

แช่บ่อน้ำร้อน นอนฟาร์มเฮ้าส์ กินข้าวในกระเตงทะเลที่ ‘ระนอง’ มหานครน้ำแร่ของไทย
Travel / Thailand
18 Jul 2025 - 7 mins read
Travel / Thailand
SHARE
18 Jul 2025 - 7 mins read
ใครเคยไปเยือน ‘เมืองฝนแปดแดดสี่’ อย่าง ระนอง รับรองว่าต่างก็ตกหลุมรักเมืองเล็กแห่งนี้ทุกราย
เพราะจังหวัดที่มีเนื้อที่น้อยที่สุดในภาคใต้ ซึ่งในอดีตเคยมีชื่อว่า ‘แร่นอง’ แห่งนี้ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจและหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวภูเขา ล่องทะเล ร่อนแร่ แช่น้ำร้อน ฯลฯ
โดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางสายสุขภาพ ระนองคือจุดหมายในการฟื้นฟูพละกำลังชั้นดีให้ร่างกายและจิตใจ เพราะเป็นแหล่งน้ำแร่คุณภาพอันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยน้ำแร่ในระนองมีประสิทธิภาพในการเสริมสุขภาพและบำบัดผู้ป่วย ปัจจุบันจังหวัดระนองจึงมีสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองเป็นศูนย์เวลเนสแล้วถึง 37 แห่ง ระนองจึงเป็นจุดหมายสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่น่าสนใจ
LIVE TO LIFE จึงคัดพิกัดห้ามพลาดมาให้แล้วว่า ถ้าอยากจะไปบูสต์พลังชีวิตให้สุขภาพดีที่ระนอง ต้องไปเยือนที่ไหนบ้าง
บำบัดกายและใจที่บ่อน้ำแร่ร้อน 4 สไตล์แห่งเมืองแร่นอง
ระนองถือเป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่เก่าแก่ของไทย ที่มีการค้นพบมานานกว่าร้อยปี โดยแต่เดิมพื้นที่แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า ‘แร่นอง’ เนื่องจากมีการขุดพบแร่ดีบุกเป็นจำนวนมาก โดยในบรรดา 5 อำเภอของจังหวัดระนอง ได้แก่ อำเภอเมืองระนอง อำเภอกระบุรี อำเภอละอุ่น อำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ พบว่าพื้นที่อำเภอเมืองระนองมีบ่อน้ำแร่หรือบ่อน้ำพุร้อนมากที่สุด
บ่อน้ำแร่ที่นักท่องเที่ยวมักแวะไปเยือนเป็นอันดับต้น ๆ ได้แก่ บ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน ด้วยความที่ตั้งอยู่ในตัวอำเภอเมืองจึงเดินทางสะดวก และเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งยังมีประวัติศาสตร์น่าสนใจที่อาจถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นเจ้าของสถานะเมืองแห่งบ่อน้ำแร่ก็ว่าได้
บ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน
ถอยเวลากลับไปเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้และแหลมมลายู โดยทรงแวะประทับที่เมืองระนอง ระหว่างวันที่ 23-26 เมษายน พ.ศ. 2433 และได้ทรงพระราชทานนามถนน 10 สายสำคัญในเมืองระนอง โดยทุกชื่อมีความคล้องจองกัน และแต่ละชื่อล้วนสอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศและสภาพของชุมชนนั้น ๆ หนึ่งในนั้นคือ ถนนชลระอุ ที่มีความหมายตรงตัวว่า น้ำร้อน เนื่องจากเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำร้อนตามธรรมชาติประจำเมือง
ในเวลาต่อมาบ่อน้ำแร่แห่งนั้นได้รับพระราชทานนาม ‘รักษะวาริน’ จากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาเยือนเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2510 ด้วยความที่น้ำแร่ในบ่อแห่งนี้อุดมด้วยแร่ธาตุที่มีคุณประโยชน์ สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทยจึงพระราชทานนามที่มีความหมายว่า น้ำที่ใช้รักษาโรคได้ แก่บ่อน้ำแร่ประจำเมืองระนอง
แร่ธาตุที่ว่ามีประโยชน์นั้นพิสูจน์ได้อย่างไร ? หากว่ากันตามประสบการณ์ของผู้คนจากรุ่นสู่รุ่นที่เคยแช่น้ำแร่รักษะวารินมาก่อนต่างก็บอกเล่าตรงกันว่า การแช่น้ำแร่ธรรมชาติที่นี่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ ได้ดี รู้สึกได้ถึงเลือดลมที่ไหลเวียนดีขึ้น ร่างกายผ่อนคลาย และสำหรับบางคนที่เป็นโรคผิวหนังบางชนิด เมื่อได้แช่น้ำแร่เป็นประจำ อาการจะทุเลาลง เพราะเชื่อกันว่ามีส่วนช่วยในการขับสารพิษในร่างกาย
ส่วนในแง่หลักฐานทางวิชาการ จากการตรวจวิเคราะห์น้ำแร่ในระนองโดยกรมวิทยาศาสตร์บริการพบว่า น้ำแร่ธรรมชาติจากแหล่งนี้อุดมด้วยแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด มีค่าความเป็นกรดและด่างที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ที่สำคัญคือ ไม่มีกำมะถันเจือปนจึงไม่มีกลิ่นฉุน ปราศจากทั้งสีและตะกอน
นอกจากนี้ เอกลักษณ์ของบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน คือ เป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่มีไอขึ้นจากบ่อตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่ดีของน้ำพุร้อน และมีน้ำไหลล้นจากปากบ่อตลอดเวลา ทำให้บริเวณปากบ่อเกิดการเกาะตัวกันของแร่แคลไซต์ (Calcite) ที่แค่เห็นก็สัมผัสได้ถึงคุณค่าของแร่ธาตุในน้ำแร่ธรรมชาติแห่งนี้
บ่อน้ำร้อนรักษะวารินมีตาน้ำทั้งหมด 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว ทุกบ่อมีอุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส แต่มีลักษณะทางกายภาพและสรรพคุณทางยาที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยบ่อพ่อมีขนาดใหญ่ที่สุด อุณหภูมิน้ำสูงที่สุด และมีปริมาณแร่ธาตุมากที่สุด จึงเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคได้ดีที่สุด ส่วนบ่อแม่มีขนาดและอุณหภูมิน้ำรองลงมา รวมถึงมีปริมาณแร่ธาตุที่น้อยกว่า และบ่อลูกสาวมีขนาดเล็กที่สุด อุณหภูมิน้ำต่ำที่สุด และมีปริมาณแร่ธาตุต่ำที่สุด
สำหรับบริการแช่น้ำแร่ที่บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ทางจังหวัดได้สร้างบ่อน้ำร้อนเพื่อให้บริการแก่ประชาชน โดยต่อท่อเพื่อนำน้ำร้อนจากบ่อหลักทั้งสามบ่อมายังบ่อแช่น้ำร้อนที่สร้างขึ้นใหม่ โดยผสมกับน้ำอุณหภูมิปกติเพื่อปรับลดความร้อนของน้ำให้เหลือ 40-50 องศาเซลเซียส
บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวารินมีทั้งบ่อรวม บ่อชาย - หญิง และบ่อแช่ตัวสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ที่ผ่านการออกแบบตามหลักอารยสถาปัตย์ สามารถเข็นรถวีลแชร์ลงไปตามทางลาดได้ถึงในบ่อ และมีราวจับช่วยให้ผู้พิการและผู้สูงอายุสามารถแช่ตัวในบ่อได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังมี ศาลาโยคะร้อน ไว้บริการ โดยประชาชนสามารถเข้าไปนั่ง นอน หรือฝึกโยคะเพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อได้ภายในบริเวณศาลาโยคะร้อน ที่ด้านล่างเป็นถังน้ำแร่จากบ่อพ่อซึ่งติดตั้งอยู่ใต้พื้น ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถรับไอร้อนจากน้ำแร่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้อีกวิธี หรือจะเลือกพักผ่อนหย่อนใจนอนเล่นบนเตียงผ้าใบริมคลองหาดส้มแป้น ซึ่งเป็นลำธารธรรมชาติที่ไหลมาจากภูเขา ก็ถือเป็นการรับพลังบริสุทธิ์จากธรรมชาติชั้นดี ช่วงไหนอากาศร้อน ๆ สามารถลงไปเล่นน้ำในลำธารได้ด้วย
ในบริเวณเดียวกันยังเป็นที่ตั้งของ วัดบ่อน้ำร้อน หรือ วัดตโปทาราม ซึ่งตั้งชื่อตามวัดตโปทารามในเมืองสาวัตถี ประเทศอินเดีย เพราะที่นั่นมีบ่อน้ำแร่ร้อนศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาโรคได้จึงเป็นที่นิยมมาอาบน้ำแร่ของชาวเมือง รวมถึงกษัตริย์อินเดียในอดีตที่มีความเชื่อว่าการอาบน้ำแร่จะช่วยให้อายุยืน
ภายในอุโบสถวัดตโปทารามมีปูชนียวัตถุที่สำคัญอย่างพระพุทธรังษีวรโพธิ พระประธานในอุโบสถ ซึ่งอัญเชิญมาจากพระนครศรีอยุธยา และรอยพระพุทธบาทซึ่งจำลองมาจากวัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ 200 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ควรหาโอกาสสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
บ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน
ที่ตั้ง : สวนสาธารณะรักษะวาริน ถ.ชลระอุ ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง
โทร : 077 501 831
เวลาทำการ : บ่อแช่เท้าและศาลาโยคะร้อน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 05.00 - 21.00 น. บ่อแช่ตัว เปิดให้บริการ 3 รอบต่อวัน เวลา 05.00 - 09.00 น. , 11.00 - 14.00 น. และ 16.00 - 20.00 น.
บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง
ภาพ : th.trip.com
บ่อน้ำแร่อีกแห่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือ บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว โดยที่ตั้งของบ่อน้ำแร่ร้อนจะอยู่ริมคลองพรรั้ง อุณหภูมิของน้ำแร่ที่นี่อยู่ที่ประมาณ 35 - 40 องศาเซลเซียส มีบ่อน้ำแร่ให้บริการ 8 บ่อ แบ่งเป็นบ่อแช่ตัว 6 บ่อ และบ่อตักอาบ 2 บ่อ โดยน้ำแร่ของที่นี่มีลักษณะใสสะอาด และไม่มีกลิ่นกำมะถันเช่นกัน
ภาพ : th.trip.com
นอกจากนี้ ยังมีโซนห้องแช่น้ำแร่ส่วนตัวที่สามารถแช่เป็นกลุ่มกับเพื่อนหรือครอบครัวพร้อมกันได้ 3-4 คน เลือกได้ทั้งแบบในอาคาร Indoor และแบบ Outdoor ที่ได้ชมวิวธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้งมีการออกแบบโซนอารยสถาปัตย์ เป็นบ่อแช่น้ำแร่กลางแจ้งที่สามารถลงแช่พร้อมรถเข็นวีลแชร์ได้เช่นเดียวกับบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน
ว่ากันด้วยเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับที่มาของชื่อ ‘พรรั้ง’ อ้างอิงข้อมูลจากพิพิธภัณฑ์บ้านเมืองแร่นองบอกเล่าเอาไว้ว่า คำว่า “พรรั้ง” เพี้ยนมาจากคำว่า “พอนร้าง” โดยคำว่า พอน หมายถึง รากพูพอนของต้นไม้ โดยในอดีต คนไทยเชื้อสายจีนกลุ่มหนึ่งได้สร้างบ้านเรือนอยู่บริเวณนี้ พอตกกลางคืนมักมีโจรอั้งยี่ทำการออกปล้น ชาวบ้านจะพากันไปหลบซ่อนที่โคนต้นไม้ซึ่งมีรากพูพอนเป็นแขนงหลืบใหญ่โตและซับซ้อนพอให้หลบซ่อนตัวได้ ต่อมาเมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้นจนไม่มีโจรผู้ร้ายออกปล้น ชาวบ้านจึงไม่ต้องอาศัยรากพูพอนไม้เป็นที่กำบังตัวอีกต่อไป หมู่บ้านนี้จึงได้ชื่อวา บ้านพอนร้าง ที่ผ่านการเรียกต่อ ๆ กันมาจนกลายเป็น พรรั้ง ในที่สุด
บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง
โทร : 077 810 652
เวลาทำการ : วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 06.30 - 16.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ : คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท (ผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ไม่เสียค่าเข้าอุทยานฯ) ค่ายานพาหนะ 30 บาท/คัน
ค่าบริการแช่น้ำแร่ร้อน : ผู้ใหญ่ 20 บาท และเด็ก 10 บาท
Facebook : อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว Namtok Ngao
ธาริน ฮอทสปริง (Taryn Hot Spring)
ภาพ : facebook.com/tarynhotsprings
ธาริน ฮอทสปริง (Taryn Hot Spring) ถือเป็นบ่อน้ำแร่ที่ค่อนข้างใหม่ โดยหลังจากมีการค้นพบตาน้ำแร่ธรรมชาติบริสุทธิ์ในพื้นที่บริเวณนี้จึงได้มีการออกแบบ ธาริน ฮอทสปริง ขึ้น โดยคำว่า ธาริน มาจากภาษาสก็อตติช แปลว่า ความอ่อนโยน สงบนิ่ง เพื่อสื่อถึงคอนเซ็ปต์ของที่นี่ที่ตั้งใจให้พลังอ่อนโยนของสายน้ำช่วยดูแลสุขภาพของผู้คน โดยเริ่มเปิดบริการครั้งแรกปลายเดือนธันวาคม 2561
ภาพ : facebook.com/tarynhotsprings
ทั้งนี้ แม้น้ำแร่ของจังหวัดระนองจะมีจุดเด่นที่เหมือนกันคือ ไร้กลิ่นกำมะถัน แต่น้ำแร่ในแต่ละจุดจะมีความแตกต่างกันตรงปริมาณของแร่ธาตุ โดยจากการวิจัยของกรมการแพทย์และ Central Lab Thai พบว่าน้ำแร่ที่ ธาริน ฮอทสปริง อุดมด้วยแร่ธาตุซิลิกามากกว่าที่อื่น โดยซิลิกามีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ดูดซับความมันออกจากผิว ช่วยชะลอกระบวนการเกิดริ้วรอย ทั้งยังเสริมความแข็งแรงของเส้นผมและเล็บ เพียงแต่ต้องใช้ระยะเวลาจึงจะเห็นผล
ภาพ : facebook.com/tarynhotsprings
นอกจากนี้ ยังมีแร่ธาตุแคลเซียมและไบคาร์บอเนต มีส่วนช่วยในการลดการอักเสบตามข้อต่อเล็ก ๆ และมีส่วนช่วยบรรเทาอาการของโรคข้อเสื่อม และมีฟลูออไรด์ ซึ่งมีคุณสมบัติฆ่าเชื้ออ่อน ๆ ช่วยเสริมสุขภาพช่องปากและผิวหนัง นอกจากนี้ น้ำแร่ที่นี่ยังเป็นน้ำด่างอ่อน จึงช่วยลดความเป็นกรดของผิวและร่างกาย ช่วยบรรเทาความเครียดหรืออาการเมื่อยล้าหลังออกกำลังกายได้ดี ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และลดการอักเสบของผิวหนัง
ภาพ : facebook.com/tarynhotsprings
เท่ากับว่าใครมีโอกาสได้มาแช่น้ำแร่ที่ ธาริน ฮอทสปริง บ่อย ๆ (อุณหภูมิน้ำแร่ร้อนของที่นี่อยู่ที่ประมาณ 41.8 องศาเซลเซียส) ผิวก็จะค่อย ๆ มีสุขภาพดีขึ้นจากภายใน โดยนอกจากคุณสมบัติของแร่ธาตุในน้ำแร่จะเป็นจุดขายชั้นดีแล้ว บรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติที่ผ่านการออกแบบให้คล้ายออนเซ็นในญี่ปุ่น ที่มีเอกลักษณ์อย่างชุด ‘ยูกาเต๊ะ’ (ชุดยูกาตะ × ผ้าปาเต๊ะ)บริการสำหรับเปลี่ยนก่อนลงแช่ตัวในบ่อน้ำแร่ ยังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากแวะเวียนมาแช่น้ำแร่ที่นี่สักครั้ง
ธาริน ฮอทสปริง (Taryn Hot Spring)
ที่ตั้ง : 124 ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง
โทร : 077 826 726
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 07.00 - 20.00 น.
ค่าบริการแช่น้ำแร่ร้อน : บ่อแช่น้ำแร่ร้อนรวม ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี 60 บาท และบ่อแช่น้ำแร่ร้อนส่วนตัว ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี 100 บาท
Facebook : Taryn Hot Springs ธาริน ฮอทสปริง
บ้านในหมง treehouse
ภาพ : facebook.com/bannaimong
สำหรับใครที่อยากแช่น้ำแร่และฟอกปอดไปพร้อม ๆ กันด้วยการสูดอากาศบริสุทธิ์จากการได้นอนพักค้างคืนในอ้อมกอดของผืนป่า ไม่มีที่ไหนเหมาะเท่า บ้านในหมง treehouse อีกแล้ว
ภาพ : facebook.com/bannaimong
‘บ้านในหมง’ นิยามตัวเองเป็นที่พักเชิงนิเวศน์ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติและสัตว์เลี้ยง ที่นี่จึงมีทั้งสุนัขใจดีคอยต้อนรับนักเดินทางทุกท่าน มีน้องแมวหลายสายพันธุ์หลากนิสัยประจำอยู่ตามจุดต่าง ๆ มีฝูงเป็ดในลำธาร และมีนกยูงสวยสง่าเดินเยื้องย่างอยู่ภายในบริเวณป่าโดยรอบ ที่พักแห่งนี้จึงเหมาะสำหรับคนรักสัตว์ รักธรรมชาติ รวมถึงใครที่ต้องการพาสัตว์เลี้ยงของตัวเองไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกัน ‘บ้านในหมง’ เป็นพื้นที่ Pet - Friendly ที่ยินดีต้อนรับทุกสมาชิกในครอบครัว
ภาพ : facebook.com/bannaimong
จุดเริ่มต้นของบ้านในหมงเกิดจากการสร้างบ้านต้นไม้ไว้อยู่เองของ กอล์ฟ - วีรภัทร์ นรินทร์รักษ์ ต่อมาเมื่อทะเลพม่าเริ่มเปิด เขาจึงมองเห็นโอกาสทางธุรกิจและเริ่มสร้างบ้านพักเพิ่มเติมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยเจ้าตัวออกแบบบ้านเองทุกหลัง ด้วยเอกลักษณ์ของบ้านทรงแปลกตาน่ารักที่แทรกตัวอย่างกลมกลืนในป่าเขียวขจี บ้านในหมงจึงได้รับการพูดถึงทาง Social Media จนกลายเป็นไวรัลบ้านต้นไม้ที่ใคร ๆ ก็อยากไปเช็กอิน
ภาพ : facebook.com/bannaimong
จนกระทั่งช่วงโควิดที่ผ่านมามีการค้นพบแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติขึ้นในพื้นที่ โดยเมื่อผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่าเป็นน้ำแร่ที่มีคุณภาพและปลอดภัย วีรภัทร์จึงเกิดไอเดียในการพัฒนาบ้านในหมงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพครบวงจร ด้วยการนำน้ำแร่มาใช้ในการอุปโภคบริโภค ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่ใช้อาบในห้องพัก และการนำน้ำแร่ไปผ่านกระบวนการกรองก่อนนำมาใช้ในส่วนของคาเฟ่และร้านอาหาร
ภาพ : facebook.com/bannaimong
ผู้ที่เข้าพักที่บ้านในหมงสามารถจองแช่น้ำแร่ในอ่างส่วนตัวริมลำธารได้แบบไม่มีใครกวนใจ โดยค่าบริการแช่น้ำแร่สำหรับ 2 ท่าน ราคา 300 บาท และสำหรับ 3-6 ท่าน ราคา 500 บาท สามารถแช่ได้นาน 45 นาที ท่ามกลางบรรยากาศริมลำธารธรรมชาติที่มองไปทางไหนก็ร่มรื่นสบายตา ให้น้ำแร่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เลือดลมไหลเวียนดี แล้วยังมีความเงียบสงบของผืนป่าช่วยให้สบายใจ สมกับเป็นที่พักเพื่อชาร์จพลังให้สุขภาพแข็งแรงทั้งระบบ
บ้านในหมง treehouse
ที่ตั้ง : 88/22 ซ.คลองหลุมถ่าน 2 (เจ็ดท่อ) หมู่ 4 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง
โทร : 093 497 4999
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 09.00 - 17.00 น.
Facebook : บ้านในหมง treehouse
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกใช้บริการที่บ่อน้ำแร่ร้อนแห่งไหนก็ตาม ข้อควรปฏิบัติในการใช้บ่อน้ำแร่ร้อน มีดังนี้
- ล้างตัวและเท้าก่อนลงแช่น้ำทุกครั้งเพื่อทำความสะอาดและปรับอุณหภูมิร่างกาย
- หย่อนเท้าและขาลงในบ่อน้ำแร่ อย่างช้า ๆ เมื่อร่างกายปรับอุณหภูมิได้แล้วจึงค่อย ๆ ลงแช่ทั้งตัว
- ใช้เวลาในการแช่รอบละไม่เกิน 10-15 นาที และไม่ควรเกิน 3 รอบต่อวัน โดยในแต่ละรอบต้องสลับกับการอาบน้ำเย็น
- ควรแช่ตัวในบ่อน้ำร้อนให้อยู่ในระดับเหนืออก และเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด
- หากรู้สึกอึดอัดระหว่างการแช่น้ำแร่ร้อน ควรขึ้นมาพักให้ผ่อนคลายหรืออาบน้ำเย็นจึงจะลงไปแช่อีกครั้ง
- ควรดื่มน้ำเปล่าขณะพัก หรือระหว่างการแช่น้ำแร่ร้อน
- หลังการแช่น้ำแร่ร้อน ควรอาบน้ำในอุณหภูมิปกติ เพื่อปิดรูขุมขนและปรับสภาพร่างกาย
- ห้ามบ้วนน้ำและสารคัดหลั่งในบ่อน้ำแร่ร้อน
นอนฟาร์มเฮ้าส์ กินไข่ไก่สดใหม่กับอาหารใต้เพื่อสุขภาพ
หนึ่งในที่พักที่น่าสนใจในตัวเมืองระนอง ได้แก่ ฟาร์มเฮ้าส์ ระนอง เพราะนอกจากจะทำเลดีตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับพระราชวังรัตนรังสรรค์และตลาด ยังเป็นโรงแรมดีไซน์เก๋ที่ต่อยอดมาจากธุรกิจฟาร์มไก่ไข่ “พันธุ์ทิพย์ฟาร์ม”ของครอบครัวมหพันธ์ทิพย์ ที่ตั้งใจเสิร์ฟไข่ไก่คุณภาพดีให้แขกที่เข้าพักได้รับคุณค่าจากโปรตีนในไข่ไก่ทุกฟอง
ภาพ : facebook.com/FarmHouseRestaurantRanong
โดยหลังจากแขกเช็กอินเรียบร้อย เมื่อเข้าไปยังห้องพักจะพบกับ Welcome Egg เป็นไข่ลวกในน้ำแร่วางต้อนรับในทุกห้องพัก ซึ่งถ้าใครอยากกินไข่ลวกเพิ่ม สามารถเติมได้ไม่อั้น เพราะทางโรงแรมมีบริการฟรีตลอดวัน
ภาพ : facebook.com/FarmHouseRestaurantRanong
นอกจากนี้ไฮไลต์ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่เข้าพักคือ บุฟเฟต์อาหารเช้า ที่ให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 10 โมง โดยมีอาหารพื้นเมืองวางเรียงรายให้เลือกอร่อยได้ตามชอบใจ ไล่มาตั้งแต่ข้าวยำ ขนมจีนซาวน้ำ ขนมจีนแกงไตปลา พริกแกงหลากหลายชนิด ทีเด็ดคือ ก๊กซิมบี้ อาหารท้องถิ่นของชาวจีนฮกเกี้ยน หน้าตาคล้ายซุปหูฉลามหรือกระเพาะปลา เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่วเพิ่มรสชาติ
ภาพ : facebook.com/FarmHouseRestaurantRanong
ส่วนใครที่ไม่ได้เข้าพักที่นี่ก็สามารถอร่อยกับอาหารใต้เพื่อสุขภาพได้ที่ ร้านอาหาร Farmhouse เสิร์ฟอาหารพื้นเมืองปักษ์ใต้สไตล์ระนองแท้และบางเมนูก็ใช้ไก่ของฟาร์มเป็นพระเอก เช่น ไก่ไข่แช่เหล้า ไก่ไข่ผัดโหงวก้วย นอกจากนี้ยังมีแกงไตปลากะทิ หมูทอดกะปิ ยำสามหอม และเมนูไฮไลท์ห้ามพลาด ได้แก่ หมูผัดแห่เก๋ เมนูโบราณของชาวระนองที่ใช้วัตถุดิบลับอย่างเคยเค็มสดเป็นตัวชูรสชาติหอมอร่อย โดยนำมาผัดกับหมูสามชั้นเนื้อนุ่ม ได้รสชาติคล้ายหมูผัดกะปิ แต่เบาและนวลกว่า
ภาพ : facebook.com/FarmHouseRestaurantRanong
อีกโซนที่ห้ามพลาด คือ การแวะช้อปของฝากพื้นเมืองจากระนองที่ ร้าน ก.ไก่ ที่มีทั้งสินค้าของโรงแรมและสินค้าคู่เมืองระนองที่มีกิมมิคอย่างการคัดสินค้าที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร ก ไก่ มาจำหน่าย เช่น กาแฟระนอง ซึ่งเป็นกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าที่มีกลิ่นและรสหอมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยความที่เป็นกาแฟจากถิ่นปลูกในพื้นที่ที่ฝนตกมากที่สุดในประเทศไทยอย่างระนอง
อีกหนึ่งของฝากขายดี คือ กะปิระนอง ทำจากกุ้งเคยแท้ ๆ โดยใช้เฉพาะกุ้งเคยคลุกเคล้ากับเกลือทะเล ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นในการถนอมอาหารให้เก็บได้นาน กะปิระนองรสชาติไม่เค็มมาก และมีกลิ่นหอมจนสามารถกินเปล่า ๆ กับผลไม้ได้ หรือจะนำไปทำน้ำพริก ข้าวคลุกกะปิ หรือใส่ในแกงต่าง ๆ ก็ช่วยชูรสชาติให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น
ภาพ : facebook.com/FarmHouseRestaurantRanong
ลำดับถัดมาคือ กุ้งเคยทอดกรอบปรุงรสบรรจุกระปุกขาย มีทั้งรสดั้งเดิม พริกเกลือ และสาหร่าย จะเอาไปโรยบนข้าวสวยร้อน ๆ แล้วทาน หรือผัดกับข้าวผัดก็ได้ ช่วยเสริมแคลเซียมแก่ร่างกายจากการกินกุ้งทั้งตัว อีกหนึ่งสินค้าตัว ก ที่ห้ามพลาด คือ กาหยู หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสดใหม่ มีทั้งรสอบเกลือและอบเนย เมล็ดใหญ่ ได้รสชาติหวานกรุบกรอบจากธรรมชาติแท้ ไม่ใส่สารปรุงแต่ง นอกจากนี้ยังมีน้ำพริกหลากรสชาติ น้ำปลาแท้ ปลาเค็ม อาหารทะเลอบแห้ง ขนม และของที่ระลึกอย่างหมวก เสื้อ ผ้าพันคอ และกระเป๋าผ้าปาเต๊ะให้เลือกช้อปตามชอบใจ
ฟาร์มเฮ้าส์ ระนอง
ที่ตั้ง : 311/1 ถ.เรืองราษฎร์ ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง
โทร : 094 424 2459, 087 278 4224
Facebook : ฟาร์มเฮ้าส์ ระนอง FarmHouse Ranong
นั่งเรือล่องคลองละอุ่น กินซีฟู้ดบนกระเตงทะเล
หนึ่งในจุดชมวิวของจังหวัดระนองที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเยือน คือ เขาฝาชี ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอละอุ่น เพราะเดินทางง่าย อยู่ห่างจากอำเภอเมืองระนองเพียง 30 กิโลเมตร และสามารถขับรถขึ้นไปจอดบนยอดเขา เพื่อชมวิวมุมสูงของแม่น้ำกระบุรีและแม่น้ำละอุ่น เกาะแก่งต่าง ๆ รวมถึงวิวของฝั่งเมียนมาได้กว้างไกลสุดสายตา
ภาพ : facebook.com/farmerboyranong
มาถึงอำเภอละอุ่นทั้งที หากจะจอดแวะแค่ชมวิวที่เขาฝาชี ดูจะเสียเที่ยวเกินไป LIVE TO LIFE อยากให้นักเดินทางสายสุขภาพได้สัมผัสของอร่อยประจำฤดูกาลของระนอง โดยต้องล่องเรือไปในคลองละอุ่น เพื่อชิมสำรับอร่อยจากทะเลระนองบน ‘กระเตงทะเล’
ภาพ : facebook.com/farmerboyranong
กระเตงทะเลถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวเลในแถบนี้ มีลักษณะคล้ายกระท่อมไม้ไผ่ขนาดเล็กตั้งอยู่กลางคลองละอุ่น หน้าที่ปกติของกระเตงทะเลคือ การเป็นจุดพักชั่วคราวของคนเลี้ยงหอยในช่วงน้ำขึ้นน้ำลง ส่วนหน้าที่ใหม่ล่าสุดของกระเตงทะเล คือ โต๊ะอาหารสำหรับนักเดินทางที่อยากกินเมนูสุขภาพตามฤดูกาล
ชาวบ้านกำลังจับปลาบนเรือผีหลอก
ภาพ : facebook.com/farmerboyranong
ทริปท่องเที่ยวชุมชนประมงพื้นบ้านบ้านเขาฝาชีที่มีกระเตงทะเลเป็นพระเอก ริเริ่มโดย กีตาร์ - อาทิตยา อรรถีโสตร์ ลูกหลานชาวประมงที่ทางบ้านทำฟาร์มเลี้ยงหอยแมลงภู่และหอยนางรมมาแล้วสามรุ่น หลังจากเรียนจบและทำงานในกรุงเทพฯ อยู่หลายปี เมื่ออยากกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดริมคลองละอุ่น เธอจึงเกิดไอเดียในการเพิ่มมูลค่าของกระเตงทะเลและวิถีชาวประมงพื้นบ้านให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาทำความรู้จักวิถีชุมชนในคลองละอุ่นดียิ่งขึ้น
สำหรับกิจกรรมที่จัดโดย ‘กระเตงทะเล’ ของอาทิตยาจะออกแบบตามจำนวนผู้ร่วมทริปและจังหวะเวลาที่เดินทางมาเยือนคลองละอุ่น โดยจะเน้นไปที่กิจกรรมกับคนในชุมชน และการรับประทานอาหารทะเลตามฤดูกาล
เซตอาหารเช้า
ภาพ : facebook.com/farmerboyranong
เริ่มต้นด้วยการลงเรือที่ท่าเรือละอุ่น ล่องไปตามลำคลองมุ่งสู่กระเตงทะเล ระหว่างทางจะได้เห็นวิถีชีวิตชาวประมงท้องถิ่นที่หาชมได้ยากอย่างการหาปลาด้วยเรือผีหลอก หาหอย หากุ้งเคย ฯลฯ โดยมีฉากหลังเป็นป่าโกงกางตลอดสองข้างทาง เมื่อล่องเรือมาจนถึงกระเตงทะเล หากเป็นรอบเช้าจะเป็นกิจกรรมชมพระอาทิตย์ขึ้น และรับประทานเซตอาหารเช้าจากฝีมือคนในชุมชนที่ทำขายเป็นประจำในตลาดของชุมชนอยู่แล้ว มีทั้งข้าวต้มหมู ข้าวต้มปลาทะเลสด ๆ พร้อมไข่ลวก ขนมจีนน้ำยาสูตรต่าง ๆ ข้าวหมกไก่ ตามด้วยขนมประจำท้องถิ่น อาทิ ข้าวเหนียวมูนหน้าต่าง ๆ ข้าวต้มมัด อาโป๊ง ฯลฯ ที่สลับสับเปลี่ยนกันไป
แกงส้มปลากะพงสับปะรด
ภาพ : facebook.com/farmerboyranong
ส่วนถ้าเป็นมื้อกลางวันหรือเย็นจะได้เต็มอิ่มกับ ชุดปิ่นโตชาวเล เสิร์ฟอาหารใต้ตามฤดูกาลที่ดีต่อสุขภาพ เช่น แกงส้มปลากะพงสับปะรด ยอดใบเหลียงผัดไข่ ไข่เจียวเคยเค็ม หอยนางรมและหอยแมลงภู่ลวกกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและเครื่องเคียงเฉพาะถิ่นอย่างส้มจี๊ด
หากไปเที่ยวคลองละอุ่นในช่วงฤดูฝนจะเป็น ฤดูตกกุ้งแม่น้ำกระบุรี อีกหนึ่งของดีแห่งคลองละอุ่น โดยเป็นกุ้งสองน้ำเนื้อเด้งสู้ฟัน รสชาติหวานอร่อยเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถจองทริปล่องเรือตกกุ้งตามแบบฉบับภูมิปัญญาชาวบ้าน จากนั้นค่อยลิ้มลองรสชาติของกุ้งแม่น้ำกระบุรีสด ๆ บนกระเตงทะเล
กิจกรรมหาหอยไฟไหม้
ภาพ : facebook.com/farmerboyranong
อีกหนึ่งกิจกรรมสนุกที่สามารถทำได้ตลอดทั้งปี แต่ต้องเป็นวันที่น้ำลงจนเห็นหาดเท่านั้น คือ การหาหอยไฟไหม้ โดยเรือจะจอดที่หาดโหน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมองเห็นซากเรือรบญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สองในบริเวณนี้ เพราะญี่ปุ่นเคยใช้พื้นที่บริเวณนี้ในการขนส่งเสบียงและลำเลียงกำลังพลเพื่อเดินทางไปยังฝั่งพม่า ปัจจุบัน หาดโหนซึ่งเป็นพื้นที่ดินเลนปนทรายได้กลายเป็นพื้นที่หาหอยไฟไหม้ ซึ่งเป็นหอยตลับชนิดหนึ่งที่นิยมนำมารับประทาน เพราะมีเนื้อนุ่มหนึบหวานอร่อย วิธีหาหอยไฟไหม้จะใช้ไม้คราดกวาดไปบนทราย หรือจะใช้เท้าหมุนไปหมุนมาบนทรายจนสัมผัสโดนตัวหอยก็ได้เช่นกัน
ดินเนอร์บนยอดเขาฝาชี
ภาพ : facebook.com/farmerboyranong
สำหรับใครที่ไม่สะดวกล่องเรือ แต่อยากลิ้มรสอาหารอร่อยจากคลองละอุ่น กิจกรรมดินเนอร์บนยอดเขาฝาชี คือตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะได้รับประทานอาหารบนจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในระนอง ยังเป็นการสนับสนุนการกระจายรายได้สู่ชุมชนและปลูกฝังการเรียนรู้ให้เด็กรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของการอนุรักษ์วิถีชีวิตและรากเหง้าของบรรพบุรุษให้คงอยู่คู่คลองละอุ่นต่อไป
กระเตงทะเล Krateng Talay
โทร : 084 745 7527 หรือ Line : @kratengtalay สำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น
Facebook : กระเตงทะเล Krateng Talay
Instagram : krateng_talay
อ้างอิง
- Global Beverage.ตำนาน “น้ำแร่ระนอง” คุณค่าน้ำแร่ธรรมชาติ ติดอันดับต้น ๆ ของโลก.https://bit.ly/4kuooWH
- Ranong Travel Guide.บ่อน้ำร้อนและสวนสาธารณะรักษะวาริน.https://bit.ly/40I73Cv
- คนสู้โรค.ปรับก่อนป่วย : อาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อนที่ระนอง.https://bit.ly/4nOJNgq
- Ranong Travel Guide.บ่อน้ำร้อนพรรั้ง.https://bit.ly/4llMrs2
- ผู้จัดการออนไลน์.ออนเซ็นไทยไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น “ธาริน ระนอง ฮอทสปริง” จุดเช็คอินใหม่เที่ยวเมืองรอง.https://bit.ly/464rLAj
- ชาญชัย หาสสุด.บ้านในหมง จากไวรัลบ้านต้นไม้ ขยายตัวสู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพครบวงจร.https://bit.ly/46nscG7
- เกษตรทำกิน.กระเตงทะเล จากวิถีชาวประมงสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตร.https://bit.ly/4nJCy9j