ท่องเที่ยวอย่างไรไม่ให้กระเป๋าฉีก รวมเคล็ดลับบริหารการเงินตลอดทริป

หยุดยาวนี้กำลังวางแผนไปเที่ยวกันอยู่ใช่ไหม ?  

หลังจากเก็บเงินไปเที่ยวได้สักก้อน สเตปต่อมาคือการจัดการเงินท่องเที่ยวก้อนนั้นให้เที่ยวได้อย่างคุ้มค่า นับเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง เพราะการไปเที่ยวแต่ละครั้งมีรายจ่ายมากมาย ซึ่งถ้าจัดการไม่ดี เผลอใช้เงินเพลิน เจอของล่อตา ล่อใจ เจอค่าใช้จ่ายจิปาถะ อาจทำให้ค่าใช้จ่ายบานปลายอย่างไม่ทันรู้ตัว 

ก่อนทริปนี้จะมาถึง เราขอชวนทุกคนที่กำลังจะไปเที่ยวมาดูเคล็ดลับบริหารเงินตลอดทริป ว่าเราจะจัดการเงินอย่างไรให้ใช้จ่ายได้ไม่เกินงบฯ เที่ยวสนุกแบบไม่ต้องกลัวกระเป๋าฉีก 

ก่อนทริปนี้จะมาถึง เราขอชวนทุกคนที่กำลังจะไปเที่ยวมาดูเคล็ดลับบริหารเงินตลอดทริป ว่าเราจะจัดการเงินอย่างไรให้ใช้จ่ายได้ไม่เกินงบฯ เที่ยวสนุกแบบไม่ต้องกลัวกระเป๋าฉีก

1.

ตั้งงบประมาณ

เป็นด่านแรกของการจัดการเงิน

ขั้นตอนแรกคือการตั้งงบประมาณว่าทริปนี้จะใช้เงินทั้งหมดกี่บาทและแบ่งสัดส่วนเงินให้ชัดเจน เช่น ก้อนแรกสำหรับตั๋วเครื่องบิน ก้อนที่สองสำหรับที่พัก อีกก้อนสำหรับช้อปปิ้ง 

ในขั้นตอนนี้อย่าลืมคำนวณ Hidden Cost หรือ ค่าใช้จ่ายแฝงต่าง ๆ เช่น ค่าซิมโทรศัพท์ ค่าซักผ้า ค่าน้ำมันตอนเช่ารถ ภาษีนักท่องเที่ยว ฯลฯ เอาไว้ด้วย เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายแฝงในทุกทริป หากไม่ได้คำนวณไว้ตั้งแต่ต้นอาจทำให้ต้องเจียดเงินส่วนอื่นมาใช้ ทำให้ใช้จ่ายเกินได้  

2. 

เปรียบเทียบราคาในแอปฯ  

ก่อนจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก 

นอกจากจะจองตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้าแล้ว การใช้แอปฯ เปรียบเทียบราคาก็ช่วยให้ประหยัดและเห็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับงบฯ ที่ตั้งไว้ได้ อีกทั้งอาจมีโปรโมชันดี ๆ จากแอปพลิเคชันช่วยให้ได้ราคาที่พักและตั๋วเครื่องบินที่ถูกกว่าปกติอีกด้วย  

แอปพลิเคชันแนะนำ : Skyscanner, Traveloka, Expedia, Agoda  

3. 

จัดตารางเที่ยว วางแผนการเดินทาง 

ประหยัดค่าโดยสารไปได้มาก 

การวางแผนเที่ยวและการเดินทาง ช่วยให้งบฯ สำหรับค่าโดยสารไม่บานปลาย ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้เยอะ เช่น หากที่เที่ยวของทั้งวันนั้นอยู่ตามแนวรถไฟฟ้า การซื้อตั๋วรถแบบเหมาเต็มวันจะคุ้มกว่าซื้อตั๋วเป็นเที่ยว หรือในบางครั้ง ถ้าวางแผนจะกลับก่อนเที่ยงคืนโดยขนส่งสาธารณะ ก็ต้องกลับตรงเวลา หากเกินที่วางแผนไว้อาจต้องเรียกแท็กซี่ ซึ่งทำให้ค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากหลักสิบกลายเป็นหลักร้อยได้ง่าย ๆ  

4. 

เตรียมทุกอย่างให้พร้อม 

จะได้ไม่ต้องหาเอาดาบหน้า 

เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับสภาพอากาศและของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นไปให้พร้อม จะได้ไม่ต้องซื้อเอาดาบหน้า ช่วยเซฟเงินและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นไปได้เยอะ เตรียมชุดยาสามัญประจำบ้านขนาดพกพาติดกระเป๋าไปด้วยเผื่อฉุกเฉิน หรือใครที่มีโรคประจำตัวให้เตรียมยาไปให้พร้อม  

นอกจากนี้ หากต้องไปประเทศที่มีความเสี่ยงเรื่องโรคระบาด ให้วางแผนการฉีดวัคซีนป้องกันเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นอกจากจะช่วยป้องกันโรคแล้วยังช่วยลดค่ารักษาพยาบาลในภายหลังได้อีกด้วย 

5. 

ไปอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยว 

หาข้อมูลและโปรโมชันดี ๆ ฉบับคนเที่ยวจริง 

ใครอยากรู้แหล่งของถูก คุณภาพดี หรือโปรโมชันน่าสนใจ ลองกดเข้าเฟซบุ๊กกรุ๊ปนักท่องเที่ยว เช่น ถ้ากำลังจะไปญี่ปุ่นในวันหยุดยาวนี้ ลองเข้าไปหาข้อมูลต่าง ๆ ในกลุ่มเกี่ยวกับคนไปเที่ยวญี่ปุ่นเอาไว้ เพื่อติดตามข่าวสารดี ๆ ฉบับนักท่องเที่ยว รู้แหล่งช้อปปิ้ง ของคุณภาพดีในราคาเป็นมิตร ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในการจับจ่าย จะได้ไม่เสียเงินโดยไม่จำเป็นเพราะความไม่รู้ 

6. 

บัตรเครดิตสำหรับท่องเที่ยว 

ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ 

หากเป็นสายช้อปปิ้ง หาบัตรเครดิตสำหรับท่องเที่ยวสักใบช่วยได้เยอะ เพราะจะได้ไม่ต้องพกเงินสด ทำให้ปลอดภัยกว่ามาก บางธนาคารมีสิทธิประโยชน์มากมาย ทำให้ใช้จ่ายได้คุ้มค่ากว่าเดิมด้วย 

สิ่งสำคัญสำหรับการทำบัตรสำหรับท่องเที่ยวคือ ต้องตรวจสอบค่าธรรมเนียม อัตราการแลกเปลี่ยน และต้องตรวจสอบกับธนาคารให้แน่ใจว่าบัตรอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน   

7. 

สรุปรายจ่ายทุกวัน  

เตือนตัวเองไม่ให้ใช้เงินอย่างเสียสติ 

การทำบัญชีรายจ่ายถือเป็นการสรุปว่าเราได้ทำตามแผนการเงินที่วางไว้ แต่ในบางครั้ง แม้จะวางแผนการเงินอย่างรัดกุมแล้ว แต่พอไปเจอสิ่งล่อตา ล่อใจ มาเที่ยวทั้งทีก็ต้องซื้อกลับ อาจจะทำให้ผิดแผนบ้าง บัญชีรายจ่ายจะช่วยให้เห็นภาพรวมของการใช้เงินในแต่ละวัน เราอาจจะลดทอนค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ในวันต่อไปได้ หรือต้องรัดเข็มขัดมากขึ้นเพื่อไม่ให้ใช้จ่ายเกินงบฯ ซึ่งการเห็นบัญชีนั้นยังไม่พอ ต้องอาศัยวินัยในการใช้เงินด้วย 

อ้างอิง 

• Katie Birtles. Tips on how to manage your budget when on vacation. https://bit.ly/3LDikxi 
• Molly Sears-Piccavey. 6 Tips how to manage your money when travelling. https://bit.ly/3JUU0Ww