

เที่ยวจีนฟีลยุโรปที่ ‘เซี่ยงไฮ้’ เก็บแต้มแลนด์มาร์กทั่วมหานครแห่งแรงบันดาลใจ
Travel / World
21 Mar 2024 - 10 mins read
Travel / World
SHARE
21 Mar 2024 - 10 mins read
หนึ่งในภาพจำของมหานครเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) คือตึกระฟ้ารูปลักษณ์แปลกตาเรียงรายอยู่บนเส้นขอบฟ้าในเขตเมืองใหม่ผู่ตง
ตึกโดดเด่นที่ราวกับเป็นแลนด์มาร์กประจำเมือง ได้แก่ หอไข่มุกตะวันออก (The Oriental Pearl Tower) ที่มีลักษณะคล้ายไข่มุก 3 เม็ดเรียงกันในแนวตั้ง Shanghai World Financial Center (SWFC) อาคารที่มียอดตึกหน้าตาละม้ายที่เปิดขวด และ Shanghai Tower ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศจีน รายล้อมด้วยทิวตึกที่มีความสูงลดหลั่นกันลงมา
ภาพความเจริญสุดล้ำที่ดูราวกับหลุดมาจากภาพยนตร์ Sci-Fi เป็นผลพวงของการที่นครเซี่ยงไฮ้มุ่งพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองระดับโลกในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม โดยดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนานครเซี่ยงไฮ้ (ปี ค.ศ. 2017 - 2035) เพื่อให้เมืองมีความเป็นสากล เซี่ยงไฮ้จึงเติบโตเร็วแบบก้าวกระโดด นักท่องเที่ยวต่างพากันกล่าวขานว่า การได้ไปเยือนเซี่ยงไฮ้ ใช้ชีวิตในสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางอาคารหน้าตาโฉบเฉี่ยวทันสมัย และการคมนาคมที่สะดวกสบายด้วยเครือข่ายรถไฟฟ้าราคาสบายกระเป๋า ทำเอาเหมือนอยู่โลกอนาคตไม่มีผิด
แต่ในขณะเดียวกัน เซี่ยงไฮ้ก็ยังคงรักษาเสน่ห์ของความเป็นเมืองท่าเก่าแก่เมื่อศตวรรษที่แล้วไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะบรรยากาศในยุคอาณานิคมที่บรรดาชาติตะวันตกเข้ามาตั้งรกรากในเซี่ยงไฮ้ และมอบมรดกเป็นตึกรามบ้านช่องสไตล์ยุโรปในหลายย่านของเมือง พลอยทำให้การเดินทางไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้เหมือนได้เดินทางไปเที่ยวยุโรปไม่มีผิด
และยิ่งเป็นโอกาสอันดีในการที่คนไทยสามารถไปเที่ยวเมืองจีนได้ทันใจโดยไม่ต้องขอวีซ่า อย่ารอช้า จองตั๋วออกเดินทางไปทำความรู้จัก ‘เซี่ยงไฮ้’ มหานครแห่งแรงบันดาลใจที่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์แดนมังกร
เจาะเวลาหาอดีตท่ามกลางตึกเก่าสไตล์ยุโรปที่
หาดไว่ทาน (The Bund)
มหานครเซี่ยงไฮ้ถูกแม่น้ำหวงผู่ (Huangpu) แบ่งเมืองออกเป็นสองฝั่ง ได้แก่ ฝั่งเมืองเก่าและฝั่งเมืองใหม่ โดยในฝั่งเมืองเก่ามีชื่อเรียกว่า หาดไว่ทาน หรือ The Bund ย่านที่อุดมด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ซึ่งคนไทยในยุคหนึ่งคุ้นตากับบรรยากาศของหาดไว่ทานเป็นอย่างดี เพราะเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง ‘เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้’
ประติมากรรม The Bund Bull
หาดไว่ทานเป็นหนึ่งในย่านที่ถ่ายรูปสวยที่สุดในเซี่ยงไฮ้ โดยมีทางเดินเลียบแม่น้ำหวงผู่ยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร และบนท้องถนนยังเรียงรายด้วยกลุ่มอาคารสไตล์ Art Deco, Post-Modernist และ Neo Classical ซึ่งว่ากันว่ามีมากกว่า 50 หลัง หนึ่งในนั้นคือ สำนักงานของธนาคารกรุงเทพ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกับ The Bund Bull รูปหล่อกระทิงแบบเดียวกับที่วอลล์สตรีท ย่านการเงินของนิวยอร์กซิตี้
ตึกสไตล์ยุโรปสวย ๆ เหล่านี้เป็นที่ตั้งของสถาบันทางการเงิน โรงแรมห้าดาว และช็อปของแบรนด์ Luxury ระดับโลก เริ่มต้นทยอยสร้างเมื่อครั้งประเทศจีนแพ้สงครามฝิ่น และจำใจต้องลงนามในสนธิสัญญานานกิงเพื่ออนุญาตให้อังกฤษและชาติตะวันตกเข้ามาถือครองที่ดิน เพื่อตั้งรกรากและทำการค้าในเขตปกครองพิเศษเซี่ยงไฮ้ สถาปัตยกรรมยุโรปจึงค่อย ๆ ก่อร่างสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1906-1937 จนเนืองแน่นไปทั่ว The Bund
โลกอนาคตในฝั่งเมืองใหม่ผู่ตง
จากริมหาดไว่ทานเมื่อมองไปยังฝั่งเมืองใหม่ผู่ตงจะเห็นทิวทัศน์ที่สวยชวนตะลึงของบรรดาตึกระฟ้าที่แข่งกันอวดยอดสูงสู่ทิวเมฆ ไม่ว่าจะเป็น หอไข่มุกตะวันออก (Oriental Pearl) และอีกสามตึกที่วางตัวเรียงกันราวกับขาตั้งกระถางธูปตามฮวงจุ้ยแบบจีนที่หมายถึงความมั่นคง ได้แก่ Shanghai Center ตึกที่สูงที่สุดในประเทศจีนด้วยความสูง 632 เมตร Shanghai World Financial Center (SWFC) หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า ตึกที่เปิดขวด และ Jin Mao Tower ที่มีไฮไลท์อย่างลิฟต์ความเร็วสูงที่สามารถพานักท่องเที่ยวไปยังจุดชมวิวชั้น 88 ในเวลาเพียง 45 วินาที
บรรยากาศหาดไว่ทานยามค่ำคืน
การไปเยือนหาดไว่ทาน รับประกันว่าได้รูปสวย ๆ แน่นอน โดยเฉพาะในช่วงเย็นไปจนถึงกลางคืนที่มีการประดับไฟตามอาคารต่าง ๆ พร้อมกับบรรดาร้านอาหารริมน้ำที่แปลงโฉมเป็นบาร์ให้นักท่องเที่ยวได้ละเลียดเวลาอ้อยอิ่งอยู่บน ‘หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้’ ได้แบบไม่ต้องรีบร้อน
จุดชมวิวพื้นกระจกบนหอไข่มุกตะวันออก
ส่วนใครอยากไปสัมผัสอีกบรรยากาศบนฝั่งเมืองใหม่สามารถใช้บริการรถรางในอุโมงค์ลอดแม่น้ำแห่งแรกของประเทศจีนได้ ใช้เวลาเดินทางในอุโมงค์แสงเลเซอร์ (The Bund Sightseeing Tunnel) ไม่ถึง 5 นาทีก็วาร์ปมาถึง ‘หอไข่มุกตะวันออก’ ซึ่งเป็นพิกัดที่ควรหาโอกาสขึ้นไปชมทิวทัศน์เซี่ยงไฮ้ในมุมสูงให้ทั่วเมือง
การเดินทาง : Metro Line 2 สีเขียว หรือ Metro Line 10 สีม่วง ลงสถานี Nanjing Road (East) ทางออก 2
North Bund Green Land
หลังจากออกเดินตระเวนถ่ายรูปรอบหาดไว่ทานจนเริ่มล้า แนะนำให้ไปพักสายตาและผ่อนคลายแข้งขากันที่ North Bund Green Land พื้นที่สีเขียวริมแม่น้ำฝั่งเหนือของ The Bund หนึ่งในสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวเซี่ยงไฮ้ นอกจากจะร่มรื่นด้วยสวนสวยและดอกไม้นานาพรรณแล้ว ยังมีไฮไลท์ที่เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอย่างประติมากรรมกระจกสะท้อนแสงรูปทรงไข่หยดน้ำยักษ์ ที่สะท้อนเงาตกกระทบเป็นภาพของดอกไม้ ใบหญ้า ท้องฟ้า ก้อนเมฆ โดยมีฉากหลังเป็นตึกระฟ้าฝั่งเมืองใหม่สุดอลังการ
การเดินทาง : Metro Line 12 ลงสถานี International Cruise Terminal ทางออก 3 เดินประมาณ 10 นาที
ช้อปและชิลใน 4 ย่านคลาสสิก
หนานจิงลู่ ซินเทียนตี้ สวนอี้หยวน และเทียนจื่อฝาง
ไม่ไกลจากหาดไว่ทานเป็นที่ตั้งของถนนสายสำคัญที่เหล่านักช้อปห้ามพลาด ได้แก่ หนานจิงลู่ (Nanjinglu) หรือถนนหนานจิง ย่านชอปปิงเก่าแก่ของเซี่ยงไฮ้ เป็นถนนที่มีเส้นทางยาวถึง 5.5 กิโลเมตร ฝั่งตะวันตกเป็นที่ตั้งของร้านแบรนด์เนมจากทั่วโลก ส่วนฝั่งตะวันออกเป็นถนนคนเดินที่ถูกอนุรักษ์ไว้ การได้เดินเลือกซื้อของบนถนนหนานจิงจึงเก็บได้ครบทั้งของดีประจำถิ่นในร้านแบบจีนโบราณ และสารพันสินค้าแบรนด์ดังในห้างหรูที่มีให้เลือกเดินแวะเข้าไปเยี่ยมชมตลอดสองข้างทางในบรรยากาศคลาสสิกเหมือนเดินชิลที่ยุโรป โดยตึกสวยบางหลังมีอายุเก่าแก่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง
บรรยากาศในย่านหนานจิงลู่
ก่อนจะมีสถานะเป็นถนนคนเดินขวัญใจนักช้อปในปัจจุบัน บริเวณนี้เคยถูกใช้เป็นท่าเรือนานาชาติของอังกฤษมาก่อน ถนนเส้นนี้จึงถือเป็นสถานที่แรก ๆ ในประเทศจีนที่มีสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขาย จนกลายเป็นถนนชอปปิงหลักในปัจจุบัน ที่คึกคักและคลาคล่ำด้วยฝูงชนเสมอไม่ว่าจะเวลาใด จนได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่คนเยอะที่สุดในโลก
ตึกรามสวยคลาสสิคในย่านหนานจิงลู่
ภาพ : facebook.com/igoseeit
ด้วยความยาวของถนนและความหนาแน่นของผู้คน ถนนหนานจิงจึงมีตัวช่วยสำหรับนักท่องเที่ยวที่เหนื่อยล้าเกินกว่าจะออกแรงเดินด้วยตัวเองไหว สามารถใช้บริการรถราง Sightseeing Tram ได้ หรือใครที่มาเที่ยวเซี่ยงไฮ้แบบมีเวลาจำกัด แล้วต้องการซื้อของฝากแบบครบครันทันใจ แนะนำว่ามาที่หนานจิงลู่ ไม่ผิดหวังแน่นอน
เสี่ยวหลงเซีย หรือกุ้งแดง Crayfish
ภาพ : facebook.com/igoseeit
หลังจากช้อปและชิลจนท้องหิว สามารถแวะเติมพลังได้ที่ศูนย์อาหารประจำย่านซึ่งรวบรวมสตรีทฟู้ดหลากหลายเมนูไว้ให้ชิมครบในที่เดียว ห้ามพลาดเมนู เสี่ยวหลงเซีย หรือกุ้งแดง Crayfish ที่มีขายในช่วงก่อนฤดูร้อน คือราวเดือนเมษายนไปจนถึงพฤษภาคม เท่านั้น โดยนิยมกินกับน้ำซุป ผัก เต้าหู้ ฯลฯ อารมณ์คล้ายสุกี้ที่มีเนื้อกุ้งเนื้อหนุบรสชาติหวานเป็นพระเอก หรือจะเป็นกุ้งแดงผัดกับเครื่องเทศต่าง ๆ อย่างหม่าล่าก็อร่อยไปอีกแบบ
การเดินทาง : Metro Line 2 สีเขียว หรือ Metro Line 10 สีม่วง ลงสถานี Nanjing Road (East) ทางออก 3
แลนด์มาร์กย่านซินเทียนตี้ (Xintiandi)
ภาพ : facebook.com/igoseeit
เรามักได้ยินคำกล่าวเปรียบเปรยเซี่ยงไฮ้ว่าเป็นได้ทั้งปารีส นิวยอร์ก หรือลอนดอนแห่งซีกโลกตะวันออก ด้วยบรรยากาศราวกับยกตึกรามบ้านช่องสไตล์ตะวันตกมาตั้งไว้บริเวณปากแม่น้ำแยงซีเกียงดังที่ได้เล่าไปแล้วข้างต้น และเมื่อเดินทางมาถึงย่าน ซินเทียนตี้ (Xintiandi) ก็ราวกับได้มาเยือน Upper East Side แห่งนิวยอร์กไม่มีผิด
ย่านซินเทียนตี้ (Xintiandi)
ภาพ : facebook.com/igoseeit
ด้วยกลิ่นอายของทั้งย่านที่เต็มไปด้วยห้างหรูเรียงราย แทรกด้วยเสน่ห์ของบรรดา Selected Shop หรือร้านที่เป็นแบรนด์ของดีไซเนอร์ชาวจีนเองมาวางขาย ทำให้ซินเทียนตี้เป็นอีกย่านขวัญใจคนรักการซื้อของ ส่วนใครที่ชอบถ่ายภาพก็มีความสุขไม่แพ้กัน เพราะซินเทียนตี้เต็มไปด้วยบ้านโบราณสไตล์ฉือคู่เหมิน (Shikumen) ที่แปลว่า ประตูหิน ลักษณะเป็นตึกแถว 2-3 ชั้น สร้างด้วยอิฐบล็อกแบบฝรั่ง มีประตูและกำแพงหินสวยงามคลาสสิก ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัว ให้ลั่นชัตเตอร์กันจนลืมเวลา
ภาพ : facebook.com/igoseeit
ด้วยความเก๋ในทุกรายละเอียดของซินเทียนตี้ ทำให้ที่นี่ถูกแปลงโฉมเป็นสถานที่ในการจัดงาน Shanghai Fashion Week เป็นประจำทุกปี และใครเป็นสาย Cafe Hopping ไม่ต้อง Hop ไปไหนไกล เฉพาะซินเทียนตี้ย่านเดียวก็มีทั้งร้านคาเฟ่ ร้านอาหารนานาชาติไม่ว่าจะเป็นยุโรป ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส รวมถึงอาหารจีนสไตล์ฟิวชั่น ให้เลือกชิมได้ตามชอบใจ ค่ำ ๆ ทุกร้านยังพากันเปลี่ยนบรรยากาศกลายเป็นบาร์ที่มีโต๊ะนั่งทานด้านนอกเหมือนกับร้านอาหารในยุโรปสมคำร่ำลือ
การเดินทาง : Metro Line 10,13 ลงสถานี Xintiandi ทางออก 6 เดินไปตามถนน Madang
แสงสีและเส้นสายของอาคารสถานี Yuyuan
ภาพ : facebook.com/igoseeit
จากซินเทียนตี้ เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินไปเที่ยวต่อกันที่ สวนอี้หยวน (Yuyuan Garden) สวนจีนเก่าแก่อายุ 400 ปี ที่บรรยากาศการเดินทางเหมือนได้ข้ามเวลาจากโลกอนาคตวาร์ปไปสู่จีนยุคโบราณ เพราะต้องไปตั้งต้นกันที่ Metro สถานี Yuyuan ที่สวยล้ำด้วยเส้นสายของเสาและเพดานที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแม่น้ำหวงผู่ เมื่อผสมกับสีสันของการเล่นแสงไฟ ยิ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกอนาคตไม่มีผิด
สวนอี้หยวนเก่าแก่ที่มีฉากหลังเป็นเมืองล้ำสมัย
เดินออกจากสถานีแห่งโลกอนาคตยังไม่ทันเมื่อย ก็มาถึงสวนอี้หยวน สวนโบราณที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสวนจีนที่สวยที่สุดในเซี่ยงไฮ้ ด้วยพื้นที่กว้างขวางถึง 20,000 ตารางเมตร ซึ่งใครจะคิดว่าต้นกำเนิดของสถานที่แห่งนี้เกิดจากความตั้งใจของเศรษฐีกตัญญูผู้หนึ่ง ที่ตั้งใจสร้าง ‘สวนแห่งความสำราญใจ’ เพื่อให้พ่อแม่ได้พักผ่อน โดยใช้เวลาสร้างนานกว่า 18 ปี ก่อนจะสำเร็จสมความตั้งใจ และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเซี่ยงไฮ้ในหลายศตวรรษถัดมา
บรรยากาศคึกคักบริเวณสวนชั้นนอก
ภาพ : facebook.com/igoseeit
สวนอี้หยวน แบ่งพื้นที่เป็นสวนชั้นในและสวนชั้นนอก โดยสวนชั้นนอกเป็นแหล่งชอปปิงในกลุ่ม ‘อาคารแบบเก๋งจีน’ ที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม โรงน้ำชา ร้านขายของที่ระลึก เครื่องสำอาง เสื้อผ้า ฯลฯ เท่ากับเป็นอีกหนึ่งแหล่งชอปปิงสำคัญแห่งเซี่ยงไฮ้ นักท่องเที่ยวส่วนมากพึงพอใจที่จะได้ช้อปและชิลในบริเวณนี้ที่มีฉากหลังเป็นกลุ่มอาคารจีนโบราณแบ็คกราวด์ให้ถ่ายรูปได้อย่างเพลิดเพลิน
สวนชั้นใน
ส่วนใครอยากสัมผัสความงามของสวนจีนแบบดั้งเดิม สามารถซื้อตั๋วเข้าชมสวนชั้นใน (ราคา 40 CNY) ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงมังกรในบรรยากาศเงียบสงบต่างจากความคึกคักของสวนชั้นนอกอย่างสิ้นเชิง รอบ ๆ บริเวณร่มรื่นด้วยร่มเงาของต้นไม้อายุนับร้อยปี ร่มเย็นด้วยสะพานไม้ สระน้ำ สวนไผ่ บ่อปลา และสิ่งปลูกสร้างสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิม โดยเฉพาะศาลาสมัยราชวงศ์
หมิงที่นำเสนองานแกะสลักอันแสนจะประณีตงดงาม
ห้ามพลาดเมนูเสี่ยวหลงเปา
ภาพ : facebook.com/igoseeit
เยี่ยมชมทั้งสวนชั้นนอกและชั้นในจนหมดแรง ต้องแวะเติมพลังที่ตลาดสตรีทฟู้ดที่อุดมด้วยของกินแสนอร่อย โดยเฉพาะเมนูปูขนเซี่ยงไฮ้และเสี่ยวหลงเปา ที่ควรลองรสชาติต้นตำรับที่ Nanxiang Bun Shop ผู้ให้กำเนิดเสี่ยวหลงเปาแป้งหน้าสะใจ ด้านในเป็นซุปปู เสิร์ฟพร้อมหลอดสำหรับดูดน้ำซุป อร่อยฉ่ำใจ
การเดินทาง : Metro Line 10 ลงสถานี Yuyuan ทางออก 1
เทียนจื่อฝาง (Tian Zi Fang)
ภาพ : facebook.com/igoseeit
ปิดท้ายกิจกรรมชิมและชิลที่อีกหนึ่งย่านสวยคลาสสิกอย่าง เทียนจื่อฝาง (Tian Zi Fang) ซึ่งอยู่ในเขตเช่า French Concession เมื่อครั้งฝรั่งเศสเข้ามายึดครองเซี่ยงไฮ้ ปัจจุบันถูกดัดแปลงเป็นตลาดโบราณที่เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยเล็ก ๆ มีร้านรวงหลากหลายให้เลือกเดินเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งร้านอาหาร ผับบาร์ ร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ ร้านขายของที่ระลึก แกลเลอรี่ขนาดเล็ก ฯลฯ และเช่นเคยกับบรรดาสตรีทฟู้ดแก้ท้องกิ่วทั้งหลายที่มีให้เลือกชิมตั้งแต่วันยันค่ำ
การเดินทาง : Metro Line 9 ลงสถานี Dapuqiao ทางออก 1
เช็กอินสวนลอยบาลิโลนและตึกแดงแห่งเซี่ยงไฮ้
นอกเหนือไปจากการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามแผนแม่บทการพัฒนานครเซี่ยงไฮ้แล้ว การพัฒนาอารยธรรมทางระบบนิเวศ (Ecological Civilization Development) เป็นอีกสิ่งที่มหานครเซี่ยงไฮ้ให้ความสำคัญ
เทียนอันเชียนซู่ (Tian An 1,000 Trees)
ภาพ : facebook.com/igoseeit
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ ความตั้งใจในการออกแบบและสร้างสรรค์อาคารพันต้นไม้ หรือ เทียนอันเชียนซู่ (Tian An 1,000 Trees) ขึ้นริมฝั่งแม่น้ำซูโจวหรือแม่น้ำอู๋ซง เพื่อเป็นแหล่งโอโซน เพิ่มความร่มรื่น และช่วยลดความร้อนให้กับเมือง เพราะนอกจากเทียนอันเชียนซู่จะสอดแทรกการปลูกต้นไม้ 1,000 ต้นไว้เป็นส่วนหนึ่งของอาคารแล้ว ยังมีการใช้พรรณไม้อีกมากกว่า 250,000 ต้น ทั้งไม้ผลัดใบ พืชพรรณที่เขียวชอุ่มตลอดปี ต้นไม้ที่ออกดอกและผล ไม้พุ่ม ไม้แขวน ฯลฯ ปลูกไว้ในพื้นที่รอบโครงการ โดยคาดว่าต้นไม้เหล่านี้จะสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ 21 ตันทุกปี
ภาพ : facebook.com/igoseeit
เทียนอันเชียนซู่ ออกแบบโดยโทมัส เฮเธอร์วิก (Thomas Heatherwick) สถาปนิกชาวอังกฤษ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘เขาหวงซาน’ ในมณฑลอันฮุย ซึ่งมีทิวทัศน์งดงามดุจภาพวาดและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) มาเนรมิตพื้นที่กว่า 300,000 ตารางเมตร (ราว 187 ไร่) ให้กลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยใหม่ ที่ได้รับการเปรียบว่ายิ่งใหม่ไม่แพ้สวนลอยบาบิโลนโบราณ
ภาพ : facebook.com/igoseeit
เทียนอันเชียนซู่เฟสแรกเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2564 ภายในอาคารมีทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี และพื้นที่สาธารณะที่ให้คนเมืองได้ออกมาใช้สอยกันและเดินเล่นกันได้อย่างเต็มที่ โดยเชื่อมต่อพื้นที่ทั้งหมดเข้ากับสวนสาธารณะริมแม่น้ำ และอาคารเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่เดิมอย่างกลมกลืน ส่วนเฟสสองก็เตรียมเปิดให้บริการความสดชื่นเขียวชอุ่มเร็ว ๆ นี้
การเดินทาง : Metro Line 13 ลงสถานี Jiangning Road ทางออก 1
The Street of 1000 Red Jars
ภาพ : facebook.com/igoseeit
The Street of 1000 Red Jars เป็นอีกหนึ่งพิกัดของการชุบชีวิตอาคารเก่าให้เป็นแม่เหล็กดึงดูดชุมชนให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยนอกจากจะฉาบสีแดงในโทนสบายตาไปทั่วทุกอณูของอาคารแล้ว ยังแทรกด้วยกระถางต้นไม้ทรงสูงลักษณะคล้ายกับไหประดับประดาทั่วอาคารอีกกว่า 1,000 กระถาง ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ตึกแดงหลังนี้มีชีวิตชีวาและให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น
The Street of 1000 Red Jars
ภาพ : facebook.com/igoseeit
ประวัติของอาคารทรงเก่าแก่ที่ซ่อนโครงสร้างสลับซับซ้อนไว้ภายในหลังนี้ สร้างขึ้นสมัยที่ฝรั่งเศสได้สัมปทานในเซี่ยงไฮ้ระหว่างปี ค.ศ. 1848-1943 และได้รับการชุบชีวิตอีกครั้งโดย ฌ็อง นูแวล (Jean Nouvel) สถาปนิกชาวฝรั่งเศสผู้แม่นยำในด้านการเล่นแสงและเงาของโครงสร้างอาคารให้โดดเด่นและกลมกลืนกับบริบทสภาพแวดล้อม The Street of 1000 Red Jars ที่เป็นทั้งอาคารสำนักงาน ร้านอาหาร คาเฟ่ สปา ซาลอน รวมถึงหมุดหมายใหม่ให้นักท่องเที่ยวได้มาเช็กอิน จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการอยู่ร่วมกันของดีไซน์เก่าและใหม่ที่ไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืน
การเดินทาง : Metro Line 13,9 ลงสถานี Madang Road ทางออก 5
อู่คังแมนชั่น (Wukang Mansion)
ปิดทริปด้วยการไปเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจและถ่ายภาพ อู่คังแมนชั่น (Wukang Mansion) อาคารอนุรักษ์ดีไซน์สวยร่วมสมัยที่ตั้งเด่นเป็นสง่าบริเวณห้าแยก ราวกับ Flatiron แห่งนิวยอร์ก มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1924 เดิมเคยรับบทบาทเป็นอพาร์ตเมนต์ที่ชาวต่างชาติซึ่งเข้ามาทำงานในเซี่ยงไฮ้ในยุคนั้นพักอาศัย หลังจากนั้นได้มีเศรษฐีชาวจีนซื้ออาคารหลังนี้ และปรับเป็นที่พักของบรรดา Celebrities ชื่อดังของเซี่ยงไฮ้ในเวลาต่อมา
อู่คังแมนชั่นย่าน Hengfu Historical Area
นอกจากอู่คังแมนชั่นแล้ว รอบ ๆ บริเวณนี้ที่มีชื่อเรียกว่า Hengfu Historical Area ซึ่งในอดีต เป็นเขตสัมปทานเก่าของฝรั่งเศส มีอาคารทรงยุโรปตั้งเรียงรายอยู่อีกหลายหลังและบางส่วนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโครงสร้างทางประวัติศาสตร์ภายใต้การคุ้มครองของรัฐ ปัจจุบันเป็นทั้งแหล่งชอปปิงและย่านกินดื่มขวัญใจชาวเซี่ยงไฮ้ มหานครแห่งความกลมกลืนที่แสนจะกลมกล่อม
การเดินทาง : Metro Line 10,11 ลงสถานี Jiaotong University ทางออก 1
บรรยากาศในย่าน Hengfu Historical Area
เตรียมตัวก่อนเดินทางไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้
- โหลดแอปพลิเคชั่น Alipay สำหรับสแกนจ่ายเงินซื้อของทุกประเภท และควรผูกบัตร YouTrip ไว้ตั้งแต่ที่ไทยให้เรียบร้อยเพื่อความสะดวกสบาย
- โหลดแอปพลิเคชั่น MetroMan สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Shanghai Metro เพียงใส่สถานีต้นทางและสถานีปลายทางที่จะไป ระบบจะมีเส้นทางให้เลือก ใช้งานง่าย บอกสายชัดเจน รับรองไม่หลงทาง
- หากใช้ iPhone สามารถค้นหาเส้นทางใน Apple Maps ได้สะดวกและแม่นยำ
อ้างอิง
- ผู้จัดการออนไลน์. สิ่งมหัศจรรย์โลกยุคใหม่! ‘อาคารพันต้นไม้’ สุดอลังการในเซี่ยงไฮ้. https://mgronline.com/china/detail/9640000127108
- Tmrtoolate. เช็คอินฟินๆ กับ 8 ที่เที่ยวในเซี่ยงไฮ้. https://www.travelaroundtheworld-mag.com/travel/shanghai/
- สำนักงานการต่างประเทศ. นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน. https://iao.bangkok.go.th/content-detail/12334