อกโกแลตลดลง จากนั้นผสมกับน้ำตาลโตนดเพื่อให้รสหอมหวานช่วยเพิ่มความอร่อย จากนั้นเทช็อกโกแลตลงแม่พิมพ์ แต่งหน้าด้วยผลไม้และธัญพืชตามใจชอบ เท่านี้ก็ได้ช็อกโกแลตชิ้นพิเศษสำหรับมอบให้คนพิเศษแบบไม่ซ้ำใคร

 

Cocoa Valley Resort
ที่ตั้ง : ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน
โทร : 063 791 1619
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.
Facebook : cocoavalleyresort

 

 

หลงเสน่ห์ธรรมชาติแสนสงบในเชียงกลาง

ห่างจากอำเภอปัวเพียงครึ่งชั่วโมงเป็นที่ตั้งของ ‘เชียงกลาง’ เมืองที่ยังคงไว้ซึ่งธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ คงเพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงนิยมท่องเที่ยวบนเส้นทางปัว - สะปัน - บ่อเกลือ จนเดินทางมาไม่ถึงเชียงกลางที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจให้เช็กอินเยอะไม่แพ้ที่ไหนในน่าน

พระธาตุจอมกิตติ
ภาพ : facebook.com/ChomkittiTemple

 

อันดับแรกเมื่อมาถึงเชียงกลาง แนะนำให้ไปสักการะ พระธาตุจอมกิตติ 1 ในพระธาตุ 8 จอมแห่งนครน่าน (อาทิ พระธาตุจอมทองและพระธาตุจอมแจ้งในอำเภอปัว พระธาตุจอมพริก อำเภอท่าวังผา) โดยพระธาตุเจดีย์ที่มีชื่อ จอม ในจังหวัดน่านจะตั้งอยู่บนพื้นที่เนินเขา หรือภูเขาที่สูงจากพื้นที่ราบ ดังนั้น นอกจากจะได้สักการะพระธาตุจอมกิตติที่ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าแล้ว เมื่อขึ้นเขาไปถึงบริเวณวัดยังได้ชมวิวทิวทัศน์ไร่นาเขียวขจีทั่วพื้นที่อำเภอเชียงกลางได้กว้างไกลตา

ที่ตั้งของวัดพระธาตุจอมกิตติบนเนินเขา
ภาพ : facebook.com/ChomkittiTemple

 

ก่อนที่พระธาตุจอมกิตติจะได้รับการยกสถานะเป็นวัด เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ที่นี่เคยเป็นสถานปฏิบัติธรรมสายวัดป่ามาก่อน โดยองค์พระธาตุมีอยู่เดิมมานานมากแล้ว คาดคะเนว่ามีอายุราว 600 ปี แม้จะไม่มีบันทึกแน่ชัด แต่ตามตำนานกล่าวว่า สวยยี่ ผู้ครองเมืองย่าง เดินทางไปขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุที่เมืองลำปาง แล้วอัญเชิญมาไว้ ณ ยอดดอยลูกนี้ กว่าที่จะเริ่มมีการบูรณะขึ้นใหม่เวลาก็ล่วงมาจนถึง พ.ศ. 2538 โดยพระสมัยสมาจาโร นำคณะผู้มีจิตศรัทธาช่วยกันบูรณะ และทุกปีจะมีการทำบุญพระธาตุในวันที่ 17 เมษายน

 

พระธาตุจอมกิตติ น่าน
ที่ตั้ง : ต.พระพุทธบาท อ.เชียงกลาง จ.น่าน
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 08.00 - 18.00 น.
Facebook : วัดป่าพระธาตุจอมกิตติ อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน

วิวเมืองเชียงกลางเมื่อมองจากพระธาตุจอมกิตติ
ภาพ : facebook.com/ChomkittiTemple

 

เสน่ห์ของเมืองเล็กอย่างเชียงกลางคือ เดินทางง่าย และรื่นรมย์ ไม่ว่าจะเขยิบตัวไปทางไหนเป็นต้องพบกับความชุ่มฉ่ำของลำน้ำกอน แม่น้ำที่ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของชาวเชียงกลางกั้นพื้นที่ราบออกเป็นสองฝั่ง โดยมี ‘สะพานแสงตะวันรุ่ง’ ในเขตบ้านเจดีย์ เป็นสื่อเชื่อมผืนนาทั้งสองฟากฝั่งเข้าด้วยกัน รวมถึง ‘สะพานสายรุ้ง’ สะพานที่สดใสด้วยสีสันของรุ้ง 7 สีที่ทอดผ่านแม่น้ำกอนซึ่งไหลเชี่ยวและแรง เพราะจุดนี้เป็นบริเวณที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน

สะพานสายรุ้ง

 

เดิมทีสะพานแห่งนี้ทำด้วยไม้ไผ่สานขัดแตะและอยู่ในระดับเดียวกับขอบฝั่ง สะพานจึงถูกน้ำป่าพัดพาจนทรุดพังทุกปี ต่อมาจึงได้มีการสร้างสะพานคอนกรีตทรงโค้งเพื่อให้แข็งแรงถาวรมากขึ้น เมื่อสะพานเสร็จสมบูรณ์ ชาวบ้านสบกอนก็มาช่วยกันทาสีเป็นสีรุ้ง เพื่อให้เป็นทั้งทางสัญจรและจุดพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางวิวทุ่งนาผืนกว้าง สะพานสายรุ้งจึงกลายเป็นอีกหนึ่งพิกัดถ่ายภาพที่ถูกใจนักเดินทางผู้มาเยือนบ้านสบกอนแห่งเชียงกลาง

 

อีกหนึ่งเสน่ห์ของบ้านสบกอนคือเคยเป็นชุมชนที่รุ่งเรืองด้วยอุตสาหกรรมใบยาสูบ โดยเมื่อ พ.ศ. 2493 ได้มีการก่อสร้างสถานีบ่มใบยาสบกอนขึ้นเพื่อใช้อบใบยาสูบและส่งไปผลิตบุหรี่ทั่วประเทศไทย ลักษณะของตัวสถานีเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ตั้งเรียงรายเป็นทิวแถว และแม้ในจังหวัดน่านจะมีโรงบ่มใบยาสูบที่ทั้งในอำเภอปัวและท่าวังผา แต่สถานีแห่งนี้ถือว่าใหญ่และสวยงามที่สุด

สถานีบ่มใบยาสบกอน

 

จนกระทั่งเมื่อราว 20 ปีที่แล้ว มีการพัฒนาโรงบ่มยาสูบโดยเปลี่ยนเป็นเตาอบไฟฟ้าแทนการใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง ทำให้โรงบ่มจำนวนมากกว่า 100 เตาถูกทิ้งร้าง และค่อย ๆ เปลี่ยนสถานะมาเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของคนรุ่นหลังถึงอาชีพและวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวเชียงกลางในอดีต ซึ่งแน่นอนว่าด้วยรูปลักษณ์ของอาคารอิฐดิบ ๆ เท่ ๆ มีฉากหลังเป็นทุ่งนาแบบนี้ เรียกความสนใจจากเหล่า Instagrammer ให้มาถ่ายภาพสวย ๆ ลงโซเชียลอย่างไม่ขาดสาย

โบราณสถานวิหารไทลื้อ วัดหนองแดง

 

อีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจในเชียงกลาง ได้แก่ โบราณสถานวิหารไทลื้อ วัดหนองแดง วัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 800 ปี โดยเป็นวัดที่ชาวไทลื้อให้ความเคารพศรัทธา กล่าวกันว่า ในอดีต ชาวไทลื้อที่นี่วางแผนจะเดินทางกลับไปยังสิบสองปันนา เพื่อตามหานายช่างให้กลับมาซ่อมแซมวัดหนองแดง และถือโอกาสเยี่ยมญาติพี่น้องไปในตัว ก่อนออกเดินทางพวกเขาได้นำทรัพย์สมบัติฝังไว้ใต้ดิน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสี่ยงต่อการโดนปล้นกลางทาง แล้วปลูกต้นโพธิ์บนจุดที่ฝังสมบัติเอาไว้ แต่กว่าจะได้กลับจากสิบสองปันนามายังวัดหนองแดงกินเวลาเกินทศวรรษ ต้นโพธิ์จึงเติบโตสูงใหญ่จนไม่มีใครกล้าขุด ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าทรัพย์สมบัติจึงยังคงถูกฝังอยู่ใต้ต้นโพธิ์ดังเดิม และปัจจุบัน ต้นโพธิ์หลังวิหารต้นนี้ยังเป็นจุดที่ชาวไทลื้อใช้จัดพิธีกรรมห่มค้ำโพธิ์ตามความเชื่อที่สืบทอดกันมา

โบราณสถานวิหารไทลื้อ วัดหนองแดง

 

อีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจในเชียงกลาง ได้แก่ โบราณสถานวิหารไทลื้อ วัดหนองแดง วัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 800 ปี โดยเป็นวัดที่ชาวไทลื้อให้ความเคารพศรัทธา กล่าวกันว่า ในอดีต ชาวไทลื้อที่นี่วางแผนจะเดินทางกลับไปยังสิบสองปันนา เพื่อตามหานายช่างให้กลับมาซ่อมแซมวัดหนองแดง และถือโอกาสเยี่ยมญาติพี่น้องไปในตัว ก่อนออกเดินทางพวกเขาได้นำทรัพย์สมบัติฝังไว้ใต้ดิน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสี่ยงต่อการโดนปล้นกลางทาง แล้วปลูกต้นโพธิ์บนจุดที่ฝังสมบัติเอาไว้ แต่กว่าจะได้กลับจากสิบสองปันนามายังวัดหนองแดงกินเวลาเกินทศวรรษ ต้นโพธิ์จึงเติบโตสูงใหญ่จนไม่มีใครกล้าขุด ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าทรัพย์สมบัติจึงยังคงถูกฝังอยู่ใต้ต้นโพธิ์ดังเดิม และปัจจุบัน ต้นโพธิ์หลังวิหารต้นนี้ยังเป็นจุดที่ชาวไทลื้อใช้จัดพิธีกรรมห่มค้ำโพธิ์ตามความเชื่อที่สืบทอดกันมา

มาม่าต้มยำทะเล เมนูเด็ดร้านบ้านน้อยหน่า
ภาพ : facebook.com/Bannoina

 

มาถึงเชียงกลางทั้งที ไม่อยากให้พลาดร้านอาหารขึ้นชื่ออย่าง บ้านน้อยหน่า ที่อยู่ติดริมแม่น้ำ จึงเหมาะแก่การนั่งกินลมชมวิวแบบสบาย ๆ แล้ว ไปพร้อม ๆ กับการสั่งอาหารอร่อยมาเติมพลังมีให้เลือกทั้งก๋วยเตี๋ยว อาหารจานเดียว อาหารตามสั่ง เครื่องดื่ม เบเกอรี ครบครัน ในราคาไม่แพง แนะนำเมนูขึ้นชื่อที่หลายคนติดใจอย่างมาม่าต้มยำทะเล ที่จัดเต็มเครื่องแน่นเต็มหม้อ น้ำซุปเข้มข้นรสชาติเปรี้ยวแซ่บ ชามเดียว อิ่มเกินคุ้ม

 

ร้านบ้านน้อยหน่า
ที่ตั้ง : บ้านซาววา อ.เชียงกลาง จ.น่าน
โทร : 085 694 9596
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น.  
Facebook : ร้านบ้านน้อยหน่า

บรรยากาศที่พักThe River Runs Chiang Klang 
ภาพ : facebook.com/TheRiverRunsChiangKlang

 

ใครที่อยากสัมผัสเสน่ห์ของเชียงกลางแบบไม่รีบร้อน แนะนำให้เข้าพักที่ The River Runs Chiang Klang บ้านพักที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน มีให้เลือกพักผ่อนหย่อนใจในบ้านแบบ Cabin House สไตล์แคมปิ้ง และบ้านอิฐแบบเดียวกับโรงบ่มยาสูบ ให้ได้อรรถรสสมกับที่มาเยือนอดีตถิ่นยาสูบแห่งภาคเหนือ ที่สำคัญคือ ที่นี่เป็น Pet Friendly สามารถพาสมาชิกสี่ขาในครอบครัวมาพักผ่อนด้วยกันได้อย่างสบายใจ

กระเป๋าหิง ของฝากจากเชียงกลาง
ภาพ : facebook.com/TheRiverRunsChiangKlang

 

หรือถ้าใครอยากมาชิลกับบรรยากาศริมน้ำน่านแบบ One Day Trip ที่นี่ก็มีส่วนของคาเฟ่ที่ชื่อ Dear River Cafe ไว้บริการอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรีอร่อย ทั้งยังเป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าชุมชนสุดเก๋อย่างกระเป๋าหิง หรือกระเป๋าแห ซึ่งเป็นฝีมือการถักด้วยมือทุกขั้นตอนของชาวบ้านในชุมชนบ้านดอนสบเปือ ด้วยดีไซน์และสีสันสดใส กระเป๋าหิงจึงเป็นงานคราฟต์ที่จะใช้เองหรือซื้อเป็นของฝากก็รับประกันว่าผู้รับต้องประทับใจ

 

The River Runs Chiang Klang
ที่ตั้ง : บ้านดอนสบเปือ ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน
โทร : 098 750 5614
เวลาทำการ : คาเฟ่เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30 - 18.30 น.
Facebook : The River Runs Chiang Klang

 

 

อ้างอิง

  • กรมศิลปากร. ซุ้ม (อุโมงค์) ลีลาวดี : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน. https://bit.ly/4gazSfK
  • Sanook. กระซิบรักบันลือโลก “ปู่ม่านย่าม่าน” มงคลล้านนา ณ วัดภูมินทร์. https://bit.ly/4gak7FT
  • กรอุมา นุตะศรินทร์. จิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถ วัดภูมินทร์. https://bit.ly/4hsW1ae
  • Nairobroo. จิตรกรรมฝาผนังเอกลักษณ์น่าน วัดหนองบัว. https://bit.ly/4juxAei
  • Nairobroo. Cocoa Valley ให้ความหวานเติมชีวิตให้สดใส. https://bit.ly/3EgZeLK
  • กระทรวงวัฒนธรรม. พระธาตุจอมกิตติ. https://bit.ly/3EajSNS
  • กาญจน์ อายุ. ใจกลางความสุข เขียวชอุ่มกลางภู ‘เชียงกลาง’. https://bit.ly/4hrpyky
  • บิเบวา. เชียงกลาง…ระหว่างทาง ระหว่างเรา. https://bit.ly/3CkTuQA
  • ไปด้วยกัน. เชียงกลาง อำเภอสงบสุดชิลแห่งน่าน โอบล้อมด้วยภูเขา ท้องทุ่งนา. https://bit.ly/4hpjXLR

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...