เดินทัวร์ทาคายาม่า ค้างคืนแบบโฮมสเตย์ที่ชิราคาวาโกะ ซึมซับวิถีชีวิตชุมชนมรดกโลกแห่งญี่ปุ่น

เมื่อนึกถึงการไปเที่ยวญี่ปุ่นในบรรยากาศแบบย้อนยุค คุณนึกถึงเมืองไหนบ้าง ?

หลายคนนึกถึงเมืองใหญ่อย่างเกียวโต (Kyoto) และนารา (Nara) ที่เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในทุกฤดูกาล

กับอีกหนึ่งสถานที่ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นก็คือ ทาคายาม่า (Takayama) เมืองเล็กที่่หลบเร้นอยู่ในอ้อมกอดแห่งขุนเขาทางตอนเหนือของจังหวัดกิฟุ (Gifu) ทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อในแง่การอนุรักษ์วิถีชีวิตเก่าแก่และบ้านเรือนแบบดั้งเดิมแห่งยุคเอโดะ ราวกับสามารถหยุดเวลาได้

บ้านเรือนสมัยเอโดะในเมืองทาคายาม่า

นอกจากนี้ ไม่ไกลจากทาคายาม่ายังมีอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวระดับมรดกโลกที่ควรค่าแก่การเดินทางไปเยือนให้จบในทริปเดียว ได้แก่ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ที่เรียงรายด้วยบ้านสไตล์กัชโชสึคุริ (Gassho-Zukuri) ที่มีลักษณะเป็นบ้านหลังคาทรงสูงดุจมือประนม ที่ยืนหยัดในรูปลักษณ์ดั้งเดิมมานานนับร้อยปี

หมู่บ้านชิราคาวาโกะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

LIVE TO LIFE อาสาพาสำรวจวิถีชีวิตของชาวฮิดะในบรรยากาศบ้านเมืองยุคเอโดะผ่านการเดินเยี่ยมชมตลาดเช้าริมแม่น้ำ อุดหนุนงานฝีมือที่สืบทอดมานานกว่าร้อยปีในร้านค้ายุคดั้งเดิมบนถนนสายเก่าแก่แห่งทาคายาม่า จากนั้นไปพักค้างคืนแบบโฮมสเตย์ที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ชุมชนโบราณที่ผสมผสานเสน่ห์แห่งวันวานให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันได้อย่างลงตัว

อรุณสวัสดิ์

ตลาดเช้าทาคายาม่า

ทาคายาม่า หรือถ้าจะเรียกให้ถูกต้องจริง ๆ ต้องเป็น ฮิดะ ทาคายาม่า (Hida - Takayama) เนื่องจาก ทาคายาม่า ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ภูเขาสูง ดังนั้น เพื่อเป็นการบ่งชี้ถึงพิกัดของเมืองซึ่งตั้งอยู่ในเทือกเขาฮิดะ (หรือเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือที่เรียกกันว่า Japan Alp) เมืองนี้จึงมีชื่อว่า ฮิดะ ทาคายาม่า นั่นเอง

ด้วยทำเลที่ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาสูงใหญ่อุดมด้วยป่าสนหนาทึบ ทำให้ทาคายาม่ามีสภาพภูมิศาสตร์ที่แยกโดดเดี่ยวออกมาจากเมืองอื่น วัฒนธรรมของที่นี่จึงมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะชื่อเสียงในฐานะหมู่บ้านช่างไม้ฝีมือประณีต ที่สืบทอดภูมิปัญญาในการแปรรูปไม้เนื้อดีให้เกิดเป็นงานศิลปะและเครื่องเรือนที่ขึ้นชื่อว่าคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น รวมถึงสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ทั้งวัดวาอารามไปจนถึงบ้านเรือนของผู้คน ที่คงความงดงามและมีเอกลักษณ์ตั้งแต่สมัยเอโดะจนถึงปัจจุบัน

ตลาดเช้าทาคายาม่า

ในอดีตทาคายาม่าเป็นเมืองที่คึกคักและมีการค้าที่เจริญรุ่งเรือง หนึ่งในวัฒนธรรมที่สืบทอดมานานกว่าสองร้อยปี คือ ตลาดเช้า ที่ชาวเมืองทาคายาม่าต่างก็นัดมาเจอกันที่ริมแม่น้ำมิยากาวะ (Miyagawa) ตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อนำพืชผลและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนของตัวเองมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน จนถึงเวลาราวเที่ยงวันตลาดจึงเริ่มวาย

ดังนั้น การไปเยือนทาคายาม่าจึงมิอาจสมบูรณ์แบบได้ หากคุณพลาดการไปเยือน ตลาดเช้าทาคายาม่า สัมผัสบรรยากาศน่ารักและเป็นกันเองของบรรดาพ่อค้าแม่ขายที่มาตั้งแผงขายสินค้าเรียงรายไปตามเส้นทางริมแม่น้ำมิยากาวะ ที่สดชื่นรื่นตาด้วยทิวต้นหลิวและซากุระที่สวยไม่ซ้ำกันในแต่ละฤดูกาล

ตลาดเช้าทาคายาม่ามีด้วยกัน 2 แห่ง ได้แก่ ตลาดเช้ามิยางาวะ (Miyagawa Morning Market) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิยางาวะ เริ่มตั้งแต่สะพานคาจิบาชิไปจนถึงสะพานยาโยอิบาชิ เป็นระยะทางราว 350 เมตร ที่มีทั้งร้านค้าแบบแผงลอยและเปิดหน้าบ้านเป็นร้านขายของ สินค้าส่วนใหญ่เป็นผลิตผลจากเกษตรกรในท้องถิ่น ของกินโฮมเมด และสินค้าแฮนด์เมดที่ชาวบ้านทำเอง

กาแฟ Cookie Cups

ไฮไลท์ของตลาดเช้ามิยางาวะ คือ ร้านกาแฟ Cookie Cups ที่เสิร์ฟกาแฟร้อนในถ้วยคุกกี้ขนาดกะทัดรัดน่ารัก ดื่มกาแฟหมดแล้วสามารถเติมวิปครีมที่เข้ากันกับรสชาติของถ้วยคุกกี้ สามารถเคี้ยวได้หมดทั้งถ้วยและวิปครีม เรียกว่าอร่อยจนคำสุดท้ายจริง ๆ 

ไปต่อกันที่อีกหนึ่งไฮไลท์ไม่ควรพลาด คือ การได้ลิ้มรสชาติอาหารโฮมเมดจากเนื้อวัวฮิดะ ซึ่งเป็นเนื้อวัวชั้นดีประจำท้องถิ่นในแถบนี้ ซึ่งถ้าไปกินตามร้านอาหาร ราคาก็จะสูงกว่าการมาชิมสารพัดเมนูเนื้อฮิดะในตลาดเช้าแบบนี้ ที่มีเมนูหลากหลายให้เลือกแวะซื้อแวะชิมได้ตลอดทาง เช่น เนื้อฮิดะย่างเสียบไม้ ราเมนหน้าเนื้อฮิดะ ทาโกยากิสอดไส้เนื้อฮิดะ ซาลาเปาเนื้อฮิดะ ฯลฯ

ตลาดเช้าอีกแห่งมีชื่อว่า ตลาดเช้าจินยะมาเอะ (Jinya-Mae Morning Market) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสะพานแดงนากาบาชิ มีจำนวนร้านค้าน้อยกว่า ส่วนใหญ่เป็นผักและผลไม้ตามฤดูกาล รวมถึงดอกไม้และเครื่องเทศต่าง ๆ แนะนำว่าควรอุดหนุนผลไม้ประจำฤดูกาลและรับประทานสด ๆ เดี๋ยวนั้น จะได้ซึมซับกับความอร่อยฉ่ำของเนื้อแท้ของวัตถุดิบจากธรรมชาติที่อร่อยจนลืมไม่ลง

ช้อปและชิมผลไม้สดใหม่ประจำฤดูกาล

ใครที่รู้สึกว่าการมาเดินช้อปและชิมอาหารอร่อยที่ตลาดเช้ายังไม่จุใจพอ อยากให้ถนนแห่งการจับจ่ายทอดยาวไกลกว่านี้ อย่ารอช้า ไปต่อกันที่ ถนนซันโนะมาจิ หรือ ถนนซันมะจิ (Sannomachi Street) ในย่านเมืองเก่าที่มีสารพันสิ่งน่าสนใจ เพลิดเพลินกับการเดินซอกแซกไปตามตรอกซอกซอยจนลืมเวลา

เดินเล่นบนถนนซันมะจิ

ย้อนเวลาสู่ยุคเอโดะ

ถนนซันมะจิ ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama Old Town หรือ ซันมาจิซูจิ) บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำมิยางาวะ อยู่ห่างจากสถานีทาคายาม่า (Takayama Station) 850 เมตร หรือใช้เวลาเดินจากสถานีไม่เกิน 15 นาที 

ตลอดสองข้างทางของถนนซันมะจิไม่ได้เป็นการจำลองบรรยากาศย่านค้าขายที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีตด้วยการสร้างเมืองขึ้นใหม่ แต่บ้านเรือนเก่าแก่ทุกหลังล้วนมีอายุเกินร้อยปี โดยได้รับการอนุรักษ์จากรัฐบาลญี่ปุ่น ทำให้บรรยากาศบนถนนซันมะจิอบอวบด้วยกลิ่นอายแห่งยุคเอโดะขนานแท้ นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยจึงนิยมเช่าชุดยูกาตะใส่เดินเล่น รวมถึงนั่งรถลากในเขตเมืองเก่า เพื่อให้ควรค่าแก่บรรยากาศที่คู่ควร

บรรยากาศย้อนยุคบนถนนซันมะจิ

ไม่เฉพาะการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมเท่านั้น วิถีชีวิตหรืออาชีพดั้งเดิมของแต่ละครอบครัวก็ได้รับการสืบทอดภูมิปัญญาของบรรพบุรุษและยังคงโลดแล่นได้อย่างมีชีวิตชีวา เช่น เครื่องเขินฮิดะชุนเค งานฝีมือแบบดั้งเดิมของภูมิภาคฮิดะที่สืบทอดมากว่า 400 ปี ที่มีผลิตภัณฑ์หลักเป็นถาดไม้และกล่องไม้เคลือบแล็กเกอร์ ซึ่งผลิตจากไม้ท้องถิ่นอย่างไม้ซาวาระ ไม้สนฮิโนกิ และต้นเกาลัด โดยต้องผ่านกระบวนการผลิตแสนประณีตมากกว่า 20 ขั้นตอน

ร้านขายเครื่องเขินฮิดะชุนเค

รวมถึง งานแกะสลักอิตโตะ-โบริ ศิลปะแกะสลักไม้ที่หลายครอบครัวในเมืองทาคาย่ามีความเชี่ยวชาญ และสืบทอดภูมิปัญญาในการค่อย ๆ บรรจงตอกสิ่วสลักเสลาลวดลายลงไปในเนื้อไม้ หนึ่งในนั้นคือ ครอบครัวของ ซึซึกิ โจโคคุ ที่ดำเนินกิจการมานานกว่า 80 ปี โดยเดิมเน้นเฉพาะงานแกะสลักไม้ที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นและศาสนา เมื่อตกทอดมาสู่ทายาทรุ่นปัจจุบันก็ยังคงรักษาแบบแผนดั้งเดิมเอาไว้ พร้อมกับสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ของตระกูลให้เหมาะกับชีวิตประจำวันของคนในยุคนี้

งานแกะสลักอิตโตะ-โบริ

โรงกลั่นสาเกเก่า เป็นอีกสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม เพราะสาเกเป็นหนึ่งในของดีประจำเมืองทาคายาม่า เอกลักษณ์ของโรงกลั่นสาเกเก่าสังเกตได้จากทางเข้าร้านที่จะห้อยลูกบอลซูกิดามะ (Sugidama) เป็นลูกบอลที่ทำจากกิ่งไม้ซีดาร์ และพร้อมเสมอในการเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวให้สามารถลองชิมเหล้าสาเก และซื้อติดมือเป็นของฝากโดยทั่วกัน

ถนนซันมะจิเต็มไปด้วยร้านรวงต่าง ๆ ให้สำรวจและจับจ่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านขนมดังโงะ ร้านชา คาเฟ่สไตล์คลาสสิก ร้านโซบะ ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านขายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่างรองเท้าเกี๊ยะไม้ ตะเกียบญี่ปุ่น เครื่องชามแฮนด์เมด ฯลฯ ดังนั้น ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงในการการเดินเที่ยวบนถนนเส้นนี้ถึงจะเก็บทุกรายละเอียดได้ครบ

ส่วนนักเดินทางสายวัฒนธรรมก็สามารถเพลิดเพลินไปกับ แกลเลอรีศิลปะฟูจิ (Fuji Art Gallery) อาคารไม้โบราณจัดแสดงศิลปะพื้นบ้านและข้าวของเครื่องใช้ในบ้านในอดีต รวมถึง พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และศิลปะทาคายาม่า (Takayama Museum of History and Art) ที่จัดแสดงเกี่ยวกับศิลปะเก่าแก่ของเมืองทาคายาม่าเอาไว้ครบถ้วน

ประตูซากุระแห่งศาลเจ้าฮาจิมัง

สำหรับย่านเมืองเก่าทางเหนือ มีสถานที่ที่น่าไปเยี่ยมชม ได้แก่ ศาลเจ้าฮาจิมัง (Hachiman Shrine) ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของเมืองทาคายาม่า ภายในศาลเจ้ามีพิพิธภัณฑ์คะระคุริ (Karakuri Museum) ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงตุ๊กตากล (Karakuri Ningyo) ที่ใช้แห่ในเทศกาล 

หมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ (Hida Folk Village)

สำหรับใครที่ไม่มีแผนจะไปเที่ยวต่อที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ สามารถสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของบ้านทรงกัชโชสึคุริได้ที่ หมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ (Hida Folk Village) อดีตหมู่บ้านเกษตรกรรมบนภูเขาที่มีอาคารเก่าแก่กว่า 30 หลัง หลังที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุกว่า 200 ปี แต่ละหลังจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้ชมแบบจัดเต็ม ทั้งการจัดแสดงเครื่องใช้ การตกแต่งภายในบ้านแต่ละหลัง และพื้นที่ไร่ทำสวนของคนในหมู่บ้าน ที่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ทุกห้องจนสามารถจินตนาการได้อย่างชัดเจนว่าคนในศตวรรษที่แล้วเขาใช้ชีวิตกันเช่นไร

การเดินทางไป Takayama

• จากนาโกย่า
  1. โดยรถไฟ : จากนาโกย่าด้วยรถไฟ JR ขบวน Limited Express Hida จากสถานี JR Nagoya – JR Takayama ใช้เวลา 140 นาที ราคา 3,350 เยน
  2. โดยรถบัสจาก สถานี JR Tokai Bus Nagoya หรือ Meitetsu Bus Center ไปลงที่ Takayama Nohi Bus Center ใช้เวลา 160 นาที 2,980 เยน
• จากโตเกียว 
  1. โดยรถไฟ Shinkansen : นั่งชินคันเซ็นมาลงที่นาโกย่าแล้วต่อรถไฟหรือบัสอีกทอดหนึ่ง
  2. โดยรถบัส : จาก Shinjuku Express Bus Terminal นั่ง Nohi Bus จากโตเกียวยาว ๆ ราว 5 ชั่วโมงครึ่ง (6,690 เยน)
• ข้อมูลรถบัสเพิ่มเติม: www.nouhibus.co.jp/english
• หมายเหตุ : ใช้ JR Rail Pass/Takayama Hokuriku Area Tourist Pass ขึ้นได้

กินอิ่มหลับสบายในมินชูกุแสนอบอุ่น

แห่งหมู่บ้านชิราคาวาโกะ

สัมผัสเสน่ห์แห่งยุคเอโดะกันต่อ โดยนั่งรถบัสออกจากทาคายาม่าราวหนึ่งชั่วโมง เพื่อย้อนเวลากลับไปสู่อดีตเมื่อสามร้อยกว่าปีที่แล้วใน หมู่บ้านชิราคาวาโกะ เอกลักษณ์ของบ้านหลังคาทรงสูงดุจมือประนมที่สวยไม่ซ้ำกันในแต่ละฤดูกาล 

หมู่บ้านชิราคาวาโกะเมื่อมองจากจุดชมวิว

เหตุผลที่บ้านทุกหลังในหมู่บ้านชิราคาวาโกะต้องทำจากหลังคามุงด้วยหญ้าและฟางข้าว และเป็นจั่วทรงสามเหลี่ยมที่สูงและแคบกว่าหลังคาบ้านทั่วไป จนดูคล้ายกับการประกบมือ ตามความหมายของชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า กัชโชสึคุริ ก็เพื่อให้หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักในฤดูหนาวเคลื่อนลงจากหลังคาได้ง่าย ไม่ทับถมจนทำให้บ้านพัง โดยบ้านกัชโชสึคุริที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1800 หรือในยุคเอโดะ 

การอนุรักษ์บ้านเรือนทุกหลังในหมู่บ้านชิราคาวาโกะให้อยู่ในสภาพเหมือนเดิมทุกประการ และใช้อยู่อาศัยได้จริง ทำให้หมู่บ้านชิราคาวาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1995 ร่วมกับหมู่บ้านโกคายามะ (Gokayama) ของจังหวัดโทยามะ (Toyama) ภายใต้ชื่อ หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิราคาวาโกะและโกคายามะ (Historic Villages of Shirakawa-go and Gokayama)

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาแวะที่ชิราคาวาโกะเพื่อเยี่ยมชมบ้านสไตล์กัสโชสึคุริ ถ่ายภาพทิวทัศน์สวย ๆ ของหมู่บ้านที่ห้อมล้อมด้วยขุนเขา ชิมขนมอร่อยประจำถิ่น แล้วออกเดินทางสู่จุดหมายอื่นต่อไป

แต่สำหรับใครที่อยากหยุดเวลาอยู่กับช่วงเวลาแห่งอดีตให้นานกว่านั้น แนะนำให้พักค้างคืนใน มินชูกุ (Minshuku) ซึ่งเป็นชื่อเรียกโฮมสเตย์ตามชนบทของญี่ปุ่น ซึ่งมักเป็นกิจการภายในครอบครัวที่แบ่งห้องภายในบ้านให้นักท่องเที่ยวเข้าพักตามวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม โดยมีบริการอาหารเช้าและเย็นเสร็จสรรพ

มินชูกุแห่งหมู่บ้านชิราคาวาโกะน่าจะเป็นหนึ่งในประสบการณ์พักผ่อนในโฮมสเตย์ที่พิเศษสุดครั้งหนึ่งในชีวิต กับการได้นอนซุกตัวในผ้านวมอุ่นบนฟูกนุ่ม ๆ หอมกลิ่นเสื่อทาทามิอ่อน ๆ ภายในบ้านหลังคาทรงสูงรูปมือประนมระดับมรดกโลก

ตื่นเช้ามาก็มีสำรับอาหารเซ็ตใหญ่ไว้ต้อนรับให้ท้องอิ่มจนพุงกาง เพราะโอบะซัง (หรือคุณป้า) ของแต่ละบ้านไม่ปล่อยให้อาคันตุกะท้องกิ่วแน่นอน สำรับอาหารส่วนใหญ่มักประกอบด้วยเนื้อย่าง ปลาย่างเกลือ เทมปุระ ซุปมิโสะ ข้าวสวยร้อน ๆ ที่ตักเติมได้ตลอด พร้อมด้วยผลไม้สดประจำฤดูกาล

การเข้าพักในมินชูกุยังเปิดโอกาสให้คุณได้ตื่นแต่เช้ามาสัมผัสความเงียบสงบของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเยือนตั้งแต่ตอนสายของวันเป็นต้นไป จึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่อยากเข้าถึงเสน่ห์ของวิถีชีวิตในแบบชิราคาวาโกะอย่างแท้จริง

การจองที่พักมินชูกุ (Minshuku)

• สามารถจองบ้านพักได้ที่ shirakawa-go.gr.jp หรือ  japaneseguesthouses.com

ของดีประจำถิ่นฮิดะ

อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าภูมิภาคนี้ขึ้นชื่อเรื่อง เนื้อฮิดะ ซึ่งเป็นเนื้อวัววากิวพันธุ์ขนดำที่เลี้ยงในภูมิภาคฮิดะ (Hida) จุดเด่นของเนื้อฮิดะ คือ ริ้วลายหินอ่อนเด่นชัดสวยงาม เมื่อเทียบคุณภาพกับเนื้อวัวชนิดอื่น ๆ เนื้อฮิดะจึงจัดอยู่ในระดับท็อปคลาสได้ไม่ยาก

ริ้วลายหินอ่อนของเนื้อฮิดะ

ในแถบนี้จึงมีร้านเนื้อฮิดะดัง ๆ เป็นจำนวนมาก โดยนิยมกินทั้งแบบสเต๊ก ปิ้งย่าง ชาบู หรือซูชิ และไม่จำกัดแค่การเป็นอาหารคาวหรือมื้อหนัก ๆ เท่านั้น เนื้อฮิดะยังแฝงกายเข้าไปอยู่ในขนมและของที่ระลึกต่าง ๆ เช่น มันฝรั่งแท่งทอดกรอบรสเนื้อวัวฮิดะย่าง ผงโรยข้าวรสเนื้อฮิดะ ฯลฯ สามารถเลือกซื้อเป็นของฝากคนทางบ้านได้แบบจุใจ

โฮบะมิโซะ

หนึ่งในเมนูท้องถิ่นของเมืองฮิดะและทาคายาม่าที่ควรหาโอกาสชิมให้ได้ คือ โฮบะมิโซะ เมนูที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของใบโฮบะ (Hoba) ที่ชาวบ้านเก็บมาจากบนภูเขาพร้อมปรุงด้วยมิโซะสูตรโฮมเมด นำไปย่างบนเตาจนความหอมแทรกซึมเข้าสู่ผัก เห็ด ฯลฯ นิยมกินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ บางร้านเสิร์ฟเป็น Appetizer ในเซ็ต หรือจัดมาให้กินคู่กับเนื้อฮิดะ ถือเป็นเมนูที่ราคาไม่แพง และอร่อยครบทั้งรูป รส และกลิ่นหอมเฉพาะถิ่นกิฟุ

ตุ๊กตาไร้หน้าซารุโบโบะ (Sarubobo Doll)

อีกหนึ่งของฝากขึ้นชื่อที่ใครเห็นเป็นอดซื้อไม่ได้ ก็คือ ตุ๊กตาไร้หน้าซารุโบโบะ (Sarubobo) โดย ‘ซารุโบโบะ’ เป็นคำท้องถิ่นที่มีความหมายว่า ลูกลิง สมัยก่อนตุ๊กตาชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องรางนำโชคเกี่ยวกับการคลอดบุตรและการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ อีกทั้ง คำว่า ‘ซารุ’ นอกจากจะหมายถึงลิงแล้ว ยังพ้องเสียงกับคำที่มีความหมายว่า จากไป ซารุโบโบะจึงเป็นเครื่องรางที่ช่วยให้ความเจ็บป่วยจากไป หรือภัยอันตรายจากไปได้เช่นกัน

ปัจจุบันซารุโบโบะเป็นทั้งมาสคอตและสินค้ายอดนิยมของฮิดะที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ต้องเจอตุ๊กตาลิงไร้หน้าวางขายแทบทุกร้าน และในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา ขนม ปากกา พวงกุญแจ ฯลฯ โดยดั้งเดิมซารุโบโบะจะมีแค่สีแดง ปัจจุบันมีหลากสีสันที่มาพร้อมความหมายมงคล เช่น สีแดงช่วยคุ้มครองครอบครัวให้ปลอดภัย สีเหลืองช่วยให้ร่ำรวยเงินทอง สีน้ำเงินช่วยเรื่องการเรียน ฯลฯ

นกฮูกแกะสลัก

อีกหนึ่งของฝากน่ารักจากถิ่นฮิดะ ได้แก่ นกฮูกแกะสลัก ด้วยความที่พื้นที่ในแถบนี้มีนกฮูกอาศัยอยู่มากมาย และนกฮูกในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า "ฟุคุโร" ซึ่งสามารถแปลว่า "ไร้ความลำบาก" ได้เช่นกัน นกฮูกแกะสลักจึงเป็นเครื่องรางแฝงคำอวยพรให้ไร้ความลำบากในชีวิต ที่เป็นของฝากยอดนิยมไม่แพ้ซารุโบโบะเลย

การเดินทางระหว่างทาคายาม่า - หมู่บ้านชิราคาวาโกะ

• รถบัสที่ให้บริการในเส้นทาง Takayama – Shirakawa-go – Kanzawa/Toyama มีอยู่ 3 บริษัท คือ Nohi Bus, Hokutetsu และ Toyama Chiho Tetsudo ซึ่งจะต่างกันที่สีของรถบัส บริษัทที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคยที่สุด ได้แก่ รถบัสสีเขียวของ Nohi Bus 
• รถบัสที่วิ่งจากทาคายาม่าไปยังชิราคาวาโกะ (Takayama → Shirakawa-go) เริ่มวิ่งตั้งแต่เวลา 07.50 - 17.50 น. ในวันหยุด และเวลา 07.50 - 19.00 น. ในวันธรรมดา
• รถบัสที่วิ่งจากชิราคาวาโกะไปทาคายาม่า (Shirakawa-go → Takayama) เริ่มวิ่งตั้งแต่เวลา 06.43 - 17.30 น. ในวันหยุด และเวลา 06.43 - 19.00 น. ในวันธรรมดา มีรถออกทุกชั่วโมง บางคันต้องจองที่นั่งก่อนและบางคันก็ไม่ต้องจอง (สามารถไปรอขึ้นรถได้เลย) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 50 นาที 
• เช็กตารางเดินรถได้ที่ www.nouhibus.co.jp
• หากต้องการจองตั๋วล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ สามารถจองได้ที่เว็บไซต์ japanbusonline.com (จองล่วงหน้าได้ 1 เดือน)
• ผู้ที่ใช้พาส Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass หรือ SHORYUDO Highway Bus Ticket จะไม่สามารถจองทางออนไลน์ได้ ต้องไปออกตั๋วที่ท่ารถซึ่งจะสามารถจองล่วงหน้าได้ในช่วงที่ใช้งานของพาสนั้น ๆ หรือโทรจองได้ที่ Nohi Bus Reservation Center (0577)32-1688 (เวลา 09.00 - 18.00 น.) และ Hokurikutetsudou Reservation Center (076)234-0123 (เวลา 09.00 - 18.00 น.)

อ้างอิง

• แคทลียา ภิญโญ. Takayama : เที่ยวทาคายาม่า เมืองเก่าสุดผ่อนคลายในจังหวัดกิฟุ. https://bit.ly/3C1wINn
• BECOS. คู่มือแนะนำ “เครื่องเขินฮิดะชุนเค” งานฝีมือล้ำค่าของญี่ปุ่น. https://bit.ly/3YHPd2e
• Donny Kimball. Heavenly Hida-Takayama | A Famed Part of Gifu Prefecture. https://bit.ly/4fp6Xof
• K-ZY. [รีวิว] Hiramatsu ที่พักแบบ Minshuku (Homestay) หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go).  https://bit.ly/3AgE7aV