

จัดทัพการเงินด้วยกลยุทธ์กีฬาฟุตบอล
Wealth / Money
21 Apr 2022 - 4 mins read
Wealth / Money
SHARE
21 Apr 2022 - 4 mins read
ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ชาวไทยได้กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจจากการที่ฟุตบอลทีมชาติไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 เป็นของขวัญให้คนไทยกันไป หากถามว่าเรื่องกีฬากับการลงทุนมีอะไรเป็นจุดร่วมเหมือนกัน คงหนีไม่พ้นเรื่องของการวางแผนและกลยุทธ์ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อปรับตัวและเอาตัวรอดจากความเสี่ยงที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ยิ่งสถานการณ์ตลาดการลงทุนในบ้านเราตอนนี้ ยังไม่มีทีท่าที่จะฟื้นได้ง่ายนัก เห็นได้จากการวิเคราะห์อัตราเติบโตของ GDP จากหลากหลายสถาบันการเงินที่บ่งบอกถึงสัญญาณทางเศรษฐกิจที่มีโอกาสถดถอยลง แถมมีโอกาสติดลบด้วยเช่นกัน การวางแผนทางการเงินเพื่อลงทุนจึงต้องวางแผนให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
เศรษฐกิจแย่แค่ไหนนักลงทุนก็ยังต้องการกำไร
ในมุมของนักลงทุนไม่ว่าสถานการณ์จะแย่แค่ไหน แต่เมื่อเป้าหมายคือการสร้างกำไร ก็ย่อมมองหาโอกาสอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์จากต่างประเทศ เช่น กองทุนต่างประเทศ ETF หรือสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิทคอยน์
แต่ก็อย่าลืมว่า การมุ่งแต่จะเอาชนะตลาดอย่างเดียว อาจสร้างความเสี่ยงมากเกินไปในแบบที่ได้ไม่คุ้มเสีย จะดีกว่าไหมถ้าเรากลับมาวางแผนการลงทุนให้อุ่นใจชนิดนอนหลับได้ทุกคืน น่าจะเป็นวิธีที่ส่งผลดีต่อกายใจและพอร์ตการลงทุนของตัวเรา ด้วยกลยุทธ์การจัดพอร์ตแบบกีฬาฟุตบอล ซึ่งอาศัยการเล่นกันเป็นทีมเวิร์คโดยมีหลากหลายตำแหน่ง แต่มีเป้าเดียวกันคือชัยชนะในการแข่งขัน ซึ่งหากเปรียบในโลกการลงทุนแล้ว ทีมฟุตบอลก็เหมือนกับพอร์ตการลงทุนของเรา ที่ควรบริหารการจัดสรรทรัพย์สินลงทุนในแต่ละประเภทให้เหมาะสมต่อผลลัพธ์และความเสี่ยงในการสร้างผลตอบแทน เพื่อสร้างความสมดุลของพอร์ตตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั่นเอง
ตำแหน่งของกีฬาฟุตบอลจะประกอบไปด้วยตำแหน่งผู้รักษาประตู กองหลัง กองกลาง และกองหน้า รวมทั้งตัวสำรองที่สามารถลงมาเปลี่ยนเกมได้เช่นกัน เราลองมาจัดพอร์ตของเราด้วยกลยุทธ์ในฉบับของทีมฟุตบอลว่าแต่ละตำแหน่งควรลงทุนกับอะไร เพื่อให้พอร์ตการลงทุนของเราเกิดความสมดุลได้ในทุกสถานการณ์
ผู้รักษาประตู ด่านสุดท้ายที่สร้างความอุ่นใจให้ชีวิต
หน้าที่ในตำแหน่งนี้คือ เป็นนายด่านสุดท้ายกรณีที่เงินลงทุนของเราหายไปเกือบหมด แน่นอนว่าย่อมจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก ดังนั้น อย่าลืมนึกถึงสภาพคล่องในการใช้จ่ายในชีวิตด้วย ซึ่งหากเปรียบผู้รักษาประตูเป็นเรื่องของการเงินคงหนีไม่พ้นเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 1 ปี หรือมากกว่านั้น โดยเฉพาะตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด-19 ที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย
กองหลัง เสี่ยงต่ำ ปลอดภัยสูง หวังผลได้บ้าง
อีกหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญ คือ ตำแหน่งกองหลัง มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเกมการแข่งขัน และหากเปรียบหน้าที่นี้เป็นสินทรัพย์ในการลงทุนที่ไม่เน้นความเสี่ยง และผลตอบแทนไม่ใช่สิ่งแรกที่นึกถึง คือการลงทุนในประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันชีวิต หรือประกันควบคู่การลงทุน ซึ่งเลือกได้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน แต่สิ่งสำคัญร่วมกัน คือการบริหารความเสี่ยงต่อสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เช่น อุบัติเหตุ โรคร้ายแรง และยังเป็นการรักษาเงินก้อนที่สะสมมาไม่ให้เสียไปกับค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงอีกด้วย
กองกลาง สร้างความสมดุล สร้างกำไรระยะยาว
ตำแหน่งกองกลางถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนระยะยาวที่เราสามารถสร้างความสมดุลได้ด้วยการเลือกลงทุนที่หลากหลาย ซึ่งมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง เช่น กองทุนต่างประเทศที่อยู่ในเมกะเทรนด์ หรือหุ้นกู้ที่น่าเชื่อถือจากเครดิตเรตติ้ง รวมถึงตราสารหนี้ เพื่อสร้างแดนกลางของพอร์ตการลงทุนให้สมดุล และสามารถสร้างผลกำไรส่วนต่างพร้อมกับการเติบโตในระยะยาวได้เช่นกัน
กองหน้า ทำกำไรได้ในช่วงเวลาหนึ่ง
ตำแหน่งสุดท้ายคือ ตำแหน่งกองหน้า มีหน้าที่จบสกอร์หรือสร้างกำไรส่วนต่างการลงทุนในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งอยู่ในระดับความเสี่ยงสูง เราสามารถมองหาสินทรัพย์การลงทุนนี้จากการลงทุนในหุ้น หรือสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ที่มีความผันผวนค่อนข้างมาก ซึ่งการลงทุนลักษณะนี้ต้องอาศัยการติดตามและการตัดสินใจต่อการลงทุนพอสมควร
แม้ตำแหน่งหลัก ๆ จะได้มีการอธิบายครบไปแล้ว แต่ยังมีอีกหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือตำแหน่งตัวสำรอง ที่เปรียบเป็นเงินสดสำรองเอาไว้เติมในช่วงที่สินทรัพย์การลงทุนต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง เพื่อสะสมให้พอร์ตเกิดการเติบโตในระยะยาว
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจตั้งคำถามว่า ในแต่ละตำแหน่งควรมีสัดส่วนในการลงทุนเท่าไหร่ คงต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุนของแต่ละคนว่าชอบเล่นเกมบุก ครองเกม หรือเน้นเกมรับ สไตล์เหล่านี้จะส่งผลต่อสัดส่วนการลงทุนของคุณเอง รวมถึงความเสี่ยงและผลตอบแทนด้วยเช่นกัน แต่ไม่ว่าคุณจะชอบสไตล์ไหน อย่างน้อยก็น่าจะได้หลักการจัดพอร์ตการลงทุนเอาไว้วางแผนและกำหนดกลยุทธ์ในยุคที่ไม่มีอะไรง่ายดายเหมือนเดิมอีกต่อไป
อ้างอิง
Special Contributor: โอมศิริ วีระกุล อีกหนึ่งนักเขียนที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการเงิน การลงทุน ผู้เขียนหนังสือ “นี่เงินเดือนหรือเงินทอน” และเป็น Co-Host The Money Case by The Money Coach Podcast รวมถึง Head of Content เพจ aomMONEY อีกด้วย