เปิดประสบการณ์ Digital Nomad ที่ Tbilisi ปักหมุดสเปซน่าทำงานและกิจกรรมห้ามพลาดในจอร์เจีย

07 May 2025 - 7 mins read

Travel / World

Share

ใครที่ทำงานแบบ Digital Nomad ได้ และกำลังมองหาจุดหมายเหมาะ ๆ ในการเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกับกาง Laptop ทำงานไปด้วยในสไตล์ Work-Life Integration

 

นาทีนี้ไม่มีที่ไหนเหมาะเท่า จอร์เจีย อีกแล้ว เพราะประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอารยธรรมหลากหลาย ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดกับเอเชีย ยุโรป และรัสเซีย บนพิกัดที่ราวกับสวรรค์บันดาล ทำให้ผืนแผ่นดินจอร์เจียอุดมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยชวนตะลึงกระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

 

จอร์เจียยังกลายเป็นจุดหมายยอดฮิตของชาว Digital Nomad ที่อยากปักหลักใช้ชีวิตที่นั่นแบบยาว ๆ ด้วยการเปิด Free Visa ให้กับผู้คนใน 95 ประเทศ รวมถึงคนไทยที่สามารถเดินทางไปเที่ยวจอร์เจียได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าและอยู่ได้นานถึง 365 วัน

 

หากอยากรู้ว่าจอร์เจียมีเสน่ห์อะไรที่มัดใจนักท่องเที่ยวและชาว Digital Nomad ได้อยู่หมัด ลองเริ่มต้นทำความรู้จักจากการซอกแซกท่องเที่ยวทั่วเมืองหลวงอย่าง ทบิลิซี (Tbilisi) ผ่านบทความนี้ ที่แจกพิกัด Co-Working Space คาเฟ่ ร้านอาหาร โรงแรม ตลาดของเก่า ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวระดับตำนานประจำเมือง ให้ได้หลงเสน่ห์จอร์เจียเบื้องต้น ก่อนตัดสินใจออกเดินทางไปสัมผัสวิถีจอร์เจียนด้วยตัวเอง

 

Fabrika และ Stamba Hotel
พื้นที่สร้างสรรค์แห่งการทำงาน กินดื่ม และพักผ่อนหย่อนใจ

 

เสน่ห์ของทบิลิซี (Tbilisi) คือการผสมผสานระหว่างโลกเก่าและความคิดสร้างสรรค์แบบใหม่ ๆ เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ทุกเส้นทางในกรุงทบิลิซีแฝงไว้ซึ่งเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ และความทันสมัยให้ไล่สายตามองได้อย่างไม่รู้เบื่อ

Fabrika

 

โดยเฉพาะอาคารที่ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยที่จอร์เจียยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต ที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงทุกวันนี้ โดยหลายแห่งได้รับการปรับโฉมใหม่และเติมชีวิตชีวาให้กลับมามีความหมายอีกครั้ง หนึ่งในนั้นคือ Fabrika อดีตโรงงานเย็บผ้าที่เคยเปิด กิจการระหว่างปี ค.ศ.1970 - 1980 ในยุคโซเวียต ที่ถูกปรับโฉมใหม่ภายใต้โครงสร้างเดิม ให้กลายเป็นทั้ง โฮสเท็ล คาเฟ่ บาร์ สตูดิโอสร้างงานศิลปะ ร้านค้า ร้านตัดผม สถาบันการศึกษา และ Co-Working Space โดยมีลานโล่งใจกลางพื้นที่สำหรับจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ ดึงดูดให้ทั้งคนในเมืองทบิลิซีและนักท่องเที่ยวต่างก็อยากมาเช็กอิน เพราะที่นี่มีทุกกิจกรรมให้ทำตั้งแต่วันยันค่ำ

บรรยากาศการทำงานในทุกมุมที่ Fabrika

 

โดยเฉพาะชาว Digital Nomad ที่เลือกพัก ณ โฮสเท็ลแห่งนี้ ที่มักจะได้รับพลังในการทำงานมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะ Fabrika ดึงดูดนักเดินทางที่ทำงานไปด้วยจากทั่วโลกมาพำนักใน Dorm แบบระยะยาว บรรยากาศของการสังสรรค์ พูดคุย แลกเปลี่ยนทัศนะต่าง ๆ จึงอบอวลภายในทุกมุม ที่นี่ออกแบบพื้นที่ให้นั่ง ๆ นอน ๆ เอกเขนกพักผ่อนและทำงานไปด้วยได้สบาย ๆ 

ภาพ : fabrikatbilisi.com

 

หรือถ้าอยากนั่งทำงานแบบเป็นกิจจะลักษณะ สามารถใช้บริการได้ที่ Impact Hub ซึ่งเป็น Co-Working Space ที่มีสาขาทั่วโลกและเป็นจุดนัดพบของนักทำงานแบบสร้างสรรค์ที่มักมารวมตัวกันที่นี่ แค่กาง Laptop ออกแล้วนั่งทำงานเพลิน ๆ ก็ได้รับการจุดไฟในการทำงานได้แบบไม่รู้ตัว

ตลาดนัดหนังสือที่ Fabrika
ภาพ : fabrikatbilisi.com

 

นอกจากจะมีพื้นที่ใช้สอยทั้งกิน ดื่ม พักผ่อน และทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว Fabrika ยังขยันจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ ไม่เว้นแต่ละเดือน มีทั้งตลาดนัด เทศกาลหนังสือ นิทรรศการศิลปะ เวิร์กชอป ฯลฯ ใครอยากเข้าถึงวิถีชีวิตแบบคนเมืองหลวงสไตล์จอร์เจียน เช็กอินที่นี่ที่เดียวคุ้มค่าแน่นอน

 

Fabrika
ที่ตั้ง : 8 Egnate Ninoshvili Street, Tbilisi, Georgia
โทร : +995 32 202 03 99
Website : fabrikatbilisi.com
Facebook : Fabrika • ფაბრიკა 

Stamba Hotel
ภาพ : stambahotel.com

 

อีกพิกัดที่เหมาะแก่การไปปลุกไฟในการทำงาน ได้แก่ Stamba Hotel อดีตโรงพิมพ์เก่าในยุคโซเวียตที่สร้างขึ้นตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930 ที่พลิกโฉมเป็นโรงแรมสุดเท่ หนึ่งในสมาชิกของ Design Hotels ที่โดดเด่นด้วยการนำเสนอเอกลักษณ์ของความเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ Brutalist ซึ่งสามารถพบได้ในอีกหลายอาคารในกรุงทบิลิซี
 

ภาพ : stambahotel.com

 

Stamba Hotel โดดเด่นตั้งแต่ภายนอกที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้เขียวขจี เมื่อก้าวเข้าไปภายในอาคารก็ดึงดูดทุกสายตาด้วยโถงเพดานสูงโปร่ง บนผนังเรียงรายด้วยหนังสือกว่า 80,000 เล่ม บางมุมมีการนำเครื่องพิมพ์เก่า และสายพานลำเลียงหนังสือพิมพ์ในยุคดั้งเดิมมาประดับตกแต่ง เพื่อเชื่อมโยงและบอกเล่าถึงอดีตของที่นี่ที่เคยเป็นโรงพิมพ์มาก่อน

D Block Workspace
ภาพ : stambahotel.com

 

สำหรับสเปซที่เหมาะแก่การทำงานของที่นี่ คือ D Block Workspace ศูนย์รวมของคนทำงานครีเอทีฟ นักลงทุน ผู้ประกอบการ ศิลปิน ฯลฯ ที่นิยมมาทำงานที่นี่ ชาว Digital Nomad ที่วางแผนอยู่ทบิลิซียาว ๆ ควรค่าแก่การไปนั่งทำงานและจุดไฟแห่งความคิดสร้างสรรค์ที่นี่

ภาพ : stambahotel.com

 

หากอยากเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน สามารถเดินไปเยี่ยมชม The Tbilisi Photography & Multimedia Museum (TPMM) ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ Stamba Hotel พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยแห่งนี้จัดแสดงงานภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว และ New Media ของศิลปินทั้งในจอร์เจียและในแถบ South Caucasus ที่นิยมมาจัดแสดงที่นี่หมุนเวียนต่อเนื่องตลอดทั้งปี  

 

Stamba Hotel
ที่ตั้ง : 14 Kostava Street, Tbilisi, Georgia
โทร : +995 32 202 11 99
Website : stambahotel.com
Facebook : Stamba Hotel

Kvarts Coffee Shop
ภาพ : facebook.com/Kvartscoffee

 

กาแฟกับคนทำงานเป็นของคู่กัน แนะนำหนึ่งในร้านกาแฟขวัญใจชาวทบิลิซีรวมถึงนักท่องเที่ยวที่ต้องหาโอกาสไปเยือน Kvarts Coffee Shop คาเฟ่เล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บนถนนสายหลักอย่าง Shota Rustaveli เพราะที่นี่ไม่ได้เสิร์ฟกาแฟที่เขียนชื่อบนแก้วเหมือนคาเฟ่อื่น ๆ แต่บาริสต้าของ Kvarts Coffee Shop จะตวัดปากกาวาดรูปเหมือนของลูกค้าแต่ละคนบนแก้วกาแฟ (Portrait on the Cup) ถือเป็น Gimmick ที่สร้างความประทับใจและเรียกรอยยิ้มให้กับทุกคนที่มาเยือน

 

Kvarts Coffee Shop 
ที่ตั้ง : 26 Shota Rustaveli Street, Tbilisi, Georgia
โทร : +995 571 15 07 15
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น.
Facebook : Kvarts coffee / კვართს კოფე

 

3 ย่านที่พักน่าปักหมุดใน Tbilisi

 

ย่านที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวในทบิลิซี มีให้เลือกหลากหลายขึ้นอยู่วัตถุประสงค์และงบประมาณ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนทบิลิซีเป็นครั้งแรกมักเลือกพักในย่าน Liberty Square (หรือ Freedom Square) แลนด์มาร์กใจกลางเมืองหลวงที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของน้ำพุใจกลางวงเวียน มีอนุสาวรีย์ St.George สีทองอร่ามตาเป็นจุดสังเกต

 

บริเวณโดยรอบรายล้อมด้วยตึกโบราณสไตล์นีโอคลาสสิกทาสีเหลืองนวลสวยงามสะอาดตา ชั้นล่างของตึกถูกดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ ฯลฯ ด้านหน้าตึกเป็นพื้นที่ทางเท้าที่กว้างขวาง จึงมักเป็นพื้นที่สาธารณะในการทำกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เช่น การแสดงเปิดหมวก เล่นดนตรีพื้นเมือง ฯลฯ สำหรับโรงแรมในย่านนี้เป็นโรงแรมระดับกลางที่ได้มาตรฐานสากล เช่น The Ibis Style Tbilisi, Aqua Hotel, IOTA Hotel Tbilisi ฯลฯ

Liberty Square

 

หากจะมุ่งหน้าไปยัง Liberty Square แน่นอนว่าต้องใช้เส้นทาง Rustaveli Avenue หนึ่งในถนนเส้นหลักใจกลางกรุงทบิลิซี สร้างโดยจักรวรรดิรัสเซียในศตวรรษที่ 19 เดิมชื่อถนนโกโลวิน (Golovin Avenue) เป็นถนนที่มีความกว้างเป็นพิเศษ ทางเดินเท้ากว้างพอ ๆ กับถนนหนึ่งเลน ตลอดเส้นทางร่มรื่นด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ มีม้านั่งให้พักผ่อนหย่อนใจ สองฟากถนนเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญ ๆ หลายหลังซึ่งสร้างขึ้นในยุคเดียวกับถนน จึงเป็นสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกที่หรูหราโอ่อ่า ทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูระดับหลายดาว อาทิ Biltmore Hotel, Radisson Blu Iveria ฯลฯ ด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองจึงสะดวกในการเดินเที่ยวสถานที่สำคัญโดยรอบ ที่มีทั้งพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจอร์เจีย โรงละคร และโรงโอเปราแห่งชาติ

Georgian National Opera Ballet Theater บนถนน Rustaveli Avenue

 

สำหรับนักเดินทางที่ต้องการปักหลักเพื่อทำงานและท่องเที่ยวในจอร์เจียเป็นระยะเวลานาน แนะนำให้เลือกที่พักในย่านเมืองเก่า Tbilisi Old Town and Mtatsminda เพราะเต็มไปด้วยตัวเลือกของโรงแรม โฮสเท็ล โฮมสเตย์ และ Airbnb หลากหลายในราคาย่อมเยา

โรงแรมในย่าน Tbilisi Old Town

 

เอกลักษณ์ของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ในย่านนี้เป็นที่รู้จักในนาม Italian Courtyard จุดเด่นคือลานหน้าบ้านที่มักใช้เป็นพื้นที่ในการพบปะพูดคุยกันระหว่างเพื่อนบ้านในละแวก โดยบ้านเหล่านี้สร้างขึ้นตามตำราสถาปัตยกรรมเปอร์เซียโบราณ เรียกว่า Caravanarias (คาราวานาเรส) หรือโรงแรมสำหรับพ่อค้าในยุคเส้นทางสายไหม ลักษณะของตัวบ้านจึงมีห้องเป็นจำนวนมาก และมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่สำหรับรวมตัวทำกิจกรรมต่าง ๆ

บ้านเรือนเก่าแก่ในย่าน Sololaki

 

จนกระทั่งจอร์เจียถูกกองทัพแดงของสหภาพโซเวียตเข้ายึดครองอำนาจในทศวรรษที่ 1920 พรรคคอมมิวนิสต์จึงเริ่มดำเนินการยึดบ้านหลังใหญ่จากกลุ่มพ่อค้านายทุนในเมืองทบิลิซี อดีตบ้านพักของบรรดาคหบดีจึงถูกจัดสรรแบ่งพื้นที่เป็นบ้านพักอาศัยสำหรับครอบครัวคนยากจนจากเมืองต่าง ๆ ที่เดินทางมางานทำในทบิลิซี ดังนั้น เมื่อหลาย ๆ บ้านมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันจึงเกิดเป็นสังคมที่ใกล้ชิดสนิทสนมราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน

โรงแรมในย่าน Tbilisi Old Town

 

ส่วนที่มาในการเรียกชื่อบ้านพักเหล่านี้ว่า Italian Courtyard คาดว่าเป็นผลพวงของกระแสอันทรงพลังในยุค 50’s อย่างภาพยนตร์อิตาลีที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง Our Courtyards (1958) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวละครหลากหลายอาชีพที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน และมักจะระบายเรื่องราวชีวิตของตนให้เพื่อนบ้านฟัง ณ ลานระเบียงหน้าบ้าน ชาวจอร์เจียนในยุคนั้นจึงค่อย ๆ ซึมซับทัศนคติ บุคลิก และพฤติกรรมในแบบ Mediterranean Lifestyle ของชาวอิตาเลียนในยุคโซเวียตมาใช้ในชีวิตประจำวัน

 

ทุกวันนี้การทักทายในหมู่เพื่อนบ้านหรือจับกลุ่มนั่งคุยกันอย่างออกรสที่ลานบ้านยังคงมีให้เห็นในเขตเมืองเก่า ด้วยสภาพแวดล้อมของตัวบ้านที่เอื้ออำนวย ในขณะที่คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เริ่มหันไปใช้ชีวิตแบบบ้านใครบ้านมันกันมากขึ้น ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่ยังอยากเข้าถึงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไม่ควรพลาดที่พักในย่านเมืองเก่า เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของชาวจอร์เจียนได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

 

เดินเท้าสำรวจย่านเก่าและเมืองใหม่ใจกลางกรุง

 

ไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวทบิลิซีแค่วันเดียว อยู่ยาวเป็นเดือน หรือนานครบปี แนะนำว่าไม่ควรพลาดการสำรวจย่านใจกลางเมืองหลวงที่สวยคลาสสิกแห่งนี้ ที่สามารถเดินทัวร์เพลิน ๆ ได้แบบไม่เหนื่อย เพราะทั้งสภาพอากาศและความสวยของอาคารบ้านเรือนนั้นชวนให้รู้สึกเพลิดเพลินตลอดเส้นทาง และที่ดีไปกว่านั้นคือ โบราณสถานทุกแห่งสามารถเข้าชมได้ฟรี ไม่เสียค่าเข้าแต่อย่างใด ถ้าพร้อมแล้ว ออกเดินเที่ยวทบิลิซีกันเลย

 

แนะนำให้เริ่มเดินจาก Liberty Square มุ่งหน้าไปยังย่านเมืองเก่า Tbilisi Old Town ที่ห่างกันราว 700 เมตร เพื่อไปเช็กอินที่ หอนาฬิกาเอียง (The Leaning Tower of Tbilisi) ซึ่งตั้งอยู่ติดกับโรงละครหุ่นกระบอก Rezo Gabriadze Marionette Theater ของ Rezo Gabridze ศิลปินคนสำคัญของจอร์เจีย ผู้ออกแบบหอนาฬิกาเอียงแห่งนี้ ที่ทุกต้นชั่วโมงจะมีตุ๊กตานางฟ้าค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกมาตีระฆังบอกเวลา พิเศษกว่านั้นคือ เวลาเที่ยงวันกับหนึ่งทุ่มตรง จะมีการแสดง Puppet Show ในชุด Circle of Life เป็นไฮไลต์ในทุกวัน สมศักดิ์ศรีโรงละครหุ่นกระบอกแห่งแรกในทบิลิซีที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1981

หอนาฬิกาเอียง (The Leaning Tower of Tbilisi)

 

เดินจากหอนาฬิกาเอียงไปราว 400 เมตรจะถึงอีกจุดเช็กอินอย่าง สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace) สะพานข้ามแม่น้ำ Mtkvari ทำหน้าที่เชื่อมย่านเมืองเก่ากับเมืองใหม่ของทบิลิซีเข้าด้วยกัน ตัวสะพานดีไซน์ด้วยเส้นสายล้ำยุครูปทรงโค้งทรงแปลกตา โครงสร้างทำจากเหล็กกล้าและแก้วกระจกใส ออกแบบโดย Michele De Lucchi สถาปนิกชาวอิตาเลียน เปิดใช้งานตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 เป็นต้นมา


อีกฟากของสะพานแห่งสันติภาพ คือ Rike Park สวนสาธารณะริมน้ำที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวทบิลิซี ที่มีอีกหนึ่งอาคารดีไซน์สะดุดตารูปร่างคล้ายอุโมงค์ยักษ์แบบคู่ ที่นี่คือ Rike Park Concert Hall & Exhibition Center สถานที่จัดแสดงนิทรรศการและโรงละคร ออกแบบโดย Studio Fuksas บริษัทสถาปนิกสัญชาติอิตาลีอีกเช่นกัน

สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace) และ  Rike Park

 

พักผ่อนหย่อนใจที่ Rike Park เสร็จเรียบร้อย แนะนำให้เดินไปยังสถานี Cable Car ซึ่งอยู่ติดกับ Air Balloon สีขาวลูกโตที่ลอยเด่นเป็นสง่า เพื่อที่จะนั่ง Cable Car ชมวิวทบิลิซีจากมุมสูง ราคาต่อเที่ยวเพียง 2.5 ลารี (ประมาณ 30 บาท) หรือใครที่ซื้อบัตร Metro Money สำหรับใช้ขึ้นรถเมล์และรถไฟใต้ดินอยู่แล้ว และมีเงินเหลือในบัตร สามารถใช้บัตร Metro Money สแกนเข้าใช้บริการได้เช่นกัน แนะนำว่าควรซื้อแค่ขาขึ้นขาเดียว และใช้วิธีเดินลงในขากลับเพื่อแวะชมจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ในย่านเมืองเก่า

 

จุดที่ Cable Car พานักท่องเที่ยวขึ้นไปเยือน คือ พระแม่แห่งจอร์เจีย (Mother of Georgia) รูปเคารพสำคัญของชาวจอร์เจียที่ยืนสูงเด่นเป็นสง่าบนยอดเขา Sololaki พระแม่แห่งจอร์เจียสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1958 ในวาระที่เมืองทบิลิซีมีอายุครบ 1,500 ปี

Mother of Georgia

 

Mother of Georgia สื่อถึงจิตวิญญาณของชาวจอร์เจียทั้งชาติก็ว่าได้ โดยมือข้างซ้ายที่ถือถ้วยไวน์นั้นสื่อถึงความเป็นชาวจอร์เจียนขนานแท้ที่นิยมต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยการเสิร์ฟไวน์ชั้นดี ในขณะที่มือขวาซึ่งจับดาบอยู่ในมือนั้นสื่อหมายโดยนัยถึงใครก็ตามที่มาเยือนโดยมุ่งร้าย พระแม่ก็พร้อมจะใช้ดาบฟาดฟันด้วยหัวใจที่เด็ดเดี่ยว ไม่เกรงกลัวใคร

Narikala Fortress

 

ชมวิวเมืองมุมสูงจากบริเวณฐานของ Mother of Georgia จนอิ่มเอมแล้ว ก็ได้เวลาเดินลัดเลาะลงไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในย่านเมืองเก่าของทบิลิซี ไล่มาตั้งแต่ Narikala Fortress ป้อมปราการโบราณประจำเมืองที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ด้านในมีโบสถ์ St.Nicholas ให้เยี่ยมชมศิลปะสวย ๆ ภายในโบสถ์

 

จากป้อมปราการเมื่อเดินตามเส้นทางมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับถนน Botanikuri ที่ตั้งของย่านโรงอาบน้ำโบราณ Abanotubani ที่คึกคักด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวที่แวะมาเพื่อถ่ายรูป จิบกาแฟ จิบไวน์ หรือใช้บริการแช่บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ซึ่งอุดมด้วยกำมะถันและแร่ธาตุนานาชนิดที่ช่วยในการบำรุงผิวพรรณและรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้

ย่านโรงอาบน้ำโบราณ Abanotubani

 

หากจะกล่าวว่าบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติคือต้นกำเนิดของเมืองนี้ก็ไม่ผิดจากความจริงแต่อย่างใด เพราะทบิลิซี (Tbilisi) มีรากศัพท์มาจากคำว่า tpili ในภาษาจอร์เจียโบราณ ซึ่งมีความหมายว่า อบอุ่น Tbilisi จึงแปลว่า สถานที่อบอุ่น ซึ่งพิกัดนี้ถูกค้นพบในศตวรรษที่ 5 เมื่อเหยี่ยวทรงเลี้ยงของกษัตริย์วาคตัง กอร์กาซาลี (Vakhtang Gorgasali) แห่งไอบีเรีย บังเอิญพลัดตกลงไปยังเมืองนี้ เป็นเหตุให้มีการค้นพบแหล่งน้ำพุร้อน ก่อนที่ทบิลิซีจะได้รับการสถาปนาเป็นเมืองหลวงใหม่ในเวลาต่อมา

โดมที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงอาบน้ำโบราณ

 

โรงอาบน้ำในย่านนี้มีให้เลือกทั้งแบบสาธารณะ คือ นั่งแช่รวมกับคนอื่น ๆ โดยแยกห้องระหว่างชายและหญิง (ราคาเริ่มต้นประมาณ 200 บาท) และแบบส่วนตัว ที่เลือกได้ว่าจะแช่แบบเดี่ยว แบบคู่ หรือแบบกลุ่ม 4-6 คน (ราคาเริ่มต้นประมาณ 900 บาท) ซึ่งไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องถอดเสื้อผ้าออกหมด เพราะที่นี่อนุญาตให้ผู้หญิงนุ่งบิกินี และผู้ชายใส่กางเกงในหรือกางเกงว่ายน้ำแช่ในโรงอาบน้ำได้แบบไม่ต้องเขิน

อ่างอาบน้ำกำมะถัน

 

ชาว Digital Nomad ที่นั่งทำงานติดต่อกันมาหลายวัน ไม่ควรพลาดการไปใช้บริการแช่น้ำร้อนในโรงอาบน้ำโบราณเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเติมแร่ธาตุเข้าสู่ผิว โดยวิธีการแช่น้ำของที่นี่จะเริ่มแช่ตัวในอ่างอาบน้ำกำมะถัน ซึ่งมีอุณหภูมิร้อนจัด ไม่ควรแช่เกิน 15 นาที จากนั้นขึ้นมาพัก หรือแช่ตัวในอ่างน้ำเย็นจัด หรือจะตักน้ำราดตัวหรือใช้ฝักบัวก็ได้ แล้วค่อยลงแช่ในอ่างกำมะถันต่อ สลับกันไปอย่างนี้จนครบเวลา

 

ใครอยากสัมผัสบรรยากาศของโรงอาบน้ำที่เก่าแก่ที่สุด แนะนำ Gulo’s Thermal Spa หรือถ้าอยากได้อารมณ์หรูหรา มีสีสันขึ้นมาอีกนิด ต้องไปที่ Chreli-Abano Sulfur Bath and Spa (หรือในอีกชื่อคือ Orbeliani Baths) ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง เว็บไซต์

Metekhi St. Virgin Church

 

อีกหนึ่งย่านเมืองเก่าที่ไม่อยากให้พลาด คือ ย่านเมืองเก่าเมเตห์คี (Metekhi) ที่ตั้งของ Metekhi St. Virgin Church โบสถ์เก่าแก่อายุราว 800 ปีที่อยู่บนผาสูงริมแม่น้ำคูรา (Kura River) อดีตเคยถูกใช้เป็นคุกในยุคของราชวงศ์ซาร์ส ต่อมาในยุคโซเวียตถูกปรับเปลี่ยนเป็นโรงละคร จนกลายมาเป็นโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ในปัจจุบัน

มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi)

 

จากตรงนี้สามารถเห็นวิวเมืองทบิลิซีแบบ Panorama เก็บครบทั้งวิวพระแม่แห่งจอร์เจีย ป้อมปราการ Narikala ย่าน Abanotubani และ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi) โบสถ์หลังใหญ่ที่สุดในจอร์เจียสีเหลืองส้มอมทองสวยโดดเด่น เป็นโบสถ์อีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์ (Eastern Orthodox) ที่สูงติดอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งด้วยขนาดที่สูงใหญ่ระดับนี้ ทำให้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของทบิลิซีก็สามารถมองเห็นมหาวิหารหลังนี้อยู่เสมอ

 

ชอปปิงของโบราณในย่านตลาดเก่า


อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ทำไม่ได้เมื่อไปเยือนต่างบ้านต่างเมือง ก็คือ การเดินสำรวจตามย่านตลาดร้านค้าต่าง ๆ โดยในเมืองทบิลิซีมีทั้งตลาดนัดและตลาดเก่าแก่ที่น่าสนใจหลายแห่งด้วยกัน ขอคัดมาแนะนำ 2 ตัวเลือกที่รับรองว่าถูกใจทั้งคนชอบของเก่าและของเก๋อย่างแน่นอน

Meidan Bazaar

 

ตลาดแห่งแรก ได้แก่ Meidan Bazaar ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินที่ Meidani Square จัตุรัสเก่าแก่ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมในอดีต ปัจจุบันยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายแบบดั้งเดิมในฐานะแหล่งขายของฝาก Made in Georgia ขนานแท้ ไล่มาตั้งแต่ไวน์จอร์เจียน หรือที่เรียกกันว่า Chacha นอกจากนี้ยังมีบรั่นดีดั้งเดิมของจอร์เจีย หรือว้อดก้าองุ่น ไปจนถึง Churchkhela ขนมพื้นเมืองทำจากน้ำองุ่นและน้ำผลไม้ต่าง ๆ รสชาติหวานอ่อน ๆ และมีหลากสีสันตามสีของน้ำผลไม้ที่ใช้เป็นวัตถุดิบ

Churchkhela แขวนเรียงรายให้เลือกชิมก่อนซื้อ

 

นอกจากนี้ก็ยังเต็มไปด้วยของฝากครบครัน ทั้งเครื่องชามรามไห เครื่องประดับ เครื่องดนตรี โปสการ์ด ภาพวาด ฯลฯ การเดินชมตลาดและเลือกซื้อของที่มีเอกลักษณ์เหล่านี้จะทำให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์ของจอร์เจียอย่างใกล้ชิด และเป็นการเก็บความทรงจำจากการเดินทางกลับบ้านได้อย่างดี

 

อย่าลืมเผื่อเวลาในการแวะไปเดินชอปปิง รับรองว่าจะได้ของฝากและของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใคร!

Dry Bridge Flea Market

 

ส่วนใครชอบเดินตลาดนัด ไม่ควรพลาด Dry Bridge Flea Market ตลาดขายของเก่าแบกะดิน อยู่แถวสะพาน Saarbrucken หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า Dry Bridge เปิดทำการทุกวัน เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลาย อารมณ์คล้ายคลองถมหรือตลาดรถไฟของบ้านเรา เพราะมีทั้งเหรียญเก่า รูปปั้น หม้อชงกาแฟโบราณ กล้อง เทป ซีดี หนังสือ ภาพวาด เครื่องประดับ ฯลฯ รวมสารพัดข้าวของแปลกตาราวกับพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง โดยเฉพาะของใช้ตั้งแต่ยุคสงครามโซเวียต สามารถซื้อหาและต่อรองราคาได้ตามชอบใจ

 

Sofia Melnikova’s Fantastic Dougan
ชิมอาหารตำรับจอร์เจียนแท้ ณ ร้านในสวนลับ

 

ว่ากันด้วยอาหารการกินที่จอร์เจีย สิ่งแรกที่ขึ้นชื่อคือ ไวน์ ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมที่ชาวจอร์เจียนภาคภูมิใจ เผลอ ๆ ทันทีที่เดินทางถึงเมืองทบิลิซี คุณอาจได้จิบไวน์ก่อนดื่มน้ำเปล่าก็เป็นได้ โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าไวน์ถือกำเนิดในอาณาจักรนี้มานานกว่า 8,000 ปี หรือก่อนที่จอร์เจียจะเป็นประเทศเสียอีก จึงไม่แปลกที่แลนด์มาร์กของทบิลิซีอย่าง Mother of Georgia จะยืนถือถ้วยไวน์ในมือซ้าย เพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยความเป็นมิตรไมตรีอันดี

 

นอกจากไวน์แล้ว ทั้งอาหาร ขนม ผลไม้ ไปจนถึงเครื่องดื่มชนิดอื่นของจอร์เจียล้วนขึ้นชื่อว่าอร่อยทั้งสิ้น ทั่วทั้งกรุงทบิลิซีจึงเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารจอร์เจียนขนานแท้ให้ได้ลิ้มรสทุกหัวมุมถนน

Sofia Melnikova’s Fantastic Dougan
ภาพ : facebook.com/profile.php?id=100063830130984

 

หนึ่งในร้านที่ถือเป็น Hidden Gem ประจำกรุงทบิลิซี ด้วยพิกัดที่หาไม่ง่าย และเสิร์ฟเมนูอร่อยระดับตำนาน จึงควรค่าแก่การดั้นด้นไปเยือน ร้านอาหารแห่งนั้นมีชื่อยาวเหยียดว่า Sofia Melnikova’s Fantastic Dougan ที่ซุกซ่อนอยู่ในลานด้านหลังพิพิธภัณฑ์วรรณกรรมแห่งจอร์เจีย

Sofia Melnikova’s Fantastic Dougan
ภาพ : facebook.com/profile.php?id=100063830130984

 

เดิมทีที่นี่เคยเป็น Poets Club ที่เปิดทำการในปี ค.ศ.1917 ถือเป็นจุดนัดพบในตำนานที่บรรดาศิลปินและกวีในกรุงทบิลิซีมักมาพบปะสังสรรค์และสร้างผลงานร่วมกันในยุคที่จอร์เจียตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัสเซีย และ Sofia Melnikova’s Fantastic Dougan ก็คือชื่อหนังสือที่ศิลปินในยุคอาวองการ์ด (Avant-garde) ร่วมกันทำขึ้นมา จนเป็นแรงบันดาลใจในการนำมาตั้งเป็นชื่อร้านอาหารแห่งนี้ บรรยากาศภายในสวนของร้านจึงประดับด้วยรูปปั้นของนักเขียนและกวีระดับตำนานของจอร์เจียและรัสเซียในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เพื่อระลึกถึงอดีตของที่นี่

Khachapuri และ Khinkali อาหารประจำชาติจอร์เจีย

 

นอกจากตัวร้านจะมีตำนานที่น่าสนใจ ว่ากันว่าหากอยากชิม Khinkali หรือเกี๊ยวนึ่งสไตล์จอร์เจียที่โด่งดังที่สุด ต้องมากินที่ร้านนี้ เพราะเชฟ Lena Ezieshvili ใช้ส่วนผสมของเนื้อวัวเจ็ดส่วนกับเนื้อหมูสามส่วน คลุกเคล้ากับผักชี พริกไทย และยี่หร่า ที่กลมกล่อมพอดีกันกับรสชาติน้ำซุปที่อยู่ในเกี๊ยว อารมณ์เดียวกับการรับประทานเสี่ยวหลงเปา 

Shkmeruli ไก่ทอดในซอสครีมกระเทียม
ภาพ : facebook.com/profile.php?id=100063830130984

 

อีกเมนูที่ควรลองคือ Shkmeruli ไก่ทอดในซอสครีมกระเทียม ซึ่งเป็นสูตรครีมซอสของชาวจอร์เจียโดยเฉพาะ ให้รสชาติเค็ม มัน และนัว เสิร์ฟพร้อมกับแป้ง ขนมปัง หรือมันบดที่เข้ากันเป็นอย่างดี หรือจะสั่ง Khachapuri อาหารประจำชาติจอร์เจียที่ทำจากแป้ง เนย ไข่ และชีส เวลารับประทานต้องหั่นไข่และชีสให้เยิ้มไหลก่อนใช้ขนมปังจิ้มกิน

 

ที่ขาดไม่ได้ คือ ต้องสั่งไวน์มาจิบแกล้มมื้ออาหาร หากไปกันหลายคน อย่าลืมเอ่ยว่า “กามาราโจส !” (Gamarajos) ที่มีความหมายเดียวกับ Cheers ก่อนชนแก้ว แล้วดื่มฉลองความสุขของการได้กิน ดื่ม เที่ยว ในทบิลิซี เมืองหลวงแห่งจอร์เจีย

 

Sofia Melnikova’s Fantastic Dougan 
ที่ตั้ง : 22 Tabukashvili Str. 
โทร : +995 592 68 11 66
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 12.00 - 02.00 น.
Facebook : Sofia Melnikova's Fantastic Douqan


ข้อควรรู้ก่อนไปจอร์เจีย

  • การขอวีซ่า : คนไทยสามารถมาท่องเที่ยวที่ประเทศจอร์เจียได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า โดยอยู่ได้ไม่เกิน 365 วัน
  • สายการบิน : จากประเทศไทยไม่มีสายการบินตรงไปประเทศจอร์เจีย ต้องต่อเครื่องที่ประเทศใกล้เคียง เช่น ตุรกี รัสเซีย โดยรวมแล้วใช้เวลาประมาณ 12-14 ชั่วโมง
  • การแลกเงิน : สามารถพกเงินสกุล USD แล้วมาแลกเป็นเงินสกุลท้องถิ่นลารี (GEL) ที่จอร์เจีย และควรมีบัตร Travel Card เพื่อความสะดวกในการจับจ่าย
  • การเลือกพัก : ในกรณีที่จะอยู่จอร์เจียระยะยาว ควรจองที่พักครั้งละ 1 สัปดาห์ก่อน หากถูกใจ ไร้ปัญหา ค่อยจองต่อ และเพื่อความปลอดภัย ควรจองที่พักผ่าน Booking.com หรือ Airbnb เพราะในกรณีที่เกิดปัญหาจะได้สามารถติดต่อเจ้าของห้องได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชัน หรือหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข จะได้ทำเรื่องขอเงินคืนกับ Platform ได้โดยตรง
  • การเดินทางในเมืองทบิลิซี : สามารถเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Bolt ที่ราคาค่อนข้างถูก หรือจะเดินทางโดย Bus หรือ Metro ก็สะดวกและครอบคลุมทั้งเมือง โดยคิดค่าโดยสารราคาเดียว คือ 1 ลารี (ประมาณ 13 บาท) สามารถหาซื้อบัตร Metro Money ได้ที่หน้าสถานี Metro ในราคา 2 ลารี และเติมเงินได้ตามตู้ที่พบได้ง่ายตามถนนในเมือง
  • การใช้งาน Internet : ตัดปัญหาสัญญาณ WiFi ไม่เสถียรด้วยการซื้อซิมการ์ดแบบที่มี Internet ไว้ใช้งาน อาทิ เครือข่าย Magti

 

 

อ้างอิง

  • รงรอง หัสรังค์. Georgia Folks ผู้คน วิถี และมิตรภาพ. I draw&travel,2567.
  • Archdaily. Stamba Hotel / Adjara Arch Group. https://bit.ly/4jqilCR
  • Milestheworld. รีวิวโรงอาบน้ำกำมะถันโบราณแห่งเมืองทบิลิซี. https://bit.ly/4jPMhIy
  • Milestheworld. เที่ยวจอร์เจีย 6 เดือนแบบ Digital Nomads ดีไหม? หรือจะย้ายมาอยู่เลยดี?. https://bit.ly/4iw1lKg
  • iamtbilisi. Who is Sofia Melnikova?. https://bit.ly/3ED7Z3o

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...